Saturday, December 29, 2007

คัพเค้ก รสช็อคโกแลต และกาแฟ MEZZO MEZZO CUPCAKES

คัพเค้กเหมาะกับปาร์ตี้มากๆค่ะ และในวันนี้ขอแนะนำ Mezzo Mezzo cupcakes คัพเค้ก รสช็อคโกแลตและกาแฟ หน้าตาสวย จากหนังสือ:Cupcakes Galore ค่ะ เมื่อคืนนี้นั่งอ่านก็ คิดว่านี้ละใช่เลย ที่อยากได้ รสช็อคโกแลตและกาแฟ เป็นรสชาติที่หลายๆคนชอบอยู่แล้ว แล้วคัพเค้กสูตรนี้ก็เหมาะกับทุกปาร์ตี้ เลยค่ะ สูตรนี้ไม่หวานจัด แต่ได้ รสชาติของช็อคโกแลตและกาแฟแบบเต็มๆ ยิ่งเพิ่ม ช็อคโกแลตและกาแฟ ครีมเข้าไปด้วย (รสชาติของครีมเหมือนไอศครีมกาแฟเลย อร่อยมากๆ) ถ้าไม่อยากทานครีม แค่คัพเค้ก ก็อร่อยค่ะ แต่ถ้าทานพร้อมกับ ครีมก็จะอร่อยขึ้นอีกเยอะเลย

MEZZO MEZZO CUPCAKES

(คัพเค้ก รสช็อคโกแลต และกาแฟ)

ทำได้16 อันค่ะ


1cups (190g)

แป้งอเนกประสงค์

2 teaspoons

ผงฟู

1 teaspoon

เบกกิ้งโซดา

1 teaspoon

เกลือ

½ cup (50g)

ผงโกโก้

1 cup (210g)

น้ำตาลทรายแดง

3 tablespoons

กาแฟสำเร็จรูป (instant coffee powder)

½ cup/1 stick

เนยจืด ละลายแล้วทิ้งให้เย็น

2 ฟอง

ไข่

1 cup

sour cream

CHOCOLATE WHIPPED CREAM FROSTING

1 cup

heavy whipping cream, แช่เย็น

3 tablespoons

น้ำตาล

1 tablespoon

ผงโกโก้

1 tablespoon

กาแฟสำเร็จรูป (instant coffee powder)

เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 350°F.

ใส่ส่วนผสมที่เป็นของแห้งทั้งหมดลงในชามขนาดใหญ่ แล้วคนให้เข้ากัน พักไว้

ใส่เนย ไข่ และ sour cream ลงในชาม แล้วใช้ที่ตีไข่คนให้เข้ากัน แล้วเทใส่ในชามที่มีของแห้งอยู่ คนเร็วๆ ด้วยช้อนอันใหญ่ (หรือพายยาง)จนเข้ากันดี

ตัก ใส่ลงในพิมพ์ ที่ใส่ถ้วยกระดาษไว้ ให้อยู่ประมาณ ของถ้วย อบประมาณ 15-20 นาที หรือ จนเมื่อใช้ไม้จิ้มไปตรงกลางแล้วไม่มีเศษเค้กติดออกมา

นำออกจากเตาทิ้งไว้ให้เย็น

ระหว่างนี้เตรียม frosting โดย ใส่ครีม, น้ำตาล, ผงโกโก้ และ กาแฟสำเร็จรูป ลงในชาม คนให้เข้ากัน แล้วแช่ไว้ในตู้เย็นจน น้ำตาล, ผงโกโก้ และ กาแฟสำเร็จรูป ละลาย แล้วจึงนำออกมาตีจนขึ้นฟู ตั้งยอดได้

แต่งหน้าเค้กก่อนเสิร์ฟ

สูตรคัพเค้กจาก:Cupcakes Galore

Thursday, December 27, 2007

Happy Home Made Bread by Mikasan


みかさんの手づくりパンのある楽しい食卓 (ขนมปัง(มื้อที่มีขนมปัง) ที่ทำได้เองที่บ้าน (ทานแล้วมีความสุข) โดย Mikasan (ลองคลิกเข้าไปดูWeb page ของเธอก็ได้นะคะ เป็นภาษาญี่ปุ่นค่ะ) ก็อย่างชื่อว่ามาสูตรในเล่มก็ไม่ยาก ไม่ต้องใช้เครื่องนวด ไม่ต้องทำเป็นมาก่อนค่ะ

หนังสือเริ่มต้นด้วยสูตรพื้นฐาน 2 สูตร คือขนมปังที่ใช้ไขมันต่ำ (lean dough) กับไขมันสูง (rich dough)แล้วก็ด้วยการเปลี่ยนส่วนผสมนิดหน่อยเราก็จะได้ขนมปังแบบใหม่ (ฟังแล้วคุ้นไหมค่ะเป็นแบบเดียว Sausage Rolls ที่เปลี่ยนส่วนผสมนิดหน่อยก็ได้ขนมปังแบบใหม่ละค่ะ เพราะขนมปังมีส่วนผสมไม่มากนักดังนั้นแค่เปลี่ยนนิดหน่อยก็มีผลมากแล้วค่ะ)

หนังสือก็มีรูปเยอะเหมือนเคยค่ะ ตั้งแต่เริ่มต้นทำขนมปังจนทำเสร็จ ทำให้รู้สึกว่าถ้าทำตามละก็ทำได้แน่นอน มีสูตรขนมปังหลายสูตรค่ะ ขนมปังนมสด ขนมปังน้ำตาลทรายแดง ขนมปังเทเบิลล์โรล ขนมปังลูกเกด ขนมปังฝรั่งเศส หมั่นโถว (แถมศุตรหมูต้มซีอิ้วแบบญี่ปุ่นด้วย) และอื่นๆค่ะ

เคยลองทำ ขนมปังลูกเกดจากตำราเล่มนี้ออกมาก็ดีค่ะ หอมนิ่ม อร่อย แต่วันนี้ลองทำ ขนมปังนมสดทรงสี่เหลี่ยมミルク スクエア(Milk square bread) ที่มีสูตรพื้นฐานเดียวกัน ออกมาก็อร่อยค่ะ แต่ขอเตือนว่าอย่าอุ่นใน ไมโครเวฟนะคะ เพราะจะกลายเป็นขนมปังเหนียวทันทีค่ะ

ขนมปังนมสดทรงสี่เหลี่ยม

Milk square bread

ทำได้ 9 ชิ้นค่ะ






แป้งขนมปัง 200 g
Instant dried yeast 5 g
น้ำตาล 10 g
เกลือ ½ tsp
เนยจืด (นิ่ม) 20 g
นมสด 140 ml
Egg wash
ไข่ 1 ฟอง + น้ำ 1 ช้อนโต๊ะค่ะ

ใส่แป้งและยีสต์ลงในชาม คนให้เข้ากัน ใส่น้ำตาล เกลือ แล้วคนอีกรอบ เทนมลงในชาม ใช้ช้อนอันใหญ่คนให้เข้ากัน แล้วใส่้เนยลงไป นวดจนเนยละลายไปในเนื้อโด แล้วนำขนมปังขึ้นจาก ชามวางลงบนโต๊ะที่ โรยแป้งไว้บางๆ นวดประมาณ 10นาทีจน เนียนและยืดหยุ่นดี

นำโดใส่ลงในชามที่ทาเนยไว้ทิ้งไว้จนขึ้น 2 เท่า ประมาณ 1 ชั่วโมง


เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180°C นำขนมปังออกจาก ชามแล้วกด (หรือรีดก็ได้ให้เป็นแผ่น 4เหลี่ยมขนาด 18x18 cm แล้วตัดเป็น 9 ชิ้นชิ้นละ 6x6cm แล้ววางลงในถาด ปิดด้วยผ้า แล้วรอจนขึ้นเกือบ 2เท่าประมาณ 30 นาที ทาด้วย egg wash ก่อนเข้าอบ

อบประมาณ 10นาที หรือจนสีเหลืองสวย

สูตรขนมปังจาก: みかさんの手づくりパンのある楽しい食卓

Wednesday, December 26, 2007

daily delicious life


สิ่งดีๆไม่ได้มาพร้อมกับราคาที่แพงเสมอไปนะคะ คิดว่าคงจะเชื่อแบบเดียวกันใช่ไหมค่ะ เวลาที่ได้ออกไปนอกบ้านเป็นเวลาที่จะได้ update พวกอาหาร หรือ ของหวานที่มีขายอยู่ (เพราะส่วนใหญ่จะทำอาหาร ขนม ทานเองมากกว่าออกไปทานนอกบ้านค่ะ) ดังนั้นเวลาอย่างนี้ก็เป็นเวลาที่ดี เหมือนสิ่งดีๆเล็กๆน้อยนะคะ ได้เดินดูของน่ารักๆ display ของอาหารหรือขนมที่สวยๆ ตามร้านอาหารหรือcafé แม้ว่าจะไม่ได้ซื้อหรือทานอะไรเลย เพราะเวลาที่ได้ดูของเหล่านี้ก็ทำให้มีแรงบันดาลในการลองทำอะไรใหม่ๆ สำหรับคนที่ชอบทำอาหารที่บ้านได้เช่นกัน

แต่วันนี้พิเศษค่ะ เพราะเจอของอร่อยชิ้นใหม่ 1 ชิ้น “Almond Long” – Crispy sticks of caramelized almond cookie ของ Starbucks Coffee ค่ะ อร่อยมากเลย กรอบๆ หวานไม่มาก แต่ที่เอามาลงไม่ใช่ว่าได้ค่าโฆษณานะคะ แต่กำลังคิดว่าจะทำเองได้อร่อยแบบนี้หรือเปล่า ดังนั้นวันนี้ขอนั่งทานขนมพร้อมกับลองค้นสูตร ในตำราอาหารที่มีอยู่ แล้วเมื่อไหร่ที่เจอจะเอามาแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันค่ะ




Monday, December 24, 2007

มูซากา MOUSSAKA

สำหรับคนที่ชอบยุ่งอยู่ในครัว (เหมือนคนเขียน) แนะนำให้ลองทำ Moussaka ค่ะ เพราะว่ากว่าจะทำได้ต้องใช้เวลาพอประมาณเลย อย่างแรกต้องทำ meat sauce ทอดมันฝรั่ง ทอดมะเขือยาว ทำ béchamel sauce แล้วถึงจะได้อบค่ะ แต่ก็แค่ขู่ไปงั้นละคะ เพราะจริงๆแล้วสามารถเตรียมทุกอย่างไว้ก่อน แช่ตู้เย็นไว้ แล้วค่อยเอาออกมาก่อนที่จะอบ วางเรียงในถาด แล้วจึงทำค่อยทำbéchamel sauce พอเข้าอบก็เสร็จแล้วค่ะ สูตรนี้มาจากหนังสือ Falling Cloudberries: A World of Family Recipes, ตำราอาหารจาก Tessa Kiros ที่เพิ่งเขียนถึงหนังสือ: Apples for Jam: Recipes for Life ของเธอไปเมื่อหลาย วันก่อน จริงๆก็ไม่รู้นะคะว่าสูตรดั้งเดิมเป็นยังไง ใช้อะไรบ้างแต่ที่รู้คือ moussaka สูตรนี้อร่อยค่ะ ดังนั้นถ้ามีของที่บ้านแล้วยังไม่รู้จะทำอะไรทาน ไปทำ moussaka กันในครัวดีกว่าค่ะ ถึงยุ่งแต่ก็สนุก แล้วยังได้อาหารเย็นอร่อยๆด้วย

มูซากา MOUSSAKA

ทานได้ 8 คนค่ะ




2

Large eggplants (about 1 kg/2 lb 4oz in total)

about 250 ml (1 cup)

น้ำมันมะกอก (Light olive oil)

1

หอมหัวใหญ่ , สับละเอียด

3 tablespoons

Italian parsley สับหยาบๆ

2 กลีบ

กระเทียม สับละเอียด

850 g (1 lb 14 oz)

หมูสับ

1 teaspoon

อบเชยป่น (Ground cinnamon )

½ teaspoon

ออริกาโนแห้ง (Dried oregano )

1

เบย์ลีฟ์ (Bay leaf)

125 ml (½ cup)

ไวน์ขาว

500 g (2 cups)

มะเขือเทศบดแบบเข้มข้น (Tomato passata)

500 g (1 lb 2 oz)

มันฝรั่งปอกเปลือก

Béchamel sauce

120 g (4 oz)

เนย

125 g (1cup)

แป้งอเนกประสงค์

1 litre ( 2cups)

นมสดอุ่น

ลูกจันทร์ป่น ( freshly grated nutmeg)

ถาดที่ใช้ ถาดวงรี ยาว 35 เซนติเมตร กว้าง 24เซนติเมตร ลึก 6 เซนติเมตร

ตัดด้านบนของมะเขือยาวออกแล้ว ฝานเป็นแผ่นบางขนาด 0.5 เซนติเมตร โรยเกลือให้ทั่วแล้วใส่ไว้ในถ้วยเพื่อให้รสชาติขมออกมาจากมะเขือยาว

ใส่น้ำมัน 3 ช้อนโต๊ะลงในกระทะ ผัดหอมหัวใหญ่ จนนิ่มและเป็นสีเหลืองทอง ใส่ และกระเทียมผัดต่อประมาณ 1นาที จนกระเทียมมีกลิ่นหอม แล้วจึงใส่หมูบด ผัดจนน้ำเริ่มเหือด และหมูสุก ใส่อบเชย เกลือและพริกไท เมือเนื้อหมูสีสวยแล้วใส่ไวน์ รอจนไวน์ละเหยเกือบหมด แล้วจึงใส่มะเขือเทศบด ต้มต่อไปอีก 30 นาที ไม่ต้องปิดฝา คนเป็นพักๆ

ต่อไปฝานมันฝรั่งเป็นเผ่น ขนาด 0.5 เซนติเมตรแล้วซับให้แห้ง ทอดในกระทะที่ใส่น้ำมันมะกอกประมาณ 4-5 ช้อนโต๊ะ จนสุก (สีสวย) แล้วจึงนำขึ้นมาพักไว้บนกระดาษ kitchen paper เพื่อซับน้ำมันบางส่วน พักไว้แล้วโรยเกลือเล็กน้อย

นำมะเขือยาวไปล้างน้ำ ซับให้แห้ง แล้วทอดในกระทะเดียวกันกับที่ทอดมันฝรั่ง ทอดจนสุก นิ่มโดยเมื่อใช้ส้อมจิ้มจะไม่มีส่วนที่แข็งอยู่ ขึ้นมาพักไว้บนกระดาษ kitchen paper เพื่อซับน้ำมันบางส่วน พักไว้

เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ180°C วางครึ่งส่วนของมะเขือยาวไว้ในถาดแล้ววางทับด้วยมันฝรั่ง ใส่ครึ่งส่วนของ meat sauce แล้ววางทับด้วยมะเขือยาวที่เหลือ แล้วใส่ meat sauce ให้หมดกดลงเล็กน้อยให้เหลือที่ด้านบนประมาณ 2½ cm

คราวนี้ก็ทำ béchamel ได้แล้วค่ะ

ใส่เนยลงในหม้อรอให้ละลาย แล้วใส่แป้งลงไป คนให้แป้งไม่เป็นก้อน แล้วจึงใส่นมอุ่นต้องคนตลอดนะคะ ใช้มือข้างหนึ่งคน อีกข้างหนึ่งตัดนมใส่ รอจนซอสเนียนและข้นพอประมาณ ใส่เกลือพริกไท ลูกจันทร์ป่น ปล่อยให้เดือดประมาณ 1-2 นาที คนตลอดเวลา จนได้ซอสข้นและเนียน ชิมและปรุงรสอีกรอบ

เทซอสลงในถาดแล้วนำเข้าอบ ประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหรือจนสีสวย โดยวางถาดรองไว้ด้านล่าง(เผื่อซอสล้น) นำออกมาพักไว้สักพักก่อนตัดเป็นชิ้น เสิร์ฟร้อนหรือไม่ร้อนก็ได้ค่ะ

สูตรอาหารจาก: Falling Cloudberries: A World of Family Recipes

Saturday, December 22, 2007

คุกกี้เนยถั่วแบบคลาสสิก

CLASSIC PEANUT BUTTER COOKIES

คุกกี้เนยถั่วเป็นที่ชื่นชอบของหลายคนนะคะ (รวมถึงคนเขียนด้วย, เพราะชอบ เนยถั่วมาก สามารถทานได้ทั้งกระปุก แบบไม่ต้องมีตัวช่วยค่ะ) คุกกี้สูตรนี้รสชาติเหมือนทานเนยถั่วเลย (แต่ถ้าชอบแบบมีถั่วด้วยแนะนำให้ทานจากกระปุกหรือใส่ถั่วอบแบบเค็มลงไปในสูตรนะคะ) การที่ใช้ที่ตักไอศครีม จะช่วยให้คุกกี้ ออกมาเท่ากันและเวลาอบก็จะเสมอกันค่ะ คุกกี้สูตรนี้อร่อยที่สุดตอนทำเสร็จใหม่ๆค่ะ

สูตรนี้มาจากนิตยสาร Martha Stewart Living magazine (issue: July 2006) ค่ะถึงจะเก่าแต่ถ้าทำออกมาแล้วอร่อยก็คงไม่มีใครว่านะคะ

คุกกี้เนยถั่วแบบคลาสสิก

CLASSIC PEANUT BUTTER COOKIES

ทำได้ 4โหล


2½ cups

แป้งอเนกประสงค์

1½ teaspoons

เบกกิ้งโซดา

½ teaspoon

เกลือ

1 cup

เนยจืด

1 cup

น้ำตาลทราย

1 cup

น้ำตาลทรายแดง

2

ไข่

1½ cups

เนยถั่ว แบบละเอียด

ใส่แป้ง เบกกิ้งโซดา และเกลือ ลงในชาม แล้วคนให้เข้ากันด้วยที่ตีไข่ ใส่เนยและน้ำตาลลงในอ่างผสมของเครื่องตี ใช้หัวใบพัดตีด้วยความเร็วปานกลางประมาณ 2-3 นาที จนฟู ใส่ไข่และเนยถั่วตีต่อไปจนเข้ากัน

ลดความเร็วเครื่อง ใส่แป้งลงไป โดยแบ่งเป็น 3 รอบ ตีให้พอเข้ากัน แล้วนำไปใส่ชามคลุมด้วยพลาสติก แช่เย็นประมาณ 30 นาที

เปิดเตาอบรอไว้ที่อุณหภูมิ 180°C ใช้ที่ตักไอศครีม ขนาด 1½ นิ้ว ตัดแล้ววางลงบนถาดที่รองด้วยกระดาษรองอบ ให้ห่างกันประมาณ 1½ นิ้ว กดคุกกี้ให้แบนด้วยส้อม โดยกดสลับกัน ให้เป็นตาราง อบจนสีเหลืองสวย ประมาณ14-16นาที เอาออกจากเตาพักไว้บนถาด 5นาที ก่อนเอาออกมาวางไว้บนตะแกรงพัก จนเย็น

สูตรจาก: Martha Stewart Living magazine

ฉบับ: July 2006

Thursday, December 20, 2007

PANETTONES เปนเนทโตน

ใกล้จะคริสต์มาส แล้วนะค่ะ การเตรียมตัวสำคัญมากในการจัดปาร์ตี้ (ไม่ว่าจะครอบครัวใหญ่หรือเล็กค่ะ) ก็เลยนั่งคิดว่าจะทำอะไรดีน้า ไม่เอาเค้กผลไม้แล้วละคะ จะเป็น Christmas bread ดีไหมหนอ ใส่ผลไม้แห้งเยอะๆ Panettone เป็นไงละ

Panetttone เป็น ขนมปังที่ทานตอนคริสต์มาส (Christmas bread) ของอิตาลี มักจะทานตอนช่วง Christmas และปีใหม่ค่ะ แต่วันนี้เราทำทานกันเองที่บ้าน โดยใช้สูตรจากหนังสือ Martha Stewart's Baking Handbook (แต่ถ้าใครอยากบินไปทานที่อิตาลีก็ได้น้า แต่อันนี้อร่อยมากๆค่ะ) ผลไม้แห้งที่ใช้ก็ตามใจเลยค่ะ เปลี่ยนประเภทได้แต่ใช้ปริมาณเท่าเดิมนะคะ จะได้อร่อยตามใจเรา วันนี้แปลงสูตรโดยใช้ถ้วยกระดาษจะได้แบ่ง กันได้ทั่วถึงคะ วันนี้พอทดลองทำเสร็จ ทุกคนบอกว่าคงต้องทำมากกว่าเดิมค่ะ

เปนเนทโตน

PANETTONES

ทำได้ 2 LOAVES

(12 ถ้วยกระดาษขนาด 6.5 x 6.5 cm.)





cup

น้ำอุ่น (ประมาณ 110°F)

2 envelopes ( ¼ ounce each)

active dry yeast

1 pound 5 ounces (about 4 cups)

แป้งอเนกประสงค์ (เพื่อเวลานวดด้วยนะคะ)

½ cup

นมอุ่น (about 110°F)

cup

น้ำตาล

4ฟอง

ไข่

3ฟอง

ไข่แดง

1 teaspoon

pure vanilla extract

1½ sticks (¾ cup)

เนยจืด ตัดเป็นชิ้นเล็ก (แล้วละลายเนย (นอกเหนือจากสูตร)ไว้สำหรับทาชาม พลาสติกด้วยนะคะ)

1 ¼ teaspoons

เกลือ

2 cups

ผลไม้แห้งหลายๆอย่าง, เช่น currants, raisins, และ cranberries

ผิวมะนาวขูด

ผิวส้มขูด

1 tablespoon

ครีม

โรยยีสต์ลงในน้ำอุ่นในชามขนาดกลาง คนจนยีสต์ละลาย ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วใส่ แป้งลงไป½ ถ้วย คนให้เข้ากัน แล้วปิดด้วยพลาสติก พักไว้จนขึ้น 2 เท่า ประมาณ 30 นาที

โรยยีสต์ลงในนมในชามขนาดกลาง คนจนยีสต์ละลาย ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วใส่ น้ำตาล ไข่ ไข่แดง 2 ฟอง และ vanilla คนให้เข้ากันแป้งลงไป½ ถ้วย คนให้เข้ากัน

ใส่เนย เกลือ และแป้งที่เหลือ อีก ถ้วยไว้ในอ่างผสมของเครื่อง ตีด้วยหัวตีใบพัด ด้วยความเร็วต่ำ จนส่วนผสมเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่ส่วนผสมของไข่ ตีจนเนียนเข้ากัน แล้วใส่ส่วนผสมของยีสต์กับน้ำที่ผสมไว้ลงไป ตีต่อด้วยความเร็วสูงจน แป้งยืดหยุ่นดี (เหนียวเลยค่ะ) ใช้เวลาประมาณ 9 นาที ใส่ผลไม้แห้งลงไป นำโดออกจากอ่างผสมใส่ชามขนาดใหญ่ที่ทาเนยไว้ ปิดด้วยพลาสติก พักไว้จนขึ้น 2 เท่า ประมาณ 2 ชั่วโมง

ทาเนยให้ทั่วพิมพ์ panettone 2 อัน พักไว้

นำโดออกจากชามวางลงบนพื้นโต๊ะที่โรยแป้งไว้ นวดเล็กน้อยจนเนียน แบ่งโดเป็น 2 ส่วนปั้นเป็นก้อนกลม แล้วใส่ลงในพิมพ์ วางไว้ในถาด คลุมด้วยพลาสติก พักไว้จนโดขึ้นเหนือพิมพ์เล็กน้อย ประมาณ 45-60 นาที ในระหว่างนั้นเปิดเตาอบรอไว้ที่ อุณหภูมิ 400°F

ผสมครีมกับไข่แดงด้วยกัน ทาที่หน้าขนมก่อนเข้าอบ แล้วใช้กรรไกรตัดหน้าขนมเป็นกากบาท

อบประมาณ 15 นาที แล้วลดอุณหภูมิลงเหลือ350°F คอยกลับถาดเพื่อให้เหลืองทั่ว อบประมาณ 45 นาทีหรือจนอุณหภูมิภายใน ได้190°F (ถ้าด้านบนเหลืองเกินไปให้ใช้ aluminum foil ปิดไว้แล้วอบต่อ) นำออกจากเตา แล้วพักไว้ที่ตะแกรงประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงเอาออกจากพิมพ์ แล้วพักไว้จนเย็น

สูตรจาก: Martha Stewart's Baking Handbook

Wednesday, December 19, 2007

Apples for Jam recipes for life

โดย Tessa Kiros



ก็เป็นที่ทราบว่ามักจะซื้อตำราอาหาร ก็ตรงที่ความสวยของหนังสือเป็นอันดับแรกนะคะ เล่มนี้ก็เหมือนกันค่ะ น่ารักมากๆ เจอกันครั้งแรกตอนที่ไปอังกฤษ แต่ไม่ไหวแล้วค่ะ ซื้อหนังสือไปหลายเล่มแล้ว เดี๋ยวกระเป๋าจะหนักเกินไป พอกลับมาก็รีบสั่ง พร้อมกับหนังสือชื่อ Falling Cloudberries: A World of Family Recipes ซึ่งเขียนโดยคนเขียนคนเดียวกัน

ถ้าชอบตำราอาหารที่มีเรื่องเล่าเล็กๆน้อยๆ ที่มาพร้อมกับสูตร ก็น่าจะชอบค่ะ สูตรอาหารมาพร้อมกับเรื่องราว และความทรงจำของผู้เขียน โดยศุตรอาหารจะแบ่งเป็น สีค่ะ red, orange, yellow, pink, green, gold, white, brown, monochrome, stripes, และ multicolor, โดยแต่ละสีจะแสดงถึงสีของอาหาร

อาหารจะเป็นแบบหลากหลายแต่ไม่ใช่ fusionนะค่ะ ค่อนข้างไปทาง Italian มากกว่าประเทศอื่น (Tessa Kiros ตอนนี้อาศัยอยู่ที่ Tuscany กับครอบครัวค่ะ) ส่วนหนึ่งมาจากการที่เธอเดินทางไปหลายประเทศ และครอบครัวของเธอก็เป็นส่วนผสมของหลายเชื้อชาติค่ะ เวลาดูสูตรในเล่มนี้ จะรู้สึกได้ถึงความทรงจำในครั้งเราเด็กๆ อาหารก็จะเหมาะสำหรับเด็กๆด้วยนะคะ (น่าจะเพราะเธอยังเลี้ยงลูกอยู่ค่ะ) ส่วนประกอบของอาหารหาได้ไม่ยาก แล้วก็ดูน่าทานมากด้วย

ชอบหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่เฉพาะ สูตรแต่พอดูแล้วรู้สึกอยากลองทำ อาหารหลายๆอย่าง แล้วก็รู้สึกดีเวลาได้ดูรูปสวยๆในหนังสือด้วยค่ะ เพราะอาหารในเล่มไม่ได้แบ่งเป็น course ดังนั้นสามารถดูได้ทุกเวลาเลย อาหารเช้า กลางวัน เย็น ของหวาน หรือของทานเล่น พอนั่งดูไปเรื่อยๆก็มักจะอยากเข้าครัวไปลองทำเลยค่ะ

หนังสือเล่นนี้ไม่ได้เป็นตำรา แบบ professional cookbook แต่เป็นอาหารที่เราทำทานได้ทุกๆวัน แล้วถ้าคุณเป็นคนที่ชอบทำอาหารทานที่บ้าน คุณก็คงจะรักหนังสือเล่มนี้เช่นกันค่ะ



ภาพจากหนังสือ: Apples for Jam: Recipes for Life

Monday, December 17, 2007

ครัมบัน CRUMB BUNS


ดูสูตรยาวขนาดนี้แล้วอาจจะไม่อยากลองทำใช่ไหมค่ะ แต่ไม่ยากมากหรอกค่ะ เพราะตัวขนมปังพอผสมเสร็จแล้วก็เอาเข้าตู้เย็นได้เลย ไม่ต้องเสียเวลารอ ส่วนครัมจะทำไว้ก่อนก็ได้ พอเราพร้อมที่จะอบขนมก็แค่เอาทุกอย่างมารวมกัน สูตรนี้แปลงสูตรเดิมเล็กน้อยโดยใส่ครัมเข้าไปในตัวขนมปังด้วย แต่ถ้าใครอยากทำตามอย่างหนังสือ: Great Coffee Cakes, Sticky Buns, Muffins & More: 200 Anytime Treats and Special Sweets for Morning to Midnightก็ทำครัมสูตรเล็กแล้วโรยเฉพาะด้านบนของขนมปังค่ะ

ขั้นแรก ต้องทำตัวขนมปังก่อนนะคะสูตรนี้ชื่อว่า Rich sour cream dough ตามสูตรจะทำขนมปังได้ 2 ปอนด์ค่ะ ทำครัมบัน ครึ่งส่วนค่ะ (เก็บครึ่งหนึ่งไว้ในช่องแข็งไว้ทำขนมปังแบบอื่นได้อีก หรือจะอบเป็น แบบ plainก็ได้นะคะเนื้อขนมปังนุ่มอร่อยค่ะ) ,

Rich sour cream dough

ทำได้ 2 ปอนด์

COFFEE CAKES ได้ 1 อันใหญ่ หรือขนาดกลาง 2 อัน

หรือ INDIVIDUAL COFFEE CAKES 2-3 โหลค่ะ

ตัวขนมปังต้องแช่เย็นหนึ่งคืนก่อนขึ้นรูปค่ะ



4 tablespoons

น้ำตาล

¼ cup

น้ำอุ่น (110°F to 115°F)

1 package

active dry yeast (หรือ1¾ teaspoons instant dry yeast)

3 cups

แป้งอเนกประสงค์, ใช้วิธีตักใส่ถ้วยแล้วปาด

(เพิ่ม ¼ cup ถ้านวดด้วยมือค่ะ)

1 teaspoon

เกลือ

¾ cup(1½ sticks)

เนยจืด ตัดเป็นชิ้นขนาด ครึ่งนิ้ว เพื่ออีก 1 ช้อนชาสำหรับทาหน้าขนมปัง

2 ฟอง

ไข่

½ cup

sour cream

1 teaspoon

pure vanilla extract



ทำตัวขนมปังก่อนค่ะ

1. เอาน้ำอุ่นใสในชามใบเล็กแล้วเทออก เพื่อให้ชามอุ่น ใส่น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำอุ่นลงในชาม โรยยีสต์ (ไม่ต้องคนนะคะ) แล้วปิดไว้ด้วยจาน ทิ้งไว้ 5นาที แล้วจึงคนด้วยส้อม ปิดฝาอีกรอบแล้วทิ้งไว้อีก 2-3นาทีหรือจนมีฟองขึ้น

Note: ถ้าใช้ instant yeast, ไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะเริ่มทำขนมปังได้เลยแต่ต้องเอายีสต์กับแป้งผสมกันก่อนนะคะ

2. ใส่ แป้ง3 ถ้วยและน้ำตาลที่เหลืออีก 3ช้อนโต๊ะ และเกลือในอ่างผสมของเครื่อง ใส่เนยลงไป และตีด้วยความเร็วต่ำโดยใช้หัวตีใบพัด จนแป้งและเนยจับตัวกันเป็นก้อนเล็กๆ ประมาณ 2-4 นาที

3. ใส่ไข่, sour cream และ vanilla.ลงในชามใหญ่ คนให้เข้ากันแล้วเทลงไป ในแป้ง พร้อมกับส่วนผสมของยีสต์

Note: ถ้าใช้ instant yeast, ใส่น้ำลงในไข่, sour cream และ vanilla.ลงในชามใหญ่ คนให้เข้ากันแล้วเทลงไป ในส่วนผสมของแป้งกับยีสต์ ผสมด้วยความเร็วต่ำ จนแป้งรวมตัวเป็นก้อน

Note: โดนิ่มมากๆค่ะ (แต่จะแข็งตัวขึ้นเมื่อแช่เย็นค่ะ)

4. ทาเนยให้ทั่ว ชามขนาดกลาง แล้วนำโดใส่ลงไป ทาด้วยเนยละลายปิดด้วยพลาสติก แช่เย็นไว้หนึ่งคืน

ต่อมาทำ Carole’s favorite streusel, อันนี้อร่อยมากค่ะ

Carole’s favorite streusel

สูตรเล็กสามารถใช้โรยหน้า

COFFEE CAKES ได้ 1 อันใหญ่ หรือขนาดกลาง 2 อัน หรือ MUFFINS 1โหลค่ะ

สูตรใหญ่สามารถใช้โรยหน้า

COFFEE CAKES ขนาดกลม 10นิ้ว หรือถาดเหลี่ยม 9 X 13 X 2 หรือ MUFFINS 16-18อันค่ะ

สูตรเล็ก

สูตรใหญ่


6 to 7 tablespoons

2/3 cup (10 )tablespoons

เนยจืด

1 cup

1½ cups

แป้งอเนกประสงค์, ใช้วิธีตักใส่ถ้วยแล้วปาด

½ cup

¾ cup

น้ำตาล

½ teaspoon

¾ teaspoon

อบเชยป่น

¼ teaspoon

½ teaspoon

ผงฟู

¼ teaspoon

½ teaspoon

เกลือ

1. ละลายเนยในหม้อขนาดพอเหมาะ แล้วทิ้งให้เย็น

2. ใส่แป้ง น้ำตาล อบเชย ผงฟู และเกลือ ลงในชาม คนให้เข้ากัน ใส่ลงไปในหม้อที่ละลายเนยไว้ คนด้วยส้อม จนส่วนผสมจับตัวเป็นครัม (crumbs) ใช้นิ้วบีบให้แป้งติดกันเป็นก้อน แล้วค่อยแยกออกให้เป็นชิ้นเล็ก พักไว้อย่างน้อย 10-15นาทีก่อนใช้

ครัมบัน

CRUMB BUNS

ทำได้ 9 ชิ้นค่ะ

ครึ่งสูตร ( 1 ปอนด์)

Rich Sour Cream Dough

1 สูตรใหญ่

Carole’s Favorite Streusel

1 ฟอง

ไข่ ตีกับน้ำ 1 ช้อนชา สำหรับทาขนม

1. เอาขนมปังออกจากตู้เย็นก่อนขึ้นรูปประมาณ 1 ถึงชั่วโมง ก่อนขึ้นรูป

2. ทาพิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด 9 x 9 x 2 นิ้วด้วยเนย โรยแป้งไว้บางๆบนโต๊ะ นวดโดเบาๆจนเนียน (ประมาณ 6-8ครั้ง) วางให้เป็นแผ่น สี่เหลี่ยม จัตุรัส แล้วตัดเป็น9ชิ้นเท่าๆกัน แล้วปั้นเป็นก้อนกลม

3. แผ่แป้งเป็นแผ่น แล้วใส่ครัมลงตรงกลาง รวบแป้งให้ปิดครัมให้หมด กดให้แน่น ทำให้ครบทุกอัน

4. วางแป้งที่ปั้นแล้วลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ โดยวางด้านเรียบขึ้น วางเรียงสามแถว แถวละสามอัน พยายามเว้นช่องไฟให้พอดีกัน ปิดด้วยผ้าชื้น รอให้ขึ้นประมาณ 45นาที หรือจนแป้งเริ่มพองตัวติดกัน

5. ก่อนอบ 15นาที ให้เปิดเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 350°F.

6. ทาด้วย egg wash โรยครัมที่เหลือทั้งหมดลงบน ตัวขนมกดเล็กน้อยเพื่อให้ติด นำเข้าอบประมาณ 30-35 นาที หรือจนครัมสีเหลืองสวย เอาออกจากเตาพักไว้บนตะแกรงจนเย็น แบ่งเป็นชิ้นก่อนเสิร์ฟ

แปลงสูตรจาก: Great Coffee Cakes, Sticky Buns, Muffins & More: 200 Anytime Treats and Special Sweets for Morning to Midnight, โดย Carole Walter

Saturday, December 15, 2007

ขนมปังนาน แบบฟูนุ่ม

ดูไม่เหมือนขนมปังนานทั่วไปเท่าไหร่ใช่ไหมคะ แต่นี้เป็นขนมปังนานจริงๆ ปรับสูตรมาจากหนังสือ The Professional Pastry Chef: Fundamentals of Baking and Pastry โดย CIA (The Culinary Institute of America) ขนมปังนาน (Naan Bread) ในสูตรต้นตำรับ จะแบนกว่านี้เพราะว่าจะไม่มีการ ปล่อยให้ขึ้นอีกรอบก่อนนำเข้าอบค่ะ พอขึ้นรูปแล้วก็อบเลยทันที แต่ว่านานสูตรนี้จะนุ่มนิ่มกว่า สามารถตัดครึ่ง (เหมือนแฮมเบอร์เกอร์บัน) แล้วทำเป็น แซนวิซได้ค่ะ ส่วนตัวชอบทำแซนวิช โดยใช้ขนมปังนี้ แต่จะใช้ทานกับแกงก็ได้ อร่อยเหมือนกันค่ะ
ขนมปังนาน แบบฟูนุ่ม
ทำได้ 8 ชิ้นค่ะ



14oz/ 397g แป้งอเนกประสงค์
⅓oz/ 11g ยีสต์
6floz/ 180ml น้ำ
2floz/ 60ml เนยละลาย, แล้วก็อีกนิดหน่อยสำหรับทาขนมปังค่ะ
2oz/ 57g โยเกิร์ตรสธรรมชาติ (ไม่ low fatนะคะ)
1 ฟอง ไข่
1oz/ 28g น้ำตาล
1½tsp/ 7.5g เกลือ

ใส่แป้งและยีสต์ ลงในอ่างผสมของเครื่อง ใส่น้ำ เนยโยเกิร์ต ไข่ และเกลือ ตีโดยใช้หัวตีตะขอ ประมาณ 4 นาที โดจะเหนียวมากแต่ยังแฉะ อยู่นะคะ
เอาโดออกจามอ่างผสม แล้วทำให้เป็นก้อนกลม (ใช้แป้งช่วยกันไม่ให้ติดมือ ประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะนะคะ) วางโดลงในชามคลุมด้วยผ้า รอให้ขึ้นประมาณ 1 ชั่วโมง
แบ่งแป้งเป็นก้อน ก้อนละ 3oz/85g แล้วปั้นเป็นก้อนกลม ปล่อยให้แป้งพัก 15-20 นาที แล้วรีดแป้งให้เป็นวงรี โดยเริ่มจากก้อนแรกที่แบ่งออกมา


วางขนมปังลงบนถาดที่ปูกระดาษลองอบไว้ รอให้ขึ้นประมาณ 30นาที หรือจนแป้งพองพอควร นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 425°F/ 219°C จนสีเหลืองทอง พองสวยค่ะ ประมาณ 10นาที ทาด้วยเนยละลายทันทีที่ออกจากเตา
ปรับสูตรจากหนังสือ: The Professional Pastry Chef: Fundamentals of Baking and Pastry

Thursday, December 13, 2007

วุ้นกะทิกาแฟ

สำหรับพวกเราคงรู้จักวุ้นกันดีอยู่แล้ว เพราะเหมาะกับอากาศที่ร้อนๆอย่างบ้านเราค่ะ ตรงที่ไม่ละลายในความร้อนแบบ เจลาติน เนื้อก็ต่างกับเจลาตินตรงที่จะ แข็งกว่า แต่เวลาเอาไปแช่เย็นซักหน่อยแล้วเอามาทาน อื้อชื่นใจค่ะ ถ้าไม่เคยลองทำวุ้นมาก่อนสูตรนี้ไม่ยากที่จะลองค่ะ

วุ้นกะทิกาแฟ

ประมาณ 8 ถ้วยใบเล็ก (5.5x5cm)



วุ้นผง 5 กรัม
หัวกะทิ 1 ถ้วย
เกลือป่น 3 กรัม
น้ำตาลทรายทำหน้ากะทิ 13 กรัม
น้ำตาลทรายทำตัววุ้น 120 กรัม
ผงกาแฟ 2 ½ ชช +น้ำเดือด ¼ ถ้วย
น้ำ 1¾ ถ้วย

ทำหน้ากะทิโดยเคี่ยวน้ำ ½ ถ้วย กับวุ้นผง 2 กรัม พอเดือดและวุ้นละลาย ใส่น้ำตาล กะทิ และเกลือต้มให้เดือดอีกลดไฟอ่อนสุดหรือยกหม้อลงวางในอ่างน้ำอุ่น

ตักหน้ากะทิหยอดใส่พิมพ์ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ทิ้งไว้พอหน้ากะทิอุ่นๆและตึง
ทำตัววุ้น โดยใส่น้ำ 1 ¼ ถ้วย และวุ้นผง 3 กรัมที่เหลือลงในภาชนะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำตาล คนให้น้ำตาลละลาย ใส่น้ำ น้ำกาแฟ คนให้ทั่ว ลดไฟอ่อนสุด หรือยกหม้อลงวางในอ่างน้ำอุ่น
ตักตัววุ้น1 ช้อนโต๊ะ หยอดทับหน้ากะทิ หยอดสลับกับหน้ากะทิจนเต็มพิมพ์ ทิ้งไว้ให้เย็น แคะออกจากพิมพ์โดยการใช้มีดกรีดระหว่างตัวกับพิมพ์ เคาะเบา

Tuesday, December 11, 2007

คุกกี้ เนื้อร่วนใส่ช็อคโกแลตชิพ

CHOCOLATE CHIP SAND COOKIES



เจ้าของวันเกิดค่ะ

วันนี้วันเกิดหลานชายค่ะ แต่ไม่ได้ทำเค้กนะคะ เพราะเจ้าของวันเกิดไม่ทานค่ะ (คือเขาไม่ชอบ ครีม หรืออซิ่งทุกชนิดค่ะ) เจ้าตัวอยากได้ คุกกี้ค่ะ แต่ตัวเองคิดไม่ออกว่า จะทำอะไรดี ก็เลยให้ เจ้าของวันเกิดเลือกเอง ใช้เวลากับตำราขนมไม่นาน ก็เอาสูตรนี้มาให้ดู “chocolate chip sand cookies”. บอกว่าอยากทานแบบนี้ สูตรนี้มาจากหนังสือ ChocolateChocolate ที่เพิ่งเขียนถึงเมือหลายวันก่อนค่ะ วันนี้เลยเริ่มทำแต่เช้าเพราะอยากให้เสร็จก่อนหลานตื่น แล้วก็ใช้วิธีเอาแป้งไป แช่ในช่องแข็ง ก็เลยเสร็จเร็วขึ้นเยอะค่ะ (ระหว่าง1 ชั่วโมง ในช่องแข็งกับ 5 ชั่วโมงในช่องธรรมดา ก็ต่างกันเยอะนะคะ) ผลออกมา ได้คุ้กกี้หวานกรอบ แล้วเจ้าของวันเกิดว่ายังไงเหรอค่ะ ถูกใจมากๆ เราก็มีความสุขแล้วค่ะ

คุกกี้ เนื้อร่วนใส่ช็อคโกแลตชิพ

CHOCOLATE CHIP SAND COOKIES

ทำได้ 4 โหลค่ะ



ตัวคุกกี้

4 cups

แป้งอเนกประสงค์

1 teaspoon

เบกกิ้ง โซดา (baking soda)

1 teaspoon

ครีม ออฟทาร์ทาร์ (cream of tartar)

½ teaspoon

เกลือ

½ ปอนด์

เนยจืด (นิ่มนิดหน่อย)

1 cup

น้ำมันพืช

1 cup

น้ำตาลทรายละเอียด

1 cup

น้ำตาลไอซิ่ง (confectioners’ sugar)

4 ฟอง

ไข่แดง

2½ teaspoons

vanilla extract

1 ¾ cups

ช็อคโกแลตชิพเม็ดเล็ก (miniature semisweet chocolate chips)

น้ำตาลสำหรับคลุกคุกกี้

ประมาณ 2 cups

น้ำตาลทราย

ร่อนแป้ง เบกกิ้งโซดา ครีม ออฟ ทาร์ทาร์ และเกลือ ใส่ใว้ในกระดาษไข

ตีเนยโดยใช้เครื่องตี ความเร็วปานกลาง ประมาณ 3 นาทีในขณะที่เครื่องยังตีอยู่ เทน้ำมันลงไปช้าๆ จนหมด

ใส่น้ำตาลทราย แล้วตีต่อไปประมาณ 2 นาที แล้วใส่น้ำตาลไอซิ่ง ลงไป ตีต่อไปอีก 2นาที

ใส่ไข่แดงและ vanilla extract ส่วนผสมจะดูเหมือนครีม ลดความเร็วลงต่ำแล้ว ใส่ส่วนผสมของแป้งครึ่งหนึ่งลงไป ใส่ช็อคโกแลตชิพ แล้วค่อยใส่แป้งที่เหลือทั้งหมด จนเข้ากัน

วาง plastic wrapไว้บนถาด แล้วนำคุกกี้วางลงไป กด ให้แบนปิด ด้วย plastic wrap แล้วแช่เย็นประมาณ 5 ชั่วโมง หรือแช่ช่องแข็ง 1 ชั่วโมง

ก่อนจะปั้นคุกกี้ เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ375°F (190°C) วางกระดาษรองอบไว้บนถาด

ปั้นคุกกี้ เป็นก้อนกลมโดยใช้แป้งประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ คลุกน้ำตาล แล้ววางลงบนถาด โดยเว้นช่องว่าง ให้ห่างกันประมาณ 2-2 ½ นิ้ว กดให้แบนโดยใช้ส้อม โดยจุ่มส้อมลงในน้ำตาล เพื่อไม่ให้แป้งติด

นำเข้าอบประมาณ 15-16 นาที หรือจนสีเหลืองสวย กลับด้านถาด เพื่อให้ขนมสุกทั่ว เมื่อนำออกมา ทิ้งคุกกี้ไว้ในถาด 2 นาทีก่อนเอาออกจากถาด

จากหนังสือ: ChocolateChocolate

Printfriendly