Monday, September 27, 2010

SEPTEMBER 2010 DARING BAKER CHALLENGE: Get Creative!, My rainy and sunny day


"The sunny day"


เอาเข้าจริงแล้ว เดือนกันยายน เป็นเดือนที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเป็นพิเศษสำหรับปุ๊กเลยค่ะ ^^ แต่ว่า เมื่อได้โจทย์มาจากโฮสของเดือนนี้ (Mandy of “What the Fruitcake?!”), ให้เราทำอะไรพิเศษที่มีความเกี่ยวข้องกับเดือนกันยายน ปุ๊กก็เลยต้องมาลองคิดดู 


เดือนกันยายน เป็นช่วงของหน้าฝนค่ะ (ว่าไปปุ๊กคิดว่า ประเทศไทยเนี่ยะ มีแค่ฤดูร้อน อย่างเดียวค่ะ ร้อนมากร้อนน้อยตามลำดับ 5555) ฝนตกตลอดเดือนเลยอะค่ะ ช่วงนี้ ถึงปุ๊กจะชอบกลิ่น หรือ บรรยากาศหลังฝนตก แต่ช่วงก่อนฝนตกเนี่ยะ อากาศแย่ที่สุดเลยค่ะ ร้อนอ้าวมากๆๆๆ  

ดังนั้น คำจำกัดความของเดือน กันยายน สำหรับปุ๊กคือ ฝน, ฝน, และตามด้วยฝนค่ะ 555ก็เลยคิดว่า จะเอาอันนี้ล่ะค่ะ มาเป็น theme ของคุกกี้ในรอบนี้ เริ่มต้นด้วย ฝนที่ตกลงมา และทำให้ทุกหนทุกแห่งชุ่มชื้นไปหมด พออากาศชื้น ก็มีเห็ดขึ้นมาก (อิอิ เห็ดปุ๊กทานได้ทุกอันนะ ไม่มีเห็ดพิษ) และเราก็จะเห็นเจ้าหอยทากตัวน้อยๆ คลานไปทั่วๆ พื้นหญ้าเลยค่ะ 
เมื่อฝนหยุดตก แสงแดดก็จะส่องลงมาก ผีเสื้อก็ออกมาบินรับแสงอาทิตย์กันค่ะ  ^^, และในขณะเดียวกัน เห็ดทั้งหลายกํยังอยู่ เป็น อาหารจากธรรมชาติให้พวกเรานะ ! 

คุกกี้ สูตรนี้ก็ทำง่ายดีค่ะ แล้วก็คงรูปสวยค่ะ ถึงแม้ว่า เมื่อเอาโดออกจากตู้เย็น โดจะนิ่มลงบ้าง แต่ก็ไม่เร็วมากค่ะ เพราะปุ๊กเคยลองบางสูตรที่โดจะนิ่มลงเร็วมาก ซึ่งทำให้ทำงานลำบากเหมือนกันค่ะ ดังนั้น ถ้าเน้นว่า จะทำคุกกี้เพื่อใช้ในการตกแต่งแบบนี้ สูตรนี้ก็ดีมากเลยค่ะ รสชาติก็ดีนะคะ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงๆที่ว่า คุกกี้ จะหวานขึ้นนะคะ เมื่อเราตกแต่งด้วยน้ำตาลไอซิ่งค่ะ  ^^ สำหรับการทำขนมรอบนี้ ปุ๊กก็สนุกเหมือนเคยค่ะ อิอิ ดังนั้น ขอบคุณมากนะคะ คุณ Mandy จากบล็อก “What the Fruitcake?!”.
งั้นเราไปดูคุกกี้ ของปุ๊กกันดีกว่าเนาะ หวังว่าทุกคนจะสนุกกับมันนะคะ ส่วนปุ๊ก ขอหวังว่า พรุ่งนี้ ฝนจะไม่ตก ก็พอแล้วค่ะ ^^" 

The September 2010 Daring Bakers’ challenge was hosted by Mandy of “What the Fruitcake?!” Mandy challenged everyone to make Decorated Sugar Cookies based on recipes from Peggy Porschen and The Joy of Baking.


"The rainy day"

"The mushrooms"


Basic Sugar Cookies
Makes Approximately 36x 10cm / 4" Cookies




200g / 7oz / ½ cup + 6 Tbsp เนยจืด
400g / 14oz / 3 cups + 3 Tbsp แป้งอเนกประสงค์
200g / 7oz / 1 cup น้ำตาลทรายละเอียด
1 ไข่
5ml / 1 tsp Vanilla Extract / หรือ เม็ดจากวานิลลาบีน 1 ฝัก
เกลือเล็กน้อย



Directions
• ตีเนยม เกลือและน้ำตาล กับวานิลลา จนสีอ่อนลง และดูเนียน 
• Tip: ไม่ต้องตีจนมากเกินไปนะคะ เพราะถ้า ฟูมากไป คุกกี้ จะไม่คงรูปเวลาอบค่ะ
• ใส่ไข่แล้วตีให้เข้ากัน 




ใส่แป้งลงไปผสมด้วยความเร็วต่ำ จนเข้ากัน 
• ปั้นให้เป็นก้อน แล้วแบ่งเป็น 2 หรือ 3 ส่วน 





• รีดแป้งบนกระดาษไขให้เป็น แผ่น หนาประมาณ  5mm/1/5 inch (0.2 inch)
• แช่เย็น อย่างน้อย 30 นาที
• เมื่อครบ 30 นาทีแล้ว นำออกมาจากตู้เย็น แล้ว ตัดเป็นรูปตามที่ต้องการ 
• วางคุกกี้ที่ตัดแล้วลงในถาด แล้วนำไปเย็นอีก 30 นาที - 1 ชั่วโมงก่อนอบ เพื่อป้องกันคุกกี้ไม่อยู่ตัว 
• รีดเศาแป้งที่เหลือแล้วตัดเป็นรูปตามต้องการจนหมด 


• เปิดเตาอบที่  180°C (160°C Fan Assisted) / 350°F / Gas Mark 4.
• อบจนเป็นสีทองสวย ประมาณ 8-15 นาที ตามขนาดของคุกกี้ค่ะ
• Tip: ทางที่ดี ควรอบคุกกี้ที่มีขนาดใกล้เคียงกันในถาดเดียวกันนะคะ
• Tip: กลับด้านถาด เพื่อให้เสมอกันด้วยค่ะ
• นำออกมาพักให้เย็นบนตะแกรง 
• เมื่อเย็นแล้ว ตกแต่งตามต้องการ 






decorator's icing

3 tablespoons
meringue powder (ไข่ขาวผง)
6 tablespoons
น้ำอุ่น
1-pound
น้ำตาลไอซิ่ง


ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในอ่างผสม ตีด้วยหัวตี ประมาณ 7 นาที จนตั้งยอดแข็ง เมื่อต้องการจะใช้งาน ให้ผสมน้ำอุ่นทีละน้อย ให้ได้ความข้นตามที่ต้องการ




ผสมน้ำลงในไอซิ่งที่ละน้อย จนเหลวพอที่บีบเป็นเส้นเรียบๆได้
ในชามอีกใบ ผสมน้ำลงไปในไอซิ่ง จนเหลวขนาดที่เมื่อ ยกช้อนขึ้นมา แล้วหยดลงไป ส่วนผสมเหลวรวมกันหมด

บีบไอซิ่ง รอบนอกของคุกกี้ก่อน แล้วจึงค่อยใช้ไอซิ่งเหลว ราดลงไปตรงกลาง แล้วทาให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งก่อน ที่จะตกแต่งต่อ



September 2010 Daring Bakers Challenge #44: 
Get Creative!, My rainy and sunny day

Friday, September 24, 2010

Salted Financier: Delicious salty sweet tea companion


เกลือนี่เป็นส่วนประกอบที่เราใช้ไม่มากเลยนะคะ ในการทำขนม ส่วนใหญ่จะใช้แค่เล็กน้อย เพียงเพื่อจะทำให้รสชาติของส่วนอื่นๆเด่นชัดขึ้น (หรือเรียกได้ว่า เกลือทำให้รสชาติทั้งหมด กลมกล่อมขึ้นอะคะ) 


ปุ๊กว่าเกลือเนี่ยะสำคัญมากเลยล่ะค่ะ และบางที ถ้าเขาไม่ได้ใส่มาในสูตรปุ๊กก็มักจะใส่เข้าไปเล็กน้อยค่ะ  ^^ แต่คราวนี้ต่างออกไปค่ะ เพราะเกลือไม่ได้มาเป็นเพียงส่วนประกอบแล้วค่ะ แต่เขามาเป็นตัวเอกค่ะ 
เกลือเป็น รสชาติหลักของขนม financier สูตรนี้ค่ะ ซึ่งเยี่ยมมากเลยล่ะค่ะ เพราะหลายๆคนที่ได้ชิมบอกว่า เขาแปลกใจกับขนมที่มีรสชาติหวานๆเค็มๆชิ้นนี้ มันทานเพลินมากจนเขาไม่สามารถอดใจให้หยุดทานได้ค่ะ (ทานเสร็จยังห่อกลับบ้านไปด้วยนะคะ 555 เป็นเพื่อนของมาม้าปุ๊กเองค่ะ) 
คราวนี้ปุ๊กไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรจากสูตรมาเลยค่ะ เพียงแค่ใช้เกลือต่างชนิดไปเท่านั้น เพราะตามสูตรแล้วเขาให้ใช้ “fleur de sel” แต่พอดีปุ๊กมีแต่  Maldon sea salt ดังนั้นปุ๊กก็เลยใช้อย่างที่ปุ๊กมีค่ะ ดังนั้น ถ้าใครไม่เกลือทั้ง 2 อย่างที่ว่ามา ก็ใช้เกลือทะเลแบบไหนที่มีอยู่ที่บ้านก็ได้ค่ะ  

สูตรรอบนี้มาจากหนังสือ  うちのお菓子はブルターニュ―ローラン・ポワルヴェのフランス菓子教室 (Gâteau maison, Home style dessert from Poilvert cooking school) โดย Laurent Poilvert (เขาเป็นคนฝรั่งเศสที่ไปเปิดโรงเรียนสอนทำขนมที่ญี่ปุ่นค่ะ) หนังสือน่ารักดีค่ะ เป็นสูตรบ้านๆที่ทำง่ายๆ แต่ก็แอบมีขนมที่หน้าตาอลังการ (แต่ทำไม่ยาก) อยู่ด้วยเช่นกัน แต่ก็นะ เดี๋ยวเรื่องหนังสือเอาไว้ก่อนเนาะ อิอิ 

เอาสูตรนี้มาลงเพราะอยากให้หลายๆคนได้ลองค่ะ เพราะเป็นการใช้รสเค็มมาทำให้ขนมเค้กชิ้นเล็กนี้กลายเป็นขนมที่รสชาติพิเศษขึ้นมาเลยค่ะ  ^^.
รสชาติ หวานๆเค็มๆของเค้กชิ้นเล็กๆนี้ เหมาะมากๆ ที่จะทานคู่กับน้ำชาค่ะ (โดยเฉพาะชาจีนค่ะ เข้ากันดีมากเลย) แล้วก็ระวังนะคะ ทำนิดเดียวอาจจะไม่พอค่ะ








Salted Financier
Makes 10 (6.2x6.2cm individual brownie pan)



15g ................................. อัลมอนด์บด
30g ................................ ฮาเซลนัทบด
113g .............................. น้ำตาลไอซิ่ง
45g ................................ แป้งเค้ก
2g .................................. เกลือ
113g .............................. เนย
113g .............................. ไข่ขาว
11g ................................ Invert sugar (หรือน้ำผึ้งค่ะ ) 
....................................... เกลือ Maldon (หรือเกลือทะเลอื่นๆค่ะ)


ใส่เนยลงในหม้อ แล้วนำขึ้นตั้งไฟปานกลางจนละลาย แล้วลดไฟลง ต้มไปเรื่อยๆจนกลายเป็นสีน้ำตาล (ส่วนของนมที่อยู่ในเนย จะกลายเป็นเศษสีน้ำตาลค่ะ)
นำลงจากเตาแล้วพักให้เย็น (สามารถ เร่งให้เร็วขึ้นโดยการวางลงบน ชามน้ำแข็งค่ะ) 



เปิดเตาอบที่ 150°C แล้ว นำถั่วทั้ง 2 ชนิดไปอบ ประมาณ 15 นาที
ปล่อยให้เย็นลงก่อนนำมาใช้
ขณะเดียวกันก็เพิ่มความร้อนของเตาเป็น  230°C.



ร่อนถั่วที่อบแล้ว พร้อมกับแป้ง และน้ำตาลไอซิ่ง 
แล้วเทครึ่งส่วนของไข่ขาวลงไป ผสมให้เข้ากัน



เทไข่ขาวที่เหลือลงในชาม แล้วใส่ invert sugar (หรือน้ำผึ้ง) ลงไป แล้วนำไปวางบนชามน้ำอุ่น คนไปเรื่อยๆจนไข่ขาวมีอุณหภูมิ 40°C, และ invert sugarละลาย 



ทาพิมพ์ด้วยเนยให้ทั่ว 
เทส่วนผสมของไข่ขาวลงในส่วนของแป้ง ตามด้วยเนยละลาย 
แบ่งส่วนผสมลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้ว โรยด้วยเกลือ
นำเข้าเตาอบ แล้วลดความร้อนของเตาลงเป็น 190°C.
อบประมาณ 16 นาที หรือจนขนมเป็นสีน้ำตาลสวย 



Salted Financier: Delicious salty sweet tea companion

Monday, September 20, 2010

Fifteen Chocolate Brownies: My deep and darkness passion!






แบบว่าต่อให้ปุ๊กไม่ต้องพูดออกมาเป็นคำพูด ใครๆก็คงรู้ว่าปุ๊กชอบช็อกโกแลตมากแค่ไหนนะคะ แต่ก็นะ ใครจะอดใจไหวล่ะค่ะ ปุ๊กนะ แค่คิดถึงรสชาติเข้มๆ ขมๆของมัน บางทีก็มีความสุขแล้วล่ะค่ะ^^.

ก็เลยกลายเป็นว่าปุ๊กมักจะจบลงด้วยการทำขนมที่มีส่วนประกอบของช็อกโกแลต หรือ ทานช็อกโกแลต เกือบทุกวันเลยนะสิคะ คราวนี้ก็เหมือนกันค่ะ ก่อนจะทำบราวนี่สูตรนี้ เรียกว่า ฝันถึงเลย (อุปมาอุปไมยนะคะ อิอิ) ดังนั้น พอตื่นขึ้นมา ก็เลยต้องรีบมาทำนะสิ คราวนี้ สิ่งที่อยากทำคือเจ้านี่ค่ะ  "Chocolate brownies".
แต่ก็เป็นสูตรที่ต่างออกไปจากสูตรที่เคยลงค่ะ เพราะคราวนี้ เป็นสูตรที่มาจากร้านดัง ก็เลยมีชื่อเต็มๆว่า  "Fifteen chocolate brownies" เป็นบราวนี่สุดอร่อยจากร้านอาหารที่มีชื่อว่า Fifteen restaurant  ที่ปุ๊กกะเพื่อนได้ไปทานอาหารกลางวันด้วยกัน เมื่อทริปที่ผ่านมาค่ะ บราวนี่ที่ร้านเขาอร่อยมากเลยค่ะ เข้มข้นสุดๆ ก็เลยทำให้อยากลองมาทำที่บ้านดูบ้างค่ะ ก็ไม่อยากอะไรค่ะ เพราะปุ๊กได้สูตรมาจากคุณ  Jamie Oliver,เรียบร้อยแล้ว  ^^ ( อิอิ ล้อเล่นค่ะ พอดีว่าสูตรนี้มีอยู่ในหนังสือที่มีชื่อว่า COOK WITH JAMIE: MY GUIDE TO MAKING YOU A BETTER COOK ของเขาอะค่ะ). 

เหมือนเคยนะคะ เวลาที่ปุ๊กพูดถึงขนมที่ใช้ช็อกโกแลต ข้อที่ปุ๊กอยากให้ทุกคนลองทำตามคือ ใช้ช็อกโกแลตที่ชอบทานค่ะ เพราะว่า รสชาติของมัน จะเป็น ตัวหลัก คราวนี้ปุ๊กเองใช้ช็อกโกแลตแบบ 70% dark chocolate ค่ะ แต่ว่า สำหรับทุกคนแล้วต้องแล้วแต่ความชอบนะคะ ลองคิดดูก่อนก็ได้ว่าอยากให้ขนมของเราออกมาเป็นแบบไหน ให้คิดไว้ในใจเลยค่ะว่า นี่มัน บราวนี่ของชั้นนะ ชั้น อยากให้มัน เป็นแบบนี้ๆๆๆ อะไรอย่างงั้นนะคะ ,
สำหรับปุ๊กแล้ว บราวนี่ของปุ๊กก็ออกมาเข้มข้น ทั้งสีและรสชาติอย่างที่เห็นกันค่ะ แล้วถ้าใครถามว่าปุ๊กชอบไหม ปุ๊กตอบได้ทันทีว่า รักเลยล่ะค่ะ ดังนั้น หากใครมีความชอบในของเข้มข้น แบบนี้เหมือนๆกัน ทำไมไม่ลองทำดูคะ จะได้รู้สึกดีเหมือนปุ๊กไงล่ะ ^^ 



Fifteen chocolate brownies
Makes 1 (20x20cm square)


125g ................................ เนย
100g ................................ Dark chocolate 
75g ................................... ถั่วสับ
40g .................................. ผงโกโก้
30g .................................. แป้งอเนกประสงค์
½ tsp .............................. ผงฟู
175g ................................. น้ำตาลทราย
2 ....................................... ไข่



เปิดเตาอบที่ 180°C/350°F รองกระดาษรองอบลงในพิมพ์ขนาด 20cm/8 inch 





ละลายเนยและช็อกโกแลตด้วยกัน โดยใส่ลงในชามผสมแล้วนำไปวางบนหม้อที่มีน้ำเดือดเบาๆอยู่ คนจนละลายเข้ากัน 


ใส่ถั่วลงไปแล้วคนให้เข้ากัน 
ผสมแป้ง ผงโกโก้ ผงฟู และน้ำตาลให้เข้ากันในชามอีกใบ แล้วเทลงในชามที่ใส่ช็อกโกแลตไว้คนให้เข้ากัน
ใส่ไข่ลงไป แล้วคนจนเข้ากันดี ส่วนผสมเนียนสวย


เทแบทเทอร์ลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วนำเข้าอบ  20 นาที หรือจน ด้านนอกสุก แต่ตรงกลางยังนิ่มเล็กน้อย นำออกจากเตาพัพกให้เย็นในพิมพ์ แล้วจึงค่อยนำมาตัดเป็นชิ้นตามชอบ  


Fifteen Chocolate Brownies: My deep and darkness passion!

Wednesday, September 15, 2010

Chicken Farm Baker's Project # 26 : Jam and bake .... spoil yourself with mouthwatering jam.



เดือนนี้ พวกเราชาวฟาร์มไก่ ไม่ได้มาทำขนมกันอย่างเดียวนะคะ แต่เราทำแยมกันด้วยค่ะ ก็คงเนื่องมาจาก เพื่อนอุ้ม (โฮสของเดือนนี้ค่ะ) เธอมีภารกิจต้องทำแยมทุกปี ก็เลยคิดว่า อยากให้เพื่อนๆคนอื่น ได้ลองทำแยมกันดูบ้างค่ะ 
ก็เลยเป็นที่มาของโปรเจ็คของเดือนนี้ :Chicken Farm Baker's Project # 26 : Jam and bake .... spoil yourself with mouthwatering jam. เหมือนเดิมค่ะ พอได้โจทย์มาแรกๆ ปุ๊กอะคิดอะไรไม่ค่อยออกค่ะ 555 ก็นะ ปุ๊กเองไม่ค่อยได้ทำแยมเองหรอกค่ะ (จริงๆเพราะมีแยมที่ชอบมากๆอยู่อย่างเดียวคือ แยมราสเบอรี่ แบบไม่มีเม็ดค่ะ แล้วไอ้แยมแบบเนี่ยะ ซื้อเอามันง่ายกว่าทำเองอะนะ ^^). 
แต่ยังไง ปุ๊กก็ต้องทำแยมสักอย่างใช่ไหม อิอิ  แล้วปุ๊กเองก็โชคดีอีกอย่างนะคะ ว่ามีเพื่อนใจดีส่ง แพ็คตินมาให้ค่ะ (คุณหนึ่งคะ ขอบคุรมากนะคะ ^^) คราวนี้ก็เลยเป็นโอกาสลองของค่ะ พอเอาวิธีทำมานั่งอ่าน ก็เลยเจอสูตรนี้ค่ะ แยม strawberry และ blueberry ปุ๊กว่า มันก็น่าลองดีนะคะ  

แต่ก็นะคะ แยมรอบแรกของปุ๊ก ใสเป็น ซุปเลยค่ะ >*< อย่างว่าค่ะ ในสูตรเขาก็เตือนไว้แล้วว่า ให้ใช้น้ำตาลตามสูตร (ปุ๊กลดน้ำตาลไปเยอะๆๆๆๆๆๆมากค่ะ) คราวนี้ แยมมันก็เลยไม่เซ็ตตัว อย่างที่ควรเป็นค่ะ  ก็ไม่เป็นไรค่ะ ปุ๊กก็ทำใหม่สิ 555 แต่คราวนี้ ลดน้ำตาลจากสูตรไปแค่ 30% ค่ะ แล้วก็ต้มนานขึ้นนิดหน่อยค่ะ 
ก็เลยเป็นที่มาของคำเตือนของปุ๊กนะคะ ว่า ถ้าอยากจะใช้ เพ็คติน และใช้ น้ำตาลน้อย ให้ซื้อรุ่นที่ใช้น้ำตาลน้อยค่ะ ไม่งั้น แยมก็จะไม่เซ็ตตัวค่ะ หรือ ถ้าไม่ได้ใช้เพ็คตินเลย ก็อาจจะต้องต้มนานสักหน่อยนะคะ 

สำหรับขนมที่นำมาทานคู่กับแยม ปุ๊กเลือกที่จะทำเป็น Danish loaf, ซึ่งเป็นขนมที่ เคยมีโอกาสทานตอนไป สิงคโปร์ปีที่แล้ว (น่าเสียดายค่ะ ที่ร้านนี้ปิดไปซะแล้ว) แล้วก็อยากลองทำมาตลอดเลย คราวนี้ ได้เจอสูตรใน เวปภาษาญี่ปุ่น แห่งหนึ่ง (จริงๆแล้ว เป็น เวปของร้านขายอุปกรณ์ค่ะ เขาลงสูตรไว้ เป็นสูตรแบบง่ายๆ เพื่อเป็น การpromote สินค้าของเขาค่ะ) ปุ๊กว่า มันง่ายดีค่ะ และเมื่อลองทำ รสชาติก็ดี แล้วยังใช้เวลาทำน้อยกว่าสูตร เดนิวทั่วไปอีกด้วยค่ะ 
งั้น พร้อมที่จะพบกับ Jam and Bake ในเวอร์ชั่นของปุ๊กหรือยังคะ เดนิซโลฟ ที่ง่ายๆ แล้วก็อร่อย ที่เสิร์ฟพร้อมกับแยม สตรอเบอรี่และบลูเบอรี่ ที่หอมหวาน หวังว่าจะถูกใจหลายๆคนนะคะ 



Strawberry and Blueberry Jam


300g ................................. สตรอเบอรี่
300g ................................. บลูเบอรี่
500g ................................. น้ำตาล
........................................... น้ำเลมอน จากเลมอน 1 ลูก
............................................ Pectin (1ถุง) - ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ค่ะ


-pectin ที่ปุ๊กใช้ค่ะ-


กดผลไม้ให้แหลก ด้วยที่บดมันฝรั่ง (อย่าใช้ที่ปั่น ปั่นนะคะ),แล้วใส่ลงในหม้อ
ใส่น้ำตาลลงในหม้อ พร้อมกับน้ำเลมอน แล้วนำขึ้นต้มจนเดือดพล่าน (อิอิ น่าจะใช้คำนี้นะคะ คือ ต้มจนเดือดแรงๆโดยที่แม้จะเอาช้อนคน ฟองก็ไม่ยุบลงอ๊ะค่ะ) ประมาณ 5 นาที
ใส่เพคตินลงไป คนเร็วๆ ให้เข้ากัน แล้วตั้งไฟให้เดือดพล่านอีก 5 นาที 
เทลงในกล่องที่ล้างสะอาด หรือ ถ้า อยากจะเก็บไว้นานให้ใช้ โหลที่ sterilize ค่ะ 
Note: ถ้าไม่ใช้ เพ็คติน จะต้องต้มนานกว่านี้นะคะ แยมถึงจะข้นค่ะ 

-My Strawberry and Blueberry Jam-

Danish Loaf
Make 2 small loaf (60X250X60mm/1 loaf)


50g .................................. แป้งอเนกประสงค์
180g ................................ แป้งขนมปัง
18g .................................. น้ำตาล
4g .................................... เกลือ
5g .................................... Instant dry yeast
8g .................................... นมผง
20g .................................. เนยจืด
1 ...................................... ไข่แดง
140g ............................... น้ำ

100g ............................... เนยจืด (สำหรับทำเป็นชั้นค่ะ)


ผสมแป้งทั้ง 2 ชนิด น้ำตาล นมผง และยีสต์เข้าด้วยกัน ใส่เกลือลงไป แล้วคนให้เข้ากันอีกรอบ
เทน้ำและไข่แดงลงไป คนให้เข้ากัน
นำโดออกจากชาม แล้วนวดจนเนียน
วางเนยลงไป แล้วนวดให้เข้ากัน 


แป้งจะเนียน นิ่ม แต่จะติดมือเล็กน้อยค่ะ 
พักให้ขึ้นในอุณหภูมิห้อง ประมาณ 20 นาที แล้วนำไปพักต่อใน ตู้เย็นอีก 15 นาที 


รีดโดที่ได้ ให้มีขนาด ประมาณ 20x20 cm แล้ววางเนยลงไป แล้วปิดให้มิดด้วยแป้งจากด้านข้าง
เริ่มต้น โดยการทุบโดเบาๆ ให้แบน ประมาณ 1 เซนติเมตร (อันนี้เป็น วิธีที่จะช่วยให้ เนยไม่ไหลออกมาเป็นก้อนค่ะ) แล้ว รีดให้ยาวประมาณ 35-40 เซนติเมตร 
เริ่มต้น พับแป้งรอบแรก โดยพับแป้งด้านล่างขึ้นไปตรงกลาง และพักด้านบนลงมาปิด (เหมือนพับจดหมายค่ะ) ปัดแป้งออก แล้วนำเข้าแช่ในตู้เย็น 30 นาที โดยใส่ถาด แล้วใส่ถุงอีกรอบค่ะ เพื่อป้องกันแป้งแห้งนะคะ 


รีดแป้งให้ยาว ประมาณ 35-40 cm อีกรอบ
แล้วพับแบบจดหมาย 3 ทบเช่นเดิม แล้วแช่เย็นอีก 30 นาที  


ทาเนยที่พิมพ์ให้ทั่ว แล้วพักไว้ 
รีดแป้งให้มีขนาด 30x30 cm  แล้วตัดแบ่งครึ่ง
ม้วนแต่ล่ะครึ่งให้เป็น แท่ง
แต่ล่ะแท่งให้ตัด แบ่งครึ่ง ตามยาว แล้วหมุนให้ ทั้ง 2 ชิ้น เป็นเหมือนเส้นเชือก แล้ววางลงในพิมพ์ 


เปิดเตาอบที่ 200°C 
วางโดที่ขึ้นรูปแล้วลงในพิมพ์ แล้ว พักในอุณหภูมิห้อง 1 ชั่วโมง
นำเข้าอบ ประมาณ 20 นาที หรือ จนสีน้ำตาลสวยค่ะ 

-Danish Loaf-

Chicken Farm Baker's Project # 26 :
 Jam and bake .... spoil yourself with mouthwatering jam
Strawberry and Blueberry Jam with Danish Loaf

Printfriendly