เมื่อกลางเดือน กพ. ที่ผ่านมา ปุ๊กไปไต้หวันค่ะ
จริงๆ เป็นทริปที่จองไว้ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน (หรือเกือบ 3 ปีแล้วนะ) แต่มาติดช่วงโควิด ทำให้การเดินทางต้องเลื่อนไป
เป้าหมายของการเดินทาง หลักๆ มีแค่ 2 อย่างนะคะ คือการไปร้านเบเกอรี่ (เพื่อไปกิน 555) และไปงาน Taipei International Bakery Show ค่ะ
เมืองที่ไป คือ Taipei และ Taichung ระยะเวลสั้นๆ แค่ 4 วัน
เพราะไม่เคยไปมาก่อนนะคะ ครั้งนี้เลยเลือกไปกับทัวร์ค่ะ สารภาพก่อนว่า ปุ๊กไปเที่ยวเองเยอะกว่าการไปกับทั่วร์ ก็เลยยังรู้สึกงงๆ นิดนิง 555 ทำให่รอบนี้ถ่ายรูปมาน้อยมาก เพราะต้องรักษาเวลาในแต่ละสถานที่ที่แวะไปนะคะ
เอาล่ะเริ่มต้นเดินทางด้วยกันเลย
พวกเราออกเดินทางกันตอนเช้าตรู่ของวันที่ 18 กพ. โดยเครื่องบินของสายการบินไทย ระยะเวลาในการบินสั้นมากนะคะ แค่ประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ปุ๊กไม่เพลียจากการเดินทาง แต่เพลียเพราะกลัวไม่ตื่น ^^" เพราะเราต้องไปถึงสนามบินตอน ตี 5 เลยทำให้นอนไม่หลับแทน
ช่วงนี้ คนไปเที่ยวไต้หวันเยอะมากนะคะ ทำให้เราต้องรอคิวนานพอควร กว่าจะผ่าน ตม ได้
โดยก่อนไป ปุ๊กกรอก เอกสาร ตม ไปก่อนซึ่งช่วยได้เยอะนะคะ สำหรับไฟท์เช้าแบบนี้ เพราะการต้องตั้งสติกรอกเอกสารสำคัญทั้งๆ ที่ง่วงมากนี่ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ
โดยสามารถเข้าไปกรอกตามลิงค์นี้ได้ค่ะ https://niaspeedy.immigration.gov.tw/webacard/index (2023/02)
หลังจากเสร็จเรื่องจากสนามบิน ก็ถึงเวลากินแล้วล่ะค่ะ อิอิ
ร้านแรกที่เราไปกิน คือร้าน 一私麵宅 中壢過嶺店 (320桃園市中壢區松義三街238號) เมนูของร้าน
อาหารที่ปุ๊กทานคือ ข้าวหน้าหมูซี้อิ้ว (芃派滷肉飯) ค่ะ เป็นข้าวหน้าหมูซี้อิ้วที่อร่อยมาก ข้าวเหนียวนุ่ม และหมูก็รสชาติดีสุดๆ ใครอยากลองทำเองที่บ้านจะใช้สูตรนี้ก็ได้นะ https://dailydelicious.blogspot.com/2018/12/jasmine-brown-rice-with-five-spice.html
โดยทางร้านมีเมนูอย่างพวกบะหมี่และเกี๊ยวด้วย
แต่เมนูที่ถูกใจที่สุดก็คงจะเป็นหมูสามชั้น (滷腿庫肉) 555 อร่อยแบบไม่เกรงใจพุงกันเลย
พอทานข้าวกลางวันเสร็จแล้ว เราก็หลับ ^_- อ้าวไม่ใช่ค่ะ 555
เราก็เดินทางเข้าไทเป เพื่อเริ่มเดินทางแบบหวานๆ กัน
ร้านแรกที่เราไปแวะคือ TERRA Bean to Bar Chocolate 土然巧克力專門店
ร้านช็อกโกแลต Top 5 ของไต้หวัน ที่นอกจากช็อกโกแลตจะอร่อยแล้ว ตัวร้านยังสวยจนได้รับรางวัลด้านการตกแต่งร้านด้วย
โดยช็อกโกแลตที่ขายอยู่ในร้าน เป็นช็อกโกแลตที่ทางร้านทำเอง ตั้งแต่การอบเมล็ดโกโก้ จนถึงการขึ้นรูปเป็นช็อกโกแลตแท่ง
ที่สนุก (และอิ่มน้ำมาก 555) คือช่วงที่เชฟได้ให้เราลองชิมช็อกโกแลตที่มาจากภูมิภาค และประเทศที่ต่างๆ กัน และให้เราตอบคำถาม ทำให้เราได้รู้เลยว่า ช็อกโกแลตที่ทำมาจากเมล็ดโกโก้จากแหล่งผลิตต่างกัน ก็มีรสชาติต่างกันออกไปด้วย
นอกจากช็อกโกแลตแท่งแล้ว ที่นี่ยังมีขนมและเครื่องดื่มอร่อยๆ ให้ได้ทางในร้านได้ด้วย
Chocolate tart NT$200 and Mont Blanc NT$230
氮氣冰巧克力 (Nitrogen ice chocolate) NT$180
Tiramisu NT$180 and Chocolate Mousse NT$210
單品熱巧克力 (Hot chocolate) NT$210
หลังจากนั้น เชฟก็พาเราไปชมครัวของทางร้าน ซึ่งเป็นที่ผลิตช็อกโกแลตที่ขายอยู่ในร้านนี่ล่ะค่ะ เชฟน่ารักมากตรงที่อธิบายวิธีการทำทุกขึ้นตอน และอนุญติให้เราได้ดมกลิ่นและได้ชิมเมล็ดโกโก้ด้วย
ห้องครัวขนาดย่อมนี้ สามารถสร้างสรรค์ของอร่อยออกมาได้มากมายจนไม่น่าเชื่อเลย
ใครชอบช็อกโกแลต จะซื้อช็อกโกแลตแท่งกลับไปทานที่บ้านก็ได้นะคะ โดยทางร้านมีให้เลือกหลายแบบมาก
เนื่องจากเราใช้เวลาในวันนี้ไปกับการเดินทางและช็อกโกแลตเยอะแล้ว
เราก็ควรจะได้พักค่ะ ^^
หลังจากเอาของไปเก็บ ที่โรงแรมเราก็ออกไปทานอาหารเย็นกันค่ะ
ร้านที่เราไปคือร้าน 食焱廠創意鍋物 Delectable Hot Pot Lab
หลายๆ คนทานเป็น หมาล่า นะคะ แต่ปุ๊กทานเผ็ดไม่ได้ก็เลยขอเป็นน้ำซุปแบบธรรมดา
เนื้อวัวที่เลือกมา เหนียวไปนิด แต่หมูนุ่มดีค่ะ ยังคิดอยู่ว่าน่าจะเลือกเป็นหมูสามชั้นไปซะเลยนะ
อิ่มแล้วก็ถึงเวลานอน จริงๆ แถวนี้มีตลาดกลางคืนด้วย แต่เพราะอิ่มทั้งอาหารและขนมขนาดนี้ ปุ๊กก็เลยเดินเล่นแบบไม่ได้ซื้ออะไรนะคะ
เราพักผ่อนเพื่อพร้อมไปเที่ยวต่อในวันพรุ่งนี้ค่ะ
โปรแกรมของเราวันนี้ คือการไปงาน Taipei International Bakery Show งาน Bakery ที่ใหญ่มากงานนึงนะคะ
โดยก่อนไปเราจะต้องลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านทางเวปไซต์ก่อน (ไม่มีค่าเข้าแต่ต้องโชว์ QR Code ที่เราได้รับผ่านการลงทะเบียนก่อนเข้างาน)
โดยปีนี้งานจัดที่ Taipei Nangang Exhibition Center
งานแบ่งเป็น 2 ส่วน คือชั้น 1 กับชั้น 4
ชั้น 4 เป็น ส่วนของวัตถุดิบ, อาหารและขนมสำเร็จรูป, ร้านขนม และเครื่องดื่ม
ในขณะที่ชั้น 1จะเป็นอุปกรณ์ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ค่ะ
ในงานจะมีการโชว์การทำขนมจากร้านต่างๆ (รวมถึงมีการแข่งขันรายการทำขนมด้วย)
ขนมที่เข้าร่วมในรายการแข่งขันจากประเทศต่างๆ
ต้องบอกว่า เป็นงานที่ตื่นตาตื่นใจมากค่ะ เพราะตลาดเบเกอรี่ของไต้หวันใหญ่จริงๆ ขนาดเดินตามถนนนี่เราจะเห็นร้านเบเกอรี่เยอะจนลานตา
พอมาถึงในงานก็ยิ่งทึ่ง เพราของที่โชว์และขายจากแต่ล่ะร้านน่าทานและน่าซื้อมาก
ตลาดเบเกอรี่ของไต้หวันไม่ใช่แค่ใหญ่อย่างเดียว แต่ที่นี่เน้นเรื่องคุณภาพของผลิตภัณต์สูงมาก ทำให้มีการแข่งขันกันในเรื่องของวัตถุดิบที่ใช้, รสชาติ และความคิดสร้างสรรค์
ทำให้เราได้เห็นซุ้มขายวัตถุดิบคุณภาพดีมากมาย โดยเท่าที่ปุ๊กลองเช็คราคาดู ก็ถูกกว่าเมืองไทยพอควรนะคะ น่าจะเพราะตลาดเค้าใหญ่กว่าบ้านเรา ราคาเลยไม่สูงเท่า เห็นแล้วอิจฉาค่ะ ^^" ที่เขามีโอกาสได้ใช้ของดีราคาไม่สูง และสามารถทำเบเกอรี่คุณภาพดี ออกมาขายได้ในราคาที่ไม่โหดร้ายต่อคนกินด้วย
กลายเป็นว่ามีขนมขายเยอะเกินไปจนปุ๊กเลือกไม่ถูกนะคะ สุดท้ายของที่ซื้อมาได้ กลายเป็นเหล้าแทน (จริงๆ คือขี้เมา 5555)
เพราะเรามีเวลาไม่มากนัก กลางวันเราเลยทานอะไรง่ายๆ จากร้านแถวนั้นค่ะ
เป็น ร้าน 呷七碗 (台北南港店) เป็นข้าวอบที่ทำจากข้าวเหนียว อร่อยดีค่ะ
กลับจากทานอาหารกลางวัน เราก็ไปเดินดูที่ชั้น 1 ค่ะ
เป้าหมายหลักของปุ๊กก็ไม่พ้นพิมพ์ขนมที่มีเท่าไหร่ก็ไม่พอ 555
ปุ๊กก็เลยพุ่งตรงไปที่ซุ้มของ Sanneng โดยเขาจะแยกเป็น 2 ส่วนคือส่วนโชว์กับส่วนขายนะคะ
หลังจากเลือกของที่อยากได้แล้ว เราก็เดินไปซุ้มขาย ซุ้มเล็กๆ เข้าแถวยาวพอควร แต่ก็รวดเร็วดีค่ะ พนักงานบริการดีมากด้วย ประทับใจสุดๆ ค่ะ
นอกจากแบรนของไต้หวันเอง ก็จะมีสินค้าที่เป็นของนำเข้าด้วยถ้ามีเวลาเดินเยอะกว่านี้ก็อาจจะต้องจ่ายค่าน้ำหนักเพิ่มขากลับนะ อิอิ
จริงๆ อยากมีเวลาทั้งวันนะคะ แต่เรามีเวลาอยู่ที่นี่แค่ 3 ชั่วโมงเอง
เก็บไว้ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสจะมาเดินดูทั้งวันเลย สัญญา !!!!!!!!
หลังจากเดินเยอะแล้ว เราก็ไปกินขนมกันดีกว่าค่ะ
ร้านที่เราไปเป็นร้านขนมปัง 嵜本 (Sukimoto สาขาไต้หวัน No. 16號, Lane 15, Section 5, Zhongxiao E Rd, Xinyi District, Taipei City, ไต้หวัน 110 )
โดยร้านนี้เน้นขนมปังและแยมนะคะ
แยมเป็น แยมสไตล์ญี่ปุ่น แบบรสนุ่มๆ ค่ะ
ขนมปังจะเป็นขนมปังปอนน์ ที่ทางร้านมีตัดแบ่งขายเป็นชิ้น
และมีน้องแมว 555 ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับขนม แต่น้องดูนอนแบบสงบดี เลยแอบถ่ายรูปมาค่ะ
นอกจากจะซื้อกลับบ้านได้แล้ว
เรายังสามารถสั่งขนมปังปิ้งและเครื่องดื่ม ทานในร้านได้ด้วย
ข้อดีของการสั่งทานคือ เราสามารถเลือกขนมปัง และแยมได้ 2 รสชาติ
ทำให้เราได้มีโอกาสชิมก่อนจะตัดสินใจซื้อกลับบ้านนะคะ ^^
หอบหิ้วของกันเสร็จ ก็เดินทางกันต่อค่ะ
ร้านต่อไปที่เราจะไปชิมของอร่อยคือ ร้าน Deux Doux crèmerie, pâtisserie & café
เนื่องจากร้านมีขนาดไม่ใหญ่มากและเราจองมา ทางร้านจึงปิดเพื่อให้พวกเราได้ครอบครองร้านกันนะคะ 555
นอกจากไอศครีมแล้ว ทางร้านยังมีขนมอบอื่นๆ ให้ทานด้วย
แต่เรามาทานไอศครีม ดังนั้นเราจะยังไม่สนใจนะ
เมนูในร้านจะเป็นพวก Parfait, กาแฟ และ ขนมหวานที่มีไอศครีมเป็นส่วนประกอบ (เช่นเค้กไอศครีม หรือดากัวร์ไส้ไอศครีม)
ทางร้านเน้นรสชาติตามฤดูกาล โดยช่วงที่เราไป จะมี Parfait สตรอเบอรี่, ฟิก และองุ่นค่ะ
Parfait- Figgy Chestnut NT$320
โดยแต่ล่ะองค์ประกอบที่นำมารวมกันเป็น parfait แก้วสวยของเรา ผ่านการคิดและสร้างสรรค์
ของเชฟ 陳謙璿 (Chen Qianshen) Willson เจ้าของร้าน
รวมกันเป็น Parfait แสนอร่อย ไม่ว่าจะเป็น ไอศครีมเนื้อเนียน, เมอแรงค์รสละมุ่น, ผลไม้สดรสหวาน, และเค้กรสชาติอร่อย
Here comes the strawberry NT$320
Classic Affogato NT$180
ข้อดีของการไปกันหลายๆ คน ก็คงเป็นการที่เราสามารถสั่งขนมได้หลายๆ อย่างนะคะ 555
Petite gâterie glacée aux fruits NT$180
ถึงขนมจะเต็มโต๊ะ สุดท้ายก็หมดเกลี้ยงค่ะ ^^
บอกเลยว่า ไอศครีมร้านนี้อร่อยมาก กินแล้วไม่เสียดายพุงแน่นอน
อิ่มขนมแล้ว ก็ถึงเวลากาแฟค่ะ
ไปครั้งนี้ ไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปดื่มกาแฟเท่าไหร่ คิดถึงกาแฟอร่อยๆ จับใจมาก
ก็เลยต้องให้ทางน้องที่เป็นล่ามถามไถ่ให้ โดยทางเชฟที่ร้านไอศครีมแนะนำให้เราไปที่ร้าน 鬧蟬咖啡Now Chance Coffee (Fuxing) ซึ่งห่างจากร้านไอศครีมไปโดยใช้เวลาเดินประมาณ 9 นาที
ปุ๊กกับเพื่อน ดื่มเป็น Americano ร้อน Special blended ของทางร้าน (มีให้เลือกแบ่งเป็น Light, Shadow, Forest และ Shadow)
ปุ๊กเลือก Forest ซึ่งเป็นกาแฟ ที่ร้านเขียนไว้ว่ามีโน้ตเป็น Herb, nut, and chocolate
ในขณะที่คุณเพื่อนเลือกเป็น Shadow (Dark chocolate, woody, rich crema)
เนื่องจากกินของหวานไปเยอะ ได้ทานกาแฟที่ค่อนข้างหนักหน่อย ทำให้รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย อ้อกาแฟเค้าอร่อยด้วยค่ะ อันนี้สำคัญ อิอิ
ตกเย็นก็กินข้าวนะคะ ปุ๊กทานได้ไม่เยอะเท่าไหร่แล้วค่ะ เพราะอิ่มจริงๆ แต่ก็พยายามทานพวกผักบ้าง ทริปนี้ไม่มีคำว่าว่ากินแบบสมดุลนะ 555 กลับเมืองไทยค่อยพูดคำว่าสุขภาพแล้วกัน
วันนี้เราจะออกเดินทางจากไทเป เพื่อไปไทจงกันค่ะ
แต่ก่อนจะไปเรายังมีคิวต้องไปแวะร้านขนมในไทเปอีก 2 ร้าน
โดยร้านแรกเป็นร้าน My Croissant
คงไม่ต้องทายนะคะ ว่าขายอะไร 555
แต่นอกจาก ครัวซองค์แล้ว ทางร้านก็มีขนมปังอื่นๆ อีกค่ะ
เชฟ Guillaume PEDRON
ได้มีโอกาศเจอเชฟด้วย ซึ่งเซฟให้เราได้เดินเข้าไปดูด้านในครัวขนาดย่อมๆ ของทางร้าน ที่เต็มไปด้วยโดขนมปังมากมาย
ใช้เนยดี แป้งดี ราคามิตรภาพมากด้วย
ด้านในของครัวซองค์
ร้านนี้ขนมปังรสชาติดีมากนะคะ หรือจะเรียกว่ารสจัดก็ได้ ถ้าได้ทานพร้อมกาแฟดีๆ เป็นอาหารเช้าคงจะสวรรค์เลย เสียดายว่าเราไม่สามารถชิมได้ทุกอย่าง แต่เท่าที่ลองซื้อมาชิม ไม่ว่าจะเป็นครัวซองค์, Poolish bread, Chocolate sourdough, พัฟแอปเปิ้ล, Cinnamon Cronut หรือคาราเมลชินนามอนโรล อร่อยหมดค่ะ
ก่อนจะจากลาจาก ไทเป เราจะไปแวะร้านดังอีกร้านค่ะ
คือร้าน Le Ruban Pâtisserie
ก่อนเราจะไปถึงก็มีคนมาเข้าแถวรอแล้วนะคะ -*- เราก็เลยต้องไปเข้าแถวด้วย เพราะร้านมีขนาดเล็ก ทางร้านจำกัดให้พวกเราเข้าไปทีล่ะ 5-6 คนค่ะ
ช่วงที่เราไป จะเป็นช่วงของสตรอว์เบอรี่นะคะ ขนมในตู้ก็จะเน้น สตรอว์เบอรี่ แบบเยอะมาก
โดยร้านนี้ไม่มีที่นั่งทานนะคะ เราสามารถซื้อแล้วมาทานแถวหน้าร้านได้ค่ะ (มีที่นั่งเล็กๆ อยู่)
รสชาติของขนมจะออกแนวๆ ละมุ่นๆ รสไม่จัด
แต่เพราะเราจะเดินทางไปไกลปุ๊กก็เลยไม่ได้ซื้อขนมสดเยอะนะคะ
莓香細語
มีอันนี้莓香細語 ที่ซื้อแล้วทานที่หน้าร้านเลย สารภาพก่อนว่าอ่านภาษาจีนไม่ออกค่ะ เรียกไม่ถูกเหมือนกันรู้แต่ว่าเป็นเบอรี่ 555
อาจจะเพราะเป็นเบอรี่รสชาติเลยมีมิติกว่าขนมแบบอื่นอร่อยดีค่ะ
อื่มอร่อยแล้ว ก็หลับไปได้เลย เพราะใช้เวลาอีก 2 ชั่วโมง กว่าเราจะไปถึงไทจงค่ะ
มาถึงที่นี่จุดเช็คอิน ที่ต้องไม่พลาดเลยคือ Miyahara Ice-cream
ร้านตกแต่งสวยมาก แค่เดินเข้ามาก็รู้สึกเหมือนต้องมนต์แล้วค่ะ
ในร้านนอกจากขนมแล้วยังมีชาให้ได้ลองชิมด้วย
ดีไซน์ทั้งของร้านและสินค้า ชวนซื้อมากนะคะ คือถ้าอยากจะซื้อของฝากไปให้ที่บ้านแบบเก๋ๆ ไม่ซ้ำใครปุ๊กว่าที่นี่ดีเลย
ราคาอาจจะดูเหมือนแพงกว่าที่อื่น แต่ถ้าเทียบกับของในสนามบินแล้วรสชาติต่างกันมากค่ะ
แต่ก็ต้องแลกกับน้ำหนักกระเป๋าที่เพิ่มขึ้น (เค้กสัปปะรดหนักกว่าที่คิดนะ จะบอกให้)
คือตอนแรกปุ๊กก็เพื่อนก็ยังไม่กล้าซื้อนะคะ เพราะกลัวจะโดนหลอกจากแพคเกจ 555
เราเลยเดินออกไปกินไอศครีมก่อน แล้วก็เลือกท็อปปิ้งของไอศครีมเป็นเค้กสัปปะรดและชีสเค้ก
ไอศครีมมีให้เลือกหลายรสนะคะ เนื้อไม่เนียนมาก และออกหวานหน่อย แต่ที่กรี๊ดมาก คือเค้กสัปปะรดค่ะ มันอร่อยอะ หอมเนยมากด้วย
ก็เลยถึงการ sacrified น้ำหนักของกระเป๋า ด้วยการเดินเข้าไป แล้วซื้อกลับบ้านกันค่ะ 555 เพราะที่บ้านปุ๊กบอกไว้ว่า ถ้าไม่อร่อยไม่ต้องซื้อมา
https://www.dawncake.com.tw/
หลังจากหอบหิ้วขนมกันแล้ว เราก็ไปที่ Shenji New Village 審計新村 กันค่ะ
ที่นี่มีร้านดังคือร้าน LUHO Home of Puff อยู่นะคะ
แต่ปุ๊กโดนไอศครีมถ้วยใหญ่ตัดกำลังไปแล้ว ไม่สามารถจะทานขนมต่อได้ รอบนี้เลยขอไปหากาแฟอร่อยๆ แทนค่ะ
ซึ่งน้องที่เป็นล่ามก็ไปตามหามาให้ เราเลยเดินเข้าไป ในส่วนของ Shenji New Village ที่มีร้านเแผงลอย ขายของทำมือ และได้เจอหนุ่มคนนี้ ^^
กาแฟแบบ Pour over ที่ค่อยๆ ทำทีล่ะแก้วอย่างตั้งใจ
กาแฟอร่อยมากกกกก ที่สำคัญคือเขาคั่วเองด้วย
เราก็เลยซื้อเมล็ดกาแฟ กลับบ้านกันเพื่อเป็นกำลังให้คนทำ (ของอร่อย) ดี
มารอบนี้ ไม่ค่อยได้เดินดูพวก พิพิธภัณฑ์ เท่าไหร่นะคะ ตอนที่ไปแวะที่ Cultural Heritage Park 文化部文化資產園區 เป็นช่วงที่ไม่มีกิจกรรมให้ดู
แต่ก็ได้พัก (จากการกิน) และได้เดินบ้าง ก็เป็นช่วงเวลาที่สงบดีค่ะ
夫麵 (乾) Kung-Fu Noodles NT$100
มื้อเย็นของวันนี้ เราไปที่ Chun Shui Tang Siwei Original Store (春水堂人文茶館) 1 ใน 2 ร้านที่กล่าวได้ว่าเป็นร้านชาไข่มุกร้านแรกของไต้หวัน จริงๆ มีอีกร้านที่บอกว่าตัวเองเป็น ร้านแรก แต่เนื่องจากเจ้าของร้านได้จากไปจากโควิด ทำให้ตอนนี้คงไม่มีร้านไหนสู้ Chun Shui Tang ได้แล้วค่ะ
冰珍珠奶茶 Pearl Milk Tea NT$90
พอดีว่าทางร้านชงไว้ให้เราก่อนเราจะไปถึงนานไปนิด ไข่มุกของเครื่องดื่มของพวกเราก็เลยแข็งไปหน่อยนะคะ
แต่ที่อร่อยมากกกกกกกกกกกก คืออันนี้ค่ะ 功夫麵 (乾) Kung-Fu Noodles คือกินจนหมดแบบไม่บ่นสักคำเลยล่ะ
茶香高麗菜(葷) Braised Cabbage with Green Tea NT$90
黃金煉乳饅頭 Buns with Condensed MilkNT$95
ปุ๊กว่าอาหารจีนที่นี่อร่อยเกือบทุกอย่างเลย 555 อาจจะเป็นเพราะชอบทานอาหารจีนอยู่แล้วด้วยยังคิดว่าถ้ามาอีก จะต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารให้มากกว่านี้ค่ะ
วันนี้เราเข้าพักกันที่โรงแรม Hotel 7 逢甲 เวลาผ่านไปเร็วมากนะคะ พรุ่งนี้ก็จะกลับแล้ว
เช้านี้เราทานอาหารเช้าที่โรงแรม + กับขนมปังที่ซื้อมาจากร้าน My croissant ค่ะ
Cinnamon Cronut NT$60
อิ่มอร่ยแล้ว โปรมแกรมของวันนี้ไม่มีอะไรมากนัก เพราะช่วงเช้าถึงบ่าย เราจะไปเรียนทำชาไข่มุกกันที่ 講茶台中店 TEA‧TALK TAICHUNG
เห็นอุปกรณ์แล้ว นึกถึงของที่มีแอลกอฮออล์มากกว่าชาไข่มุกนะ 555
หลักสูตรที่เรียนคือ Tea Barista Level 1
โดยมีการสอนการต้มไข่มุก
ชนิดของชา และการทำเครื่องดื่มแบบต่างๆ
สอนการสร้าง Layer ให้กับเครื่องดื่ม และการตกแต่งเบื้องต้น
จบคลาสด้วยการทำเครื่องดื่มของตัวเอง อันนี้เป็นชาไข่มุกที่ปุ๊กทำนะคะ เป็นชานมแบบมี Layers โดยใช้ Shaker เขย่าให้เกิดฟองนม (เมื่อยแขนมากค่ะ 555)
เนื่องจากไปกับทัวร์ดังนั้น ก็จะมีการไปวัดบ้างนะคะ ^^" คือไต้หวันค่อนข้างดังเรื่อง Power spot นะ
แต่เนื่องจากปุ๊กเป็นคริสเตียน ก็เลยได้แต่เดินถ่ายรูปแทน 555
เพิ่งรู้สึกว่ามาประเทศที่มีวัฒนธรรมจีนก็ตอนนี้ล่ะค่ะ
เครื่องรางหน้าตาน่ารัก ที่พี่ในกรุ๊ปซื้อมา
ทริปสั้นๆ ของเราจบลงด้วยความตื่นเต้นสุดท้าย ที่เราต้องไปลุ้นว่ากระเป๋าของเราจะน้ำหนักเกินไหม อิอิ แต่ก็ผ่านไปด้วยดีค่ะ เพราะจริงๆ คือการเข้าใจผิด เพราะเราย้ายจากเครื่องการบินไทย (เราจองการบินไทยไป) มาขึ้น EVA โดยน้ำหนักของการบินไทยที่เราได้ 30 กิโล แต่ของ EVA จะได้แต่ 24 กิโล เราก็เลยคิดว่าเราได้แค่ 24 กิโลเช่นกัน
แต่ทางสายการบิน EVA นับตามน้ำหนักของการบินไทยให้เรา ก็เลยรอดไปค่ะ แต่ก็เสียดายที่ถ้ารู้ก่อน อาจจะซื้ออะไรได้มากกว่านี้ 5555
ข้อสรุปที่ปุ๊กพบในการไปไต้หวันครั้งนี้
(เนื่องจากไปกับทัวร์ปุ๊กไม่มีข้อมูลเรื่องการเดินทางขนส่งสาธารณะนะคะ)
การเตรียมตัว
1. ปุ๊กพบว่าควรพกเป็นเงินสด กับ Travel Card (เดบิตคาร์ด สำหรับใช้ในต่างประเทศแทนเงินสด มีหลายธนาคารให้เลือกใช้ค่ะ) ไป จะสะดวกมาก ปุ๊กไม่ได้ใช้ บัตรเครดิตเลย ^^" เพราะร้านอาหารส่วนใหญ่รับเป็นเงินสดนะคะ
2. อากาศแปรปรวนมากค่ะ วันแรกอากาศร้อนมาก แต่วันสุดท้ายหนาวจนเสื้อผ้าธรรมดาที่ไม่ใช้ Heat-tech หรือ เสื้อกันหนาวหนาๆ เอาไม่อยู่ ควรเตรียมเสื้อผ้าให้เราสามารถแต่งตัวแบบ Layering ได้ คือ ถ้าร้อนก็ถอด, หนาวก็ใส่ ประมาณนั้นค่ะ และเสื้อกันฝนบางๆ ช่วยได้มากกว่าร่ม (ปุ๊กไปช่วงเดือน กพ.)
3. กรอกข้อมมูล ตม. ไปก่อน ช่วยได้เยอะนะคะ
4. ซื้อซิมที่ไต้หวัน ราคาไม่แพงนะคะ ประมาณ NT$300 แต่ปุ๊กเทียบแล้ว Roaming ไปก็โอเคมากๆ ค่ะ ราคาที่ปุ๊กใช้ประมาณ 399 บาท โดยเราไม่ต้องไปเสียเวลาซื้อซิม และสามารถใช้โทรศัพท์ได้ทันทีที่ลงจากเครื่อง
5. คนไต้หวันทั่วไปพูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง (ยกเว้นบางร้านที่มีลูกค้าต่างชาติ หรือเป็นคนรุ่นใหม่ๆ ที่กล้าพูด) และข้อมูลภาษาอังกฤษน้อยมาก แต่คนที่พบน่ารักมาก ตั้งใจช่วย และพยายามสื่อสารกับเรา เราสามารถใช้พวก app แปลภาษาได้ในระดับนึงค่ะ
อาหาร
1. อาหารจีนอร่อยค่ะ ^^ ในร้าน Chain หลายๆ ร้านรสชาติดีมาก
2. เบเกอรี่อร่อยและหลากหลายมาก คุณภาพดีราคาไม่แพงด้วย
3. กาแฟดีๆ มีหลายร้านนะคะ แต่ร้าน Chain ไม่ค่อยแนะนำ 555
4. ขนมของฝากมีขายหลายที่ (รวมถึงใน airport) แต่ถ้าจะให้ดี ซื้อตามร้านเบเกอรี่จะได้ขนมที่รสชาติดีกว่าเยอะ
ตลาด
1. ร้านค้าในไต้หวันปิดดึก อันนี้ชอบมากค่ะ เพราะหลังจากกินจนอิ่ม เรามีเวลาที่จะเดินช็อปปิ้งได้จนถึงประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง
2. ในตลาดมีของกินขายเยอะมาก ถ้าชอบพวก Street food ก็เก็บท้องไว้กินได้เลยค่ะ
ไว้ตามรอยร้านเบเกอรี่ค่ะ 🥰
ReplyDelete