เริ่มต้นเช้านี้ ด้วยการไปกินอาหารเช้าแบบชิคๆ ร้านที่เราไปชื่อ The Crafty Egg เป็นคาเฟ่ที่อยู่ในย่านศิลปะอย่าง Stokes Croft ค่ะ
ร้านนี้บรรยากาศสบายๆ ตกแต่งเก๋ๆ ทำให้อดไม่ได้ที่จะยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปนะคะ
เมนูของที่นี่จะเน้นอาหารเช้าและบรันช์ แล้วยังมีเมนูมังสวิรัติหรือวีแกนให้เลือกด้วย ดูหลากหลายและมีความน่าสนใจมากกว่าร้านสไตล์ greasy spoon cafe ค่ะ
Latte £3.7
กาแฟที่นี่ก็หอมเข้มใช้เมล็ดคั่วพิเศษจากโรงคั่วท้องถิ่นด้วย
อาหารที่เราสั่งมา
ทั้งเมนูธรรมดาๆ แบบ English Breakfast
หรือเก๋ๆ แบบ TURKISH EGGS £11.75
Royally Crafty £11.5
Florentine Dream £9.5
อาหารอร่อยมากค่ะ คอมบิเนชั่นของส่วนผสมดี ตกแต่งมาน่ากิน แต่ล่ะจานให้ความรู้สึกถึงความตั้งใจทำ คือร้านนี้จะแพงกว่าร้านที่เราไปกินเมื่อวานประมาณเกือบเท่าตัว แต่พอชิมแล้ว ก็คิดว่าราคาไม่ได้สูงเกินไป หากเทียบกับคุณภาพนะคะ
หลังจากอิ่มอร่อย ก็ถึงเวลาเดินทางแล้วค่ะ
ก่อนจะออกจาก Bristol เราจะไปดูสัญลักษณ์สุดคลาสสิกของเมือง Bristol นั่นก็คือ Clifton Suspension Bridge ค่ะ
สะพานแขวนสวย ๆ ที่พาดข้ามช่องหุบเขา Avon Gorge และแม่น้ำ River Avon ยาวกว่า 214 เมตร
สะพานนี้ออกแบบโดย Isambard Kingdom Brunel
วิศวกรอัจฉริยะในศตวรรษที่ 19 ที่เริ่มต้นวางแผนตั้งแต่ปี 1829 แต่สะพานกลับเสร็จหลังจากเขาเสียชีวิตไปแล้วเกือบ 30 ปี
เปิดใช้อย่างเป็นทางการในปี 1864ฝั่ง Clifton มีช่องเปิดด้านข้าง ส่วนฝั่ง Leigh Woods จะเป็นซุ้มโค้งที่ดูสูงชันกว่า เป็นดีไซน์ที่ตั้งใจให้เข้ากับภูมิประเทศโดยรอบ”
ถ้าใครมาที่นี่ แนะนำให้แวะเข้าไปที่ Clifton Suspension Bridge Visitor Centre ที่อยู่ในฝั่ง Leigh Woods เพราะนอกจากจะมีของที่ระลึกน่ารักๆ ให้เลือกซื้อแล้ว ที่นี่ยังเป็นศูนย์ข้อมูล ที่เริ่มตั้งแต่ความฝันของวิศวกรจนกลายเป็นจริง
ข้างในมีทั้งโมเดลจำลอง เครื่องมือเก่าที่ใช้สร้างสะพาน และภาพถ่ายหายากจากยุควิกตอเรีย
ดูแล้วรู้สึกว่าวิศวกรรมเมื่อร้อยกว่าปีก่อนนี่สุดยอดกว่าที่เราคิดเยอะนะคะ เจ้าหน้าที่ที่นี่ก็น่ารักมาก พร้อมตอบคำถามและให้ข้อมูลเป็นอย่างดี
และสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการแวะที่นี่ ก็คงเป็นของที่ระลึกค่ะ
เราจะเห็นของที่ระลึกเกี่ยวกับบอลลูนด้วย นั่นเป็นเพราะว่า ในทุก ๆ ปี เมือง Bristol จะจัดงาน Bristol International Balloon Fiesta เป็นเทศกาลบอลลูนที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1979
แต่ไม่ได้ตรงกับช่วงที่เราไป เราเลยไม่ได้เห็นภาพสวยๆ แบบนั้น แต่เราก็ได้ บอลลูนกลับมาแทนนะ
ตอนนี้เราก็พร้อมที่จะ ออกเดินทางจาก Bristol แล้ว
เราเดินทางไปแมนเชสเตอร์โดยใช้มอเตอร์เวย M5 แล้วขับขึ้นไปทางเหนือ จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ
แต่ระหว่างทางเรายังมีอีก 1 จุดหมายค่ะ ก็คือ Farm shop & Kitchen Gloucester Services Northbound
ครั้งที่แล้วเคยพาไปแวะ service station มาแล้ว แต่ที่นี่พิเศษกว่า เพราะที่นี่เป็น “ฟาร์มช้อป” ที่เน้นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นค่ะ
ที่นี่ถือว่าเป็นสวรรค์ของสายกินเลย
ไม่ว่าจะเป็นผักและ ผลไม้ตามฤดูกาล
ขนมปังที่มีให้เลือกหลากหลายแบบ
ขนมอบแบบต่างๆ
ทั้งเค้ก, บราวนี่, คุกกี้
เยอะจนเลือกไม่ถูกกันเลย
ช็อกโกแลทั้งในรูปแบบของขนมอบ และแบบแท่ง
เมนูพาสตรี่ และเจลาโต้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์จากฟาร์มของครอบครัว
เนื้อชนิดพิเศษจากฟาร์มท้องถิ่น
ชีสแฮนด์เมด
รวมถึงของท้องถิ่นอื่นๆ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าราคาของที่นี่จะสูงกว่า service stations ที่อื่น เพราะเขาโฆษณาว่ามันเป็นของท้องถิ่น หรือ Premium นะคะ ^^
เราซื้อของกินไปกินบนรถกัน
Cumberland sausage, Scotch egg £4.45
ของที่ซื้อมากิน ถือว่าเลือกได้ถูกนะ ไม่ว่าจะเป็น Scotch egg ที่ไข่แดงเยิ้ม, เนื้อไส้กรอกที่นำมาหุ้มก็หอมเครื่องเทศ และปรุงรสชาติได้ดี
Italian TIRAMISU OPERA £4.25
เค้กที่ซื้อมาลองก็ถูกใจ ทั้งในด้านของไอเดีย และรสชาติที่เข้มข้นมาก
วันนี้เป็นการเดินทางที่ได้กินของอร่อยทุกอย่าง กินอิ่มนอนหลับไป เดี๋ยวครั้งหน้าเราจะไปเที่ยวแมนเชสเตอร์แน่นอนค่ะ



































No comments:
Post a Comment