Thursday, April 30, 2009

Mascarpone Semifredo: Easy, Icy, Delicious!

ช่วงนี้ต้องยอมรับว่า อากาศร้อนมากๆเลยนะคะ ปุ๊กนี่ต้องหาอะไรเย็นๆมาทานตลอดเลยค่ะ แต่วันนี้คิดว่า ทำไอศครีมก็ยากเกินไป เรามาทำอะไรเย็นๆ ที่มันทำง่ายๆกว่า ไอศครีมกันเถอะค่ะ ^ ^.

Semifredo สูตรนี้ง่ายมากๆเลยค่ะ แค่ตีๆ คนให้เข้ากัน แล้วก็แช่เย็นเท่านั้นเอง ก็ออกมาเป็นขนมเย็นๆ อร่อยๆได้แล้ว ง่ายกว่าทำไอศครีมเพียบค่ะ ก็ไม่ต้องไปทนร้อน ทำ custard base อยู่หน้าเตาด้วยไงล่ะ เจ๋งไปเลยใช่ไหมคะ ^_^

ต้นฉบับของสูตรนี้ เขาใช้ ricotta cheese ค่ะ แต่ปุ๊กชอบ Mascarpone มากกว่า (ก็บอกแล้วว่าชอบมากๆๆค่ะ) หวานนิดๆแล้วก็ริช ขนาดนี้ แหม จะอดใจไหวได้ไง
ส่วนผลไม้ ก็ใช้ตามใจชอบค่ะ แล้วถ้าไม่อยากใส่เหล้าก็แช่น้ำ หรือ น้ำส้มคั้นก็ได้นะคะ ตามใจค่ะ
Adaptation from:冷たいお菓子のレシピ (recipe for cool desserts) by Watanabe Izumi


Mascarpone Semifredo
Make 5 (72 ml/ pieces)


50g

ผลไม้แห้งแช่เหล้า (ตัดเป็นชิ้นเล็ก)

30g

Dark chocolate (สับ)

30g

Pistachio (อบพอหอมค่ะ)

100g

Whipping cream

2tbsp

น้ำตาลทราย

80g

Mascarpone cheese





ตี whipping cream จนตั้งยอดอ่อน

ตีmascarpone (โดยการใช้พายยางปาดไปมา) จนนิ่ม แล้วตะล่อมครีมลงไป
เทถั่ว ช็อกโกแลต และผลไม้แห้งลงไป ตะล่อมให้เข้ากัน

ตัดใส่พิมพ์ แล้วแช่ในช่องแข็งจนอยู่ตัว

Mascarpone Semifredo: Easy, Icy, Delicious!


Monday, April 27, 2009

April 2009 Daring Bakers Challenge #29: Cheesecake Centerpiece, Cafe au lait cheesecake with caramel sauce

Daring Bakers April 2009 challenge เป็น ชีสเค้กค่ะ หลักๆก็คือ ถ้าใครไม่เคยทำชีสเค้ก ก็เป็นการได้ลองทำ ของใหม่ แต่ถ้าใครเคยทำแล้ว ก็สามารถ เล่น กับ Variation ที่เขาให้มามากมายได้ค่ะ

แต่พอดีปุ๊กเคยทำ ชีสเค้กแล้ว คราวนี้ก็เลย เลือกที่จะ ทำอะไรเล่นมากกว่าค่ะ ปุ๊กเลือกทำ Cafe au lait cheesecake with caramel sauce, ด้วยเหตูผลอะไร เพื่อนๆทั้งหลาย คงพอทราบอยู่แล้วนะคะ (555 ก็มาม้าชอบ กาแฟ พี่สาวชอบ คาราเมล ได้ลูกค้าเรียบร้อยค่ะ ^ ^)

แต่ปุ๊กทำ แค่ 1/3 ของสูตรเต็มนะคะ ปุ๊กใช้พิมพ์ขนาด 10cmค่ะ แต่ก็แอบทำเรื่องไง่ 555 เล่นใส่ก้นพิมพ์ ผิดด้าน ก็เลยเอาเค้ก ออกจากพิมพ์ไม่ได้ >*< อย่างที่จะเห็นว่า เค้กปุ๊กมีฐานเค้กติดอยู่ที่ก้นไง ส่วนคาราเมลซ้อสนี่ก็ใช้สูตร ที่ทำบ่อยๆอ๊ะค่ะ แต่ถ้าใครมีสูตร ประจำของตัวเอง ก็เลือกใช้ได้ตามสบายค่ะ

คราวนี้ก็สนุกดีค่ะ ได้ลองทำรสชาติที่ต่างออกไป แล้ว ก็เป็น variation ที่อร่อยดีค่ะ

The April 2009 challenge is hosted by Jenny from Jenny Bakes. She has chosen Abbey's Infamous Cheesecake as the challenge.


Abbey's Infamous Cheesecake:
Coffee cheese cake with caramel sauce



10 cm X 2

เต็มสูตร


Crust:



60g

2 cups / 180 g

แคร็กเกอร์ป่น

40g

1 stick / 4 oz

เนยละลาย

8g

2 tbsp. / 24 g

น้ำตาล

tsp

1 tsp.

Vanilla extract




Cheesecake:



8 oz

24 oz

Cream cheese, นิ่ม

70g

1 cup / 210 g

น้ำตาล

1

3

ไข่ฟองใหญ่

75ml

1 cup / 8 oz

Heavy cream

1½ tsp

1-2 tbsp

กาแฟสำเร็จรูป

1tsp

1 tbsp.

น้ำมะนาว

1tsp

1 tbsp.

Vanilla extract

1tsp

1 tbsp

เหล้ากาแฟ




Caramel



75g

150g

น้ำตาล

½ tsp

1tsp

น้ำ

½ cup

1 cup

Whipping cream






DIRECTIONS:
1. เปิดเตาอบที่ 350 degrees F . ต้มน้ำไว้ เพื่อใช้ในการอบขนมค่ะ


2. ผสมส่วนผสมทั้งหมดของของ crust เข้าด้วยกัน


กดลงในพิมพ์ที่ต้องการ

3. ใส่ cream cheese และน้ำตาล ลงในชาม แล้วตีให้เข้ากัน ใส่ไข่ลงไปทีล่ะฟอง ตีจนเข้ากันดี แล้วใส่ cream, vanilla, น้ำมะนาว และเหล้า แล้วตีจนเข้ากันดี


4. เทแบทเทอร์ลงในพิมพ์ ที่เตรียมไว้ เคาะพิมพ์กับเคาเตอร์เบาๆ ให้ฟองอากาศน้อยลง แล้ววางพิมพ์ ลงในถาดขอบสูง แล้วเทน้ำร้อนลงไปในถาด

5. นำเข้าอบ 45 - 55 นาที, (สำหรับพิมพ์ ขนาด10 เซนที่ปุ๊กใช้ อบประมาณ 20-30 นาทีค่ะ) จนกระทั่งสุก (จะอยู่ตัว แต่จะนิ่มตรงกลางค่ะ) ปิดไฟในเตา แล้วพักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงในเตาค่ะ หลังจาก 1 ชั่วโมงแล้ว นำออกจากเตา มาพักไว้ให้เย็นสนิท แล้วจึงนำเข้าตู้เย็น

** Cafe au lait cheesecake with caramel - อุ่นครีม 1/4 cup ในไมโครเวฟ (สูตรเล็กใช้ อุ่นครีม 2ช้อนชา) แล้วใส่กาแฟผงลงไป คนให้เข้ากัน แล้วใส่ลงในครีมที่เหลือ แล้วทำตามขั้นตอนปรกติ
เมื่อเสิร์ฟ ราดด้วย caramel sauce


Make the caramel sauce:


ผสมน้ำกับน้ำตาลลงในหม้อก้นหนา คนให้เข้ากัน ใส่ครีมและเกลือไว้ในหม้อใบเล็กๆ (หรือใส่ในถ้วยแก้วที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้) นำหม้อที่ใส่น้ำตาลขึ้นตั้งไฟ ปานกลางแล้วปล่อยให้น้ำตาลละลาย อาจจะมีควันออกมาบ้างนะคะ เบาไฟแล้ว คนเล็กน้อยให้น้ำตาลละลายทั่ว เมื่อน้ำตาลเริ่มเป็นสีคาราเมลอ่อน นำออกจากเตา (น้ำตาลจะยังร้อนอยู่และสีเข้มขึ้น) นำหม้อที่ใส่ครีมขึ้นตั้งบนเตา เมื่อเริ่มมีฟองที่ด้านข้าง (หรือนำเข้าไมโครเวฟ 40 วินาที) เทลงในหม้อน้ำตาล โดยแนะนำว่าควรจะใส่ถุงมือ และ เทไกลๆตัวนะคะ เพราะเมื่อเทครีมลงไป จะมีควันลอยขึ้นมา พร้อมกับการเดือดอย่างแรงค่ะ (อาจจะกระเด็นโดนหน้าได้ค่ะ) เมื่อผสมครีมและน้ำตาลเข้ากันแล้ว ให้เทลงในชามขนาดกลาง แล้วพักจนเย็นลงค่ะ


April 2009 Daring Bakers Challenge #29: Cheesecake Centerpiece,
Cafe au lait cheesecake with caramel sauce

Saturday, April 25, 2009

Banana Mascarpone Roll: Simply sweet!

แบบว่า ต้องยอมรับว่า ชอบทาน mascarpone cheese มากจริงๆเลยค่ะ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่า ต้องมีติดอยู่ในตู้เย็นตลอดเลย ^ ^
แต่ก็แหม ใครจะไม่ชอบนะคะ ก็ทั้งนุ่ม ทั้งหวานแบบนี้ เอามาทาน คู่กับอะไรก็อร่อยค่ะ
Mascarpone cheese เองจะมีรสชาติหวานกว่า cream cheese อยู่แล้ว พอเอามาทานคู่กับพวกผลไม้ ก็อร่อยค่ะ เพราะจะไม่มีรสเปรี้ยวแฝงด้วย คราวนี้สูตรมาจากหนังสือ ชื่อ:4つの季節のシンプルチーズケーキ (Cheesecake for 4 seasons)โดย Kaori Ishibashi ค่ะ

แบบว่าไอเดียที่เอา ชีส และกล้วยหอมมาไว้รวมกันนี่ถูกใจมากๆค่ะ ก็เป็นของชอบของปุ๊กทั้งคู่เลยนิ (ว่าไปก็ชอบทานเกือบทุกอย่างค่ะ โดยเฉพาะอาหารนิ่มๆ 555 แบบอาหารเด็กอ๊ะ)

เค้กคราวนี้ก็ทำง่ายๆนะคะ แล้วยังนิ่มกว่า เค้กฟองน้ำด้วย (อย่างว่าทำชิฟฟอนก็ไม่ต้องกลัวปัญหา เค้กเป็นไต หรือแป้งเป็นก้อนด้วยค่ะ) อ้อ แล้วก็ต้องบอกก่อนว่า เมื่อม้วนเค้กแล้ว อย่าลืมแช่ตู้เย็นก่อน เสิร์ฟนะคะ เพราะครีมจะอยู่ตัว แล้วก็ตัดง่ายขึ้นค่ะ ถ้าใครไม่ได้ทำให้เด็กทาน แนะนำให้ใส่เหล้ากล้วย หรือ เหล้า ช็อกโกแลตลงไปใน Filling นิดหน่อยค่ะ ได้รสชาติพิเศษๆเชียวล่ะ



Banana Mascarpone Roll: Simply sweet!
Makes 1 roll (about 28 cm.)


Chiffon roll


80g

แป้งเค้ก

65g

น้ำตาล

3

ไข่แดง

4

ไข่ขาว

60ml

น้ำเปล่า

2tbsp

น้ำมันพืช

¼ tsp

Vanilla extract



Filling


150g

Mascarpone cheese

150ml

Whipping cream

40g

น้ำตาล

2tbsp

นม

2

กล้วยหอม



For decorating



น้ำตาลไอซิ่ง


ผงโกโก้






เปิดเตาอบที่ 180°C
วางกระดาษรองอบไว้บนพิมพ์ขนาด 30X30 cm
ร่อน แป้ง แล้วพักไว้

ตีไข่แดงกับครึ่งส่วนของน้ำตาล จนสีอ่อนลง และข้นขึ้น ค่อยๆใส่น้ำมันพืช แล้วตามด้วย วานิลลา และ น้ำ คนให้เข้ากัน

ใส่ส่วนของแป้งลงไป คนให้เข้ากันดี

ตีไข่ขาว และ น้ำตาลที่เหลือจนตั้งยอด

ตะล่อม ไข่ขาวลงไปในส่วนของแป้ง จนเข้ากันดี

เทส่วนผสมลงในถาด ที่เตรียมไว้ แล้วเกลี่ยให้เท่ากัน
อบประมาณ 12-15 นาที

Make the fill:

ตี mascarpone cheese ให้นิ่ม ใส่น้ำตาล และนมลงไป คนให้เข้ากัน

ตีครีมจนตั้งยอด แล้ว ตะล่อมลงไปในส่วนของชีส

ทา filling ให้ทั่วเค้ก แล้ววางกล้วยลงไป
ม้วนเค้ก แล้วนำเข้าแช่ในตู้เย็น 2 ชั่วโมงก่อน เสิร์ฟ

โรยน้ำตาล และผงโกโก้ ให้ทั่วเค้ก ^ ^ พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ

Banana Mascarpone Roll: Simply sweet!

Wednesday, April 22, 2009

Sweet Corn Bread: Rolled corn bread

ตามใจปุ๊กกันบ้างนะคะ เพราะวันนี้ เรามาทำขนมปังกันค่ะ แต่เป็นขนมปังใส้ข้่าวโพดหวานนะคะ คือปรกต ิก็ชอบทานข้าวโพดหวานอยู่แล้วค่ะ ยิ่งข้าวโพดต้ม ที่แบบสดๆหวานๆนี่ อร่อยนะคะ แต่ก็ ถ้าไม่มีของสด ใช้ข้าวโพดหวานกระป๋อง ยี่ห่อที่โอเคหน่อย ก็อร่อยเหมือนกันค่า ^ ^.

ขนมปังสูตรนี้ทำออกมาแล้ว ชอบมากเลยค่ะ ตรงที่มันทั้งนิ่ม ทั้งหอม อาจจะเพราะ ตัวขนมปัง ใช้ไข่แดง (ซึ่งมีปริมาณไขมันมากกว่า) แทนไข่ทั้งฟองก็ได้นะคะ ยิ่งพอมารวมกัน กับรสชาติหวานๆของข้าวโพด อืม..เข้ากันๆค่ะ

สูตรมาจากหนังสือ:パンで幸せ三昧―賢く作ると、なるほどおいしい! (LEE CREATIVE KITCHEN), เล่มเดียวกับที่ใช้ทำ
Carrot and Walnut Quick Bread ค่ะ ว่าไปตอนนี้ ก็เริ่มชอบหนังสือเล่มนี้ มากขึ้นเรื่อยๆค่ะ ในเล่มแบ่งเป็น sections ที่น่าสนใจหลากหลายดีค่ะ เช่น ขนมปังพื้นฐาน พร้อมการดัดแปลงเล็กๆน้อยๆ French toasted, sandwich, quick bread แล้วก็พวก อาหาร หรือของว่าง ที่ทำจากขนมปังด้วยค่ะ ไว้เดียวจะเอาด้านในของ หนังสือ มาลงให้ ดูกันนะคะ ^_^

งั้นเราไปทำขนมปังกันก่อนดีกว่าค่ะ ทำง่ายๆ และก็ คงถูกใจ คนที่ชอบทาน ข้าวโพดหวานเหมือนกันกับปุ๊กนะคะ



Sweet Corn Bread: Rolled corn bread
Makes 8 (8cm ramekins)


Filling


150g (น้ำหนักเนื้อ)

ข้าวโพดหวานแบบกระป๋อง



Dough


200g

แป้งขนมปัง

2tbsp

น้ำตาล

1tsp

Instant yeast

½tsp

เกลือทะเล

100 ml

นม

2

ไข่แดง

30g

เนยจืด



Egg wash

ไข่แดง + 1tbsp น้ำ (ผสมให้เข้ากัน)





ใส่แป้งผสมกับ Instant dried yeast และน้ำตาลลง ในชาม คนให้เข้ากันใส่ เกลือ แล้วคนอีกรอบ ใส่ส่วนของของเหลว ลงไปในแป้ง

ใช้พายยางหรือช้อนคันใหญ่คนให้ส่วนผสมเข้ากัน นวดเล็กน้อยให้แป้งจับตัวรวมกัน



นำก้อนแป้งออกจากชาม นวดประมาณ 2 นาทีให้แป้งเริ่มจับเป็นก้อนและยืดหยุ่นขึ้น

ใส่เนยแล้วนวด โดยใช้อุ้งมือดันแป้งไปด้านหน้า แล้วม้วนกลับ กลับด้านแป้ง 90 องศา แล้วนวดแบบเดิมต่อโดยดัน (อย่าลืมทิ่งน้ำหนักลงไปด้วยนะคะ)และม้วนกลับ เป็นจังหวะสม่ำเสมอนวดประมาณ 10-15 นาที (ขึ้นอยู่กับการออกแรงของแต่ละคนค่ะ หรือ แล้วแต่สูตรค่ะ) (ดูรูป ที่นี่ค่ะ).

นวดจนแป้งเนียน, นุ่ม, ยืดหยุ่นดี และ shiny ค่ะหรือจะลองดึงแป้งบางส่วนก็จะยืดเป็นฟิมล์บางๆได้ แปลว่านวดได้ที่แล้วค่ะ หรือสามารถเช็คโดได้อีกวิธีคือการใช้มือจับโด แล้วนับ 1-10 หากไม่มีเศษโดเละๆติดมือออกมาก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ โดพร้อมที่จะรอขึ้นรอบแรกแล้ว
พักแป้งไว้ 1 ชั่วโมง หรือ จนขึ้นเป็น 2 เท่า


ทาพิมพ์กระเบื้องด้วย เนย
รีดแป้งเป็น สี่เหลี่ยมขนาด 20x30 cm
โรยข้าวโพดลงไป แล้วเกลี่ยให้ทั่ว แล้วม้วน ให้เป็นแท่ง



ตัดเป็น 8 ชิ้น แล้ววางลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้
พักจนขึ้นเกือบ 2 เท่า

เปิดเตาอบที่ 180°C.



เมื่อโดได้ที่ ทาด้วย egg wash นำเข้าอบ อบประมาณ 15 นาที หรือจนเหลืองสวย
เมื่อได้ที่แล้วนำออกมาพักบนตระแกรง

Sweet Corn Bread: Rolled corn bread

Saturday, April 18, 2009

FRUITCAKES: Special occasion or not, I love it anyway!

ฟรุตเค้กนี่ พอเห็นทีไร ก็นึกถึงเทศกาล ปีใหม่ หรือ Christmas ทุกทีเลยนะคะ แต่ก็นะ ปุ๊กไม่สนค่ะ จะเป็นช่วงเทศกาลหรือไม่ ถ้าเป็นของอร่อยล่ะก็ ไม่มีเวลาจำกัดค่ะ 555

พอดีว่า เมื่อเดือนที่แล้ว ได้รับ e-mail มา 1 ฉบับ บอกว่า อยากได้สูตร ฟรุตเค้กที่ไม่หวานมาก ปุ๊กก็เลย ต้องทดลองทำก่อนค่ะ ว่าไป ส่วนใหญ่แล้ว ก็จะหวานจาก ตัวผลไม้แห้งด้วยค่ะ แต่สูตรนี้ ก็มีถั่ว มาช่วยแบ่งเบาความหวาน ไปนิดหน่อย ^ ^ แต่ตอนที่ปุ๊กทำปุ๊กก็ใช้น้ำตาลน้อย กว่าที่กำหนดในสูตรด้วยค่ะ ปุ๊กใช้ไป 220กรัม แต่ถ้าใครกลัวจะหวานอยู่ ก็ใช้แค่ 200 กรัมก็ได้นะคะ

ส่วนตัวผลไม้แห้งนั้น เรียกว่า ที่ให้มาเป็นเพียง ข้อแนะนำค่ะ จะใช้ชนิดไหนก็ได้ค่ะ เรียกว่าตามความชอบใจ เลยค่ะ แต่ให้อยู่ไม่เกิน 2½ pounds ก็แล้วกันนะคะ แล้วก็อย่าลืมตัดให้เป็น ชิ้นขนาดเล็กเท่าๆกันด้วยค่ะ ปุ๊กเองหมักไว้ 1 อาทิตย์ก่อนทำเค้ก (จำได้ปะคะ ว่าครั้งที่แล้วตอนทำ Light Fruit Cake: Easy Festive Cake! ปุ๊กขี้เกียจมากๆๆๆเลยค่ะ ขี้เกียจแม้กระทั่งจะหมักผลไม้ หรือเค้กอ๊ะ ^ ^).

สูตรนี้ก็ไม่ได้มาจากที่ไหนไกลค่ะ จากหนังสือ: Martha Stewart's Baking Handbook (อันนี้เป็นสูตรที่ 3 แล้วที่เอามาลงบล็อก เล่มนี้ดีค่ะ). เล่มนี้แนะนำเลยนะคะ สำหรับคนที่อยากได้หนังสือทำขนมที่ไม่ยากเกินไปค่ะ

FRUITCAKES

MAKES TWO 8-INCH CAKES


2½ cups (15 ounces)

ลูกเกดดำ

2½ cups (15 ounces)

ลูกเกดเหลือง

2 cups (9 ounces)

Dried currants (เคอร์เร็นแห้ง)

2 cups (11 ounces)

Dried sour cherries (เชอรี่แห้ง)

2½ cups (9 ounces)

Dried cranberries (แครนเบอรี่แห้ง)

1 cup (5 ounces)

Dried apricots (แอพพริคอทแห้ง) หั่นเป็นชิ้นขนาด ¼ -นิ้ว

¾ cup

น้ำผึ้ง

1 cup

เหล้า Cognac, Armagnac, หรือบรั่นดี

3 sticks (1½ cups)

เนยจืด

2¼ cups

แป้งขนมปัง

1 tablespoon

เกลือทะเล

1½ teaspoons

Ground ginger (ขิงป่น)

1½ teaspoons

Ground cinnamon(อบเชยป่น)

1 teaspoon

Ground cloves (ก้านพลูป่น)

1½ cups (5 ounces)

วอลนัต หั่นหยาบ

1¼ cups

น้ำตาล ( ปุ๊กใช้ 220g)

7

ไข่ฟองใหญ่

1½ cups

Apricot jam


ถั่วและผลไม้แห้งลำหรับตกแต่ง (optional)




ใส่ผลไม้แห้งลงในชามที่ไม่ทำปฏิกริยากับกรด (แก้ว, ceramic, หรือ plastic), เทน้ำผึ้งและ เหล้าลงไป คนให้ทั่ว แล้วหมักไว้ อย่างต่ำ 24 ชั่วโมง หรือ 2 อาทิตย์


เปิดเตาอบที่ 275°F. ทาเนยและโรยแป้งให้ทั่วพิมพ์ขนาด 8-x-3-นิ้ว 2 อัน หรือใช้กระดาษรองอบ ปูให้ทั่ว ร่อนของแห้งเข้าด้วยกัน แล้วคลุกกับถั่ว พักไว้


ตีเนยและน้ำตาล ด้วยหัวตีใบไม้จนฟู (ประมาณ 2-3 นาที) แล้วใส่ไข่ลงไป ทีล่ะฟอง คอยปาดขอบอ่างด้วย

เมื่อเข้ากันดี เทส่วนของแป้ง และ ผลไม้ที่หมักไว้ลงไป คลุกให้เข้ากัน


แบ่งส่วนผสมออกเป็น 2 ส่วน แล้วเทลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้

นำเข้าอบประมาณ 2 - 2ชั่วโมง 15 นาที หรือจนเมื่อใช้ไม้แทงลงไป จะมีเศษเค้กติดขึ้นมาแค่เล็กน้อย แล้วนำออกมาพักบนตระแกรงพักขนม จนเย็น

เมื่อขนมเย็นแล้วจึงค่อยนำออกจากพิมพ์


เมื่อต้องการตกแต่งเค้ก ผสมน้ำ ½ cup กับแยมเข้าด้วยกันในหม้อ แล้วนำไปต้มจนละลาย และเข้ากันดี กรองผ่านกระชอน


ทาแยมในขณะร้อนให้ทั่วเค้ก แล้ววางผลไม้หรือถั่วที่ใช้ตกแต่งลงด้านบน และ้วทาทับด้วยแยมร้อนอีกรอบ

FRUITCAKES: Special occasion or not, I love it!

Printfriendly