เวลาพูดถึงมัฟฟิน บางคนอาจจะคิดว่า ต้องเป็นขนมที่แห้งๆ ไขมันน้อยใช่ไหมคะ
แต่ครั้งนี้ มัฟฟินของเรา ไม่ได้ออกมาแห้งนะ ถ้าจะพูดไปคือฉ่ำมากๆ ด้วย ^^
แต่ไม่ได้ว่า ฉ่ำมากจากการที่ไขมันเยอะนะคะ แต่หลักๆ มัฟฟินสูตรนี้ ฉ่ำจาก ทั้งแครอทสุกที่บดลงไปผสม และสับปะรดด้วย แต่ยังไม่หมดค่ะ เพราะเรายังมีน้ำตาลทรายแดง ที่ช่วยให้มัฟฟินคงความฉ่ำได้นานขึ้นอีกต่างหาก
เพราะมีทั้งแครอทและ สับปะรด มารวมกับกลิ่นอบเชยหอมๆ ปุ๊กว่ารสชาติและกลิ่นของมัฟฟินสูตรนี้ให้ความรู้สึกโฮมมี่มาก นอกจากเวลาทานจะรู้สึกดีแล้ว มัฟฟินของเรายังไฟเบอร์สูงด้วย โดยได้ไฟเบอร์จากแครอท, สับปะรด รวมถึงแป้งโฮลวีทที่ใส่ลงไปด้วย แล้วยังมีเมล็ดทานตะวันอบ ที่เพิ่มเนื้อสัมผัสให้กับมัฟฟิน อิอิ ดูแล้วเป็นมัฟฟินที่ใส่ของดีๆ ลงไปเยอะจริงๆ
แฟนๆ ขนมที่ไม่ใช้ผลิตภัณต์นม ก็น่าจะถูกใจสูตรนี้ด้วยนะคะ เพราะเราไม่ได้ใส่ ผลิตภัณต์นม ลงไปเลยคนแพ้นมก็กินได้สบายๆ ค่ะ
มัฟฟินฉ่ำๆ กับเครื่องดื่มร้อนๆ สักแก้ว จะทานเป็น มื้อเช้า หรือของว่างตอนบ่าย ก็อร่อยได้ทุกเวลาค่ะ
Carrot & Pineapple Muffins
ทำได้ 7 ชิ้น
120 กรัม .................. สับปะรด (น้ำหนักสุทธิ)
200 กรัม .................. แครอท (น้ำหนักสุทธิ)
2 ช้อนโต๊ะ .............. น้ำจากสับปะรดกระป๋อง (หรือน้ำเปล่า)
140 กรัม ................. แป้งเค้ก
85 กรัม ................... แป้งโฮลวีท
1/4 ช้อนชา ............. ผงฟู
1/2 ช้อนชา ............. เบกกิ้งโซดา
1 ช้อนชา ................. อบเชยบด
150 มิลลิลิตร ........... น้ำมันรำข้าวคิง
1/4 ช้อนชา ............. เกลือ
50 กรัม ................... น้ำตาลทรายแดง
50 กรัม ................... น้ำตาลทราย
1 ฟอง ...................... ไข่
50 กรัม ................... เมล็ดทานตะวันอบ (แบบไม่มีเกลือ)
เปิดเตาอบเตรียมไว้ที่ 200℃
ใส่ถ้วยกระดาษลงในพิมพ์ มัฟฟิน 7 ชิ้น
ปุ๊กใช้น้ำมันรข้าวคิงค่ะ
ตัดสับปะรดเป็นชิ้น ประมาณ 1.5 ซม.
ตัดแครอทให้เป็นชิ้นแล้วใส่ลงในชามที่สามารถใช้กับไมโครเวฟได้ใส่น้ำจากสับปะรดกระป๋อง หรือน้ำเปล่าลงไป
ปิดฝาแล้วนำเข้าไมโครเวฟ (600W) นาน 8-10 นาที หรือจนนิ่ม
บดแครอทให้ละเอียดด้วยเครื่องตี, แล้วพักให้เย็นสนิท ก่อนใช้
ร่อนผงฟู, เบกกิ้งโซดา และอบเชยบดลงไป คนให้เข้ากัน
ใส่แครอทที่บดไว้ลงไป แล้วตีให้เข้ากัน
ใส่ส่วนของน้ำมันที่ผสมไว้ลงไป, ตะล่อมให้เข้ากัน
ใส่สับปะรด และเมล็ดทานตะวันอบ (แบบไม่มีเกลือ) ลงไป
ตะล่อมให้เข้ากัน
No comments:
Post a Comment