เพราะซื้อไว้เยอะมากๆๆๆๆๆๆ ลองคิดดูเล่นๆ ว่า ถ้าอ่านประมาณ 3-4 วัน ต่อ 1 เล่ม ก็ยังสามารถอ่านไปได้อีก 6 เดือน 5555 แต่ถึงจะคิดแบบนี้ ก็ไม่ได้คิดว่า จะหยุดซื้อนะ เพียงแค่ต้องรีบอ่านของเก่าให้กองมันสูงน้อยลงบ้าง ก่อนที่หนังสือที่สั่งไป รอบใหม่จะมาค่ะ
แต่ถึงจะเอาแต่อ่านหนังสือ ก็ยังคงวนเวียนอยู่ในห้องครัวล่ะค่ะ บางครั้งก็แค่นั่งอ่านหนังสือในนั้น แต่ข้อเสียอย่างเดียวคือ หนังสือที่อ่านมักจะเป็น นิยายเกียวกับอาหารนะสิ อ่านไปก็หิวไป ทรมานท้องจริงๆ
การจะทำของอร่อยๆ มาไว้ทานตอนอ่านหนังสือ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร คงอยู่ที่เราจะเลือกเองว่าอยากจะใช้เวลา 2-3 วัน หรือ แค่หนึ่งชั่วโมงในการทำ สำหรับวันนี้ ปุ๊กเลือกที่จะใช้ เวลาสั้นๆ กับแค่ชามแค่ใบเดียวค่ะ
สูตรนี้ ถือว่าง่ายที่สุด เลยนะ ตั้งแต่ทำมา อิอิ โดยการใช้พายยางในการผสม, ทำให้เนื้อเค้กไม่มีฟองอากาศมากเกินไป ออกมาเป็น ชีสเค้กบาร์ ที่เนื้อเนียนแน่น อร่อย แบบง่ายๆเลย
จะใช้เบอรี่แบบอื่นในการทำก็ได้นะคะ แล้วก็จะเป็นแบบสด หรือแช่แข็งก็ไม่เกี่ยงเลยค่ะ
English: One bowl Blueberry Cheesecake
สูตรภาษาไทย: บลูเบอรี่ชีสเค้ก
日本語のレシピ: ブルーベリーチーズケーキ
Youtube: บลูเบอรี่ชีสเค้ก/ One bowl Blueberry Cheesecake/ ブルーベリーチーズケーキ
One bowl blueberry cheesecake
Make 20 cm cake
250 กรัม .................... ครีมชีส
1/8 ช้อนชา ................. เกลือ
1/2 ช้อนชา .................. วานิลลาเอ็กแทร็ก
80 กรัม ....................... น้ำตาลทราย
2 ฟอง .......................... ไข่
3 ช้อนโต๊ะ ................... แป้งเค้ก
200 กรัม ..................... วิปปิ้งครีม
1 ช้อนชา ..................... น้ำเลมอน
80 กรัม ....................... บลูเบอรี่ (สด หรือ แช่แข็ง* ก็ได้ค่ะ)
หน้า
45 กรัม ........................ บลูเบอรี่ (สด หรือ แช่แข็ง* ก็ได้ค่ะ)
*ถ้าใช้บลูเบอรี่แช่แข็ง ไม่ต้องละลายก่อนใช้
วางกระดาษรองอบลงในพิมพ์ขนาด 20 ซม.
เปิดเตาอบไว้ที่ 170℃
ใส่ครีมชีส, เกลือ และวานิลลาลงในชาม
ใช้พายปาดให้นิ่ม
ใส่น้ำตาลทรายลงไป แล้วผสมให้เข้ากัน
ใส่ไข่ลงไปทีล่ะฟอง แล้วผสมให้เข้ากัน
ร่อนแป้งลงไป แล้วผสมให้เข้ากัน
ใส่วิปปิ้งครีม และน้ำเลมอนลงไป, ผสมให้เข้ากัน
ใส่บลูเบอรี่ลงไป, คนให้เข้ากัน
เทลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้
โรยบลูเบอรี่ลงด้านบน
นำเข้าอบ 30-35 นาที
นำออกมาพักให้เย็นบนตะแกรง
แช่เย็น อย่างต่ำ 1 ชั่วโมง ก่อน เสิร์ฟ
One bowl blueberry cheesecake
No comments:
Post a Comment