Saturday, February 28, 2009

February 2009 Daring Bakers Challenge #27: For the Love of Chocolate, Flourless Chocolate Cake, Chocolate Valentino!

เดือนนี้ เรียกได้ว่า บล็อกปุ๊กนี่เป็นบล็อกแห่งความรักจริงๆเลยค่ะ ว่าไป ก็เหมาะกับเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรักจริงๆ นะเนี่ยะ 555 ว่าไป ก็ดีค่ะ เพราะยังไง ทั้งช็อกโกแลต และความรัก ก็เป็นสิ่งที่ ทำให้โลกของเรามีความสุขนิ The Daring Bakers February 2009 challenge ก็เลยมาในรูปของ Flourless Chocolate Cake, Chocolate Valentino.ช็อกโกแลตเค้ก แบบไม่มีแป้งที่อัดแน่นไปด้วย ความรัก (จากช็อกโกแลต)ไง

ดังนั้น เมื่อส่วนผสมที่สำคัญที่สุดคือ ช็อกโกแลต ก็แน่นอนค่ะ ที่จะต้องบอกไว้ก่อน เลยว่า ให้ใช้ช็อกโกแลตที่ตัวเองชอบมากๆนะคะ เพราะเค้ก จะออกมารสชาติเหมือนกับช็อกโกแลตที่เราใช้เลยค่ะ
เดือนนี้เป็นเดือนพิเศษอีกอย่างคือ เป็นครั้งแรกที่ Daring Bakers Challenge ได้มีโจทย์ให้ทำไอศครีม (ต่างกับของฟาร์มไก่นะคะ เราทำไปนานแล้ว อิอิ) จริงๆเขาให้มา 2 สูตรค่ะ แต่ปุีกเลือสูตรง่ายๆ มาทำ "
Wendy's Ice Cream Recipe Vanilla Philadelphia Style Recipe" เป็นไอศครีมที่ง่ายมากๆเลยค่ะ เพราะวิธีทำไม่มีอะไรมาก ก็แค่ ผสมส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน แล้วก็ใส่เครื่องทำไอศครีมเท่านั้นเองค่ะ ง่ายดีไหมล่ะ ไม่ต้องทำ คัสตาร์ดด้วย สุดจะดีเวลาอากาศร้อนๆแบบนี้เลยค่ะ (ไม่ต้องไปอยู่หน้าเตาไฟไง)

เดือนนี้รู้สึก แฮ๊ปปี้มากๆเลยค่ะ จนอยากจะบอกโฮสของเดือนนี้ว่า ขอบคุณจริงๆเลย ที่ได้เอาสูตรขนมอร่อยๆ มาให้ลองทำ

The February 2009 challenge is hosted by Wendy of WMPE's blog and Dharm of Dad ~ Baker & Chef.
We have chosen a Chocolate Valentino cake by Chef Wan; a Vanilla Ice Cream recipe from Dharm and a Vanilla Ice Cream recipe from Wendy as the challenge.


Chocolate Valentino
Preparation Time: 20 minutes
ทำได้ 16 (standard muffin size pan)


16 ounces

(1 pound) (454 grams)

semisweet chocolate, สับ

½ cup (1 stick) plus 2 tablespoons

(146 grams total)

เนยจืด

5

ไข่ แยก ไข่แดง ข่ขาว



1. ใส่ช็อกโกแลต และเนยลงในชาม ที่วางไว้บนหม้อที่ต้มน้ำ(เดือดเบาๆ)ไว้ คนเป็นระยะๆจนละลาย แล้วยกลงจากเตา พักให้เย็น
2. ระหว่างที่รอช็อกโกแลตเย็น ให้ทาเนย และรองพิมพ์ด้วยกระดาษค่ะ (ถ้าใช้พิมพ์ ซิลิโคน ก็ไม่ต้องทำอะไรค่ะ)


3. แยกไข่แดงไข่ขาว แล้วใส่ไว้ในชามคนละชาม
4. ตีไข่ขาวจนตั้งยอด


5. ใช้หัวตี ตีไข่แดงจนเข้ากันดี
6. ใส่ช็อกโกแลตลงในไข่แดง



7. ตะล่อมไข่ขาวลงในช็อกโกแลต โดยแบ่งเป็น 3 รอบ


8. เทลงในพิมพ์ แล้วนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 375F/190C (เปิดเตาเตรียมไว้ก่อนนะคะ)
9. อบประมาณ 15-20 นาที (แต่ถ้าใช้พิมพ์ใหญ่จะ ใช้เวลาประมาณ 25 นาทีค่ะ) หรือเมื่อใช้ thermometer วัด จะอยู่ที่ 140F/60C.
Note – ถ้าไม่มี thermometer ให้สังเกตุว่าด้านบนของเค้ก จะเหมือนบราวนี่ค่ะ และเมื่อใช้ ไม้แทงลงไป ด้านในจะยังแฉะ เล็กน้อยค่ะ
10. พักไว้ 10 นาทีก่อน จะเอาออกจากพิมพ์

Wendy's Ice Cream Recipe
Vanilla Philadelphia Style Recipe
Preparation Time: 5 minutes


2 cups (473 ml)

half and half (1 cup of heavy cream และ 1 cup นมไม่พร่องมันเนย)

1 cup (237 ml)

heavy cream

2/3 (128 grams) cup

น้ำตาล


เกลือเล็กน้อย

1 (12 grams) tablespoon

vanilla


ผสมส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน (จะตีด้วยที่ตีไข่ หรือผสมในโถปั่นก็ได้ค่ะ).
แช่ตู้เย็นประมาณ 30 นาที (หรือนานกว่านั้นก็ได้ค่ะ)
เทลงในเครื่องทำไอศครีม แล้วทำตามขั้นตอนของเครื่องค่ะ



February 2009 Daring Bakers Challenge #27: For the Love of Chocolate, Flourless Chocolate Cake, Chocolate Valentino!

Saturday, February 21, 2009

Poppy seed Cinnamon Rolls

ไม่ได้โพสสูตร ขนมปังมาสักพักแล้วนะคะ ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ทำนะคะ ทำตลอดล่ะค่ะ แต่ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เลย ก็เลยไม่ได้โพส แต่คราวนี้ ได้ลองสูตรใหม่ค่ะ (ใหม่สำหรับ บล็อกปุ๊กนะ เพราะขนมปังชินนามอน นี่ มันก็ธรรมดานะ ^ ^)

สูตรมาจากหนังสือ : 特別な日に焼きたいお気に入りパン ของคุณ Mika Monma เจ้าเก่าค่ะ ชื่อของเขาคือ 最高シナモンロ- (the best cinnamon roll, ^ ^).
สูตรนี้ก็น่าสนใจตรงส่วนผสมค่ะ โดยตัวโด มี Poppy seed อยู่ด้วย แล้วก็ ใส้ จะมีส่วนผสมของ อัลมอนด์ และ เหล้ารัมค่ะ (ธรรมดาก็มีแต่ น้ำตาลกับชินนามอนเนอะ)
เหมือนเดิมค่ะ ขนมปังสูตรนี้ก็นวดง่ายเช่นเคย เลยอยากให้ลองทำกัน แล้วเวลาอบ จะเป็นเวลาที่สุดยอดเลยค่ะ เพราะกลิ่นหอมฟุ้งของ ชินนามอน จะลอยไปทั่วครัวเลย มาลองทำกันดีกว่าค่ะ



Poppy seed Cinnamon Rolls
ทำได้ 6 ชิ้นค่ะ


Poppy seed Dough


200g

แป้งขนมปัง

20g

น้ำตาลทรายสีรำ

3g

เกลือ

80g

นม

3g

Instant yeast

30g

เนยจืด

1

ไข่

8g

Poppy seed



Cinnamon filling


30g

เนย

40g

น้ำตาลทรายสีรำ

1

ไข่แดง

6g

ผงอบเชย

60g

อัลมอนด์บด

1tsp

เหล้ารัม



Icing


80g

น้ำตาลไอซิ่ง

1½ to 2 tsp

นม





ใส่ แป้ง, poppy seed, น้ำตาล และยีสต์ลงในชาม คนให้เข้ากัน ใส่เกลือแล้วคนอีกรอบ
เทไข่และนมลงไปในชาม

ใช้พายยางหรือช้อนคันใหญ่คนให้ส่วนผสมเข้ากัน นวดเล้กน้อยให้แป้งจับตัวรวมกัน

ใส่เนยแล้วนวด โดยใช้อุ้งมือดันแป้งไปด้านหน้า แล้วม้วนกลับ กลับด้านแป้ง 90 องศา แล้วนวดแบบเดิมต่อ โดยใช้อุ้งมือดันแป้งไปด้านหน้า อย่าลืมทิ่งน้ำหนักลงไปด้วยนะคะ)และม้วนกลับ เป็นจังหวะสม่ำเสมอนวดประมาณ 10-15 นาที (ขึ้นอยู่กับการออกแรงของแต่ละคนค่ะ) นวดจนแป้งเนียน, นุ่ม, ยืดหยุ่นดี และ shiny ค่ะ

ถ้าลองดึงแป้งบางส่วนดูก็จะยืดเป็นฟิมล์บางๆได้ แปลว่านวดได้ที่แล้วค่ะ

นำก้อนแป้งใส่ลงใน ชามที่ทาเนยไว้ พักแป้งไว้จนขึ้นประมาณ 2 เท่า (1 ชม-1 ชมครึ่ง) แล้วแต่ความร้อนของอุณหภูมิห้อง

Make the cinnamon filling:

ผสมน้ำตาล อัลมอนด์ และผงอบเชยให้เข้ากัน
ตีไข่ เนย และเหล้ารัมเข้าด้วยกัน ใส่ส่วนของ อัลมอนด์ แล้วผสมให้เข้ากัน

เตรียมถ้วยกระดาษลงในพิมพ์มัฟฟิน (ขนาด 7.5cm).
รีดแป้งเป็น สี่เหลี่ยมขนาด 25x25 cm
ทาใส้ลงไป แล้วเกลี่ยให้ทั่ว แล้วม้วน ให้เป็นแท่ง

ตัดเป็น 6 ชิ้น แล้ววางลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้
พักจนขึ้นเกือบ 2 เท่า

เปิดเตาอบที่ 180°C.
เมื่อโดได้ที่ นำเข้าอบ อบประมาณ 10 นาที หรือจนเหลืองสวย
เมื่อได้ที่แล้วนำออกมาพักบนตระแกรง

Make the icing:
ร่อนไอซิ่ง ลงในชาม แล้วผสมนมลงไป
นำมาราดบนขนมปัง

Poppy seed Cinnamon Rolls

Tuesday, February 17, 2009

Chicken Farm Bakers' Project # 7: Always together? Yes, we are new couple! White Chocolate and Sesame Chiffon Roll

เดือนกุมภาพันธ์ นี่เป็นเดือนแห่งความรักนะคะ ดังนั้น Chicken Farm Bakers' Project # 7: ก็เลยมีโจทย์ว่า Always togetherค่ะ โดย น้องบัว (Tiny bakery) ต้องการให้เราจับคู่รสชาติที่จะเข้ากันได้ค่ะ อย่างว่าค่ะ ในโลกของขนมอบก็มี หลายคู่อยู่แล้วนะคะ ไม่ว่าจะเป็นส้มกับช็อกโกแลต สตรอเบอรี่กับครีม และอื่นๆค่ะ แต่ปุ๊กกับคิด ถึงคู่อื่นนะคะ ก็งาดำกับไวท์ช็อกไง !

เพราะปุ๊กว่า ตัวงาดำเขามีกลิ่นหอมเฉพาะตัว แล้วก็มีรสชาติมันๆ (ปนขมนิดๆ) ในขณะที่ ไวท์ช็อกโกแลตเอง ก็มีรสชาติอ่อนนุ่ม (555 คือ อ่านแล้วอย่าขำนะคะ ปุ๊กรู้สึกอย่างงั้นจริงๆอ๊ะ) เมื่อมาอยู่ด้วยกัน ต่างก็เติมรสชาติที่น่าสนใจ ให้อีกฝ่ายนึงได้ค่ะ จึงกลายเป็นคู่ที่น่าสนใจอีกคู่นึงเลยค่ะ
ปุ๊กเลือกที่จะใช้เนื้อชิฟฟอนนะคะ เพราะตัวงา ค่อนข้างหนักค่ะ แล้วอีกเหตุผลคือ มันทำง่ายมากด้วยค่ะ ส่วนไวท์ช็อกโกแลตมูสก็ทำง่ายค่ะ แต่มีข้อควรระวังอย่างเดียวคือ อย่าลืมเตรียม เจลาตินไว้ก่อน ที่จะละลายช็อกโกแลตนะคะ (อันนี้ปุ๊กทำพลาดมาแล้วค่ะ ไม่อยาก ให้ใครทำพลาดอีก ^ ^)
ดังนั้น สำหรับเดือนแห่งความรัก เรามาต้อนรับคู่รักคู่ใหม่กันนะคะ "ไวท์ช็อกโกแลตกับงาดำ" หวังว่าความรักของพวกเขาจะอยู่ไปอีกนานๆ นะคะ


White Chocolate and Sesame Chiffon Roll



Sesame Chiffon




70g

ไข่แดง

80g

นม

60g

น้ำมันพืช

65g

แป้งเค้ก

25g

งาดำคั่วบด

½ tsp

ผงฟู



180g

Egg white

70g

Caster sugar



White Chocolate Mousse




5g

gelatin

175g

white chocolate, สับ

300g

whipping cream




White Chocolate ขูดเป็นวง สำหรับตกแต่ง




เปิดเตาอบที่ 190°C
วางกระดาษรองอบไว้บนพิมพ์ขนาด 30X30 cm
ร่อน แป้ง งาบด และ ผงฟูเข้าด้วยกัน

ตีไข่แดงจนสีอ่อนลง และข้นขึ้น ค่อยๆใส่น้ำมันพืช แล้วตามด้วย นม คนให้เข้ากัน

ใส่ส่วนของแป้งลงไป คนให้เข้ากันดี

ตีไข่ขาว และ น้ำตาลจนตั้งยอด
ตะล่อม ไข่ขาวลงไปในส่วนของแป้ง จนเข้ากันดี

เทส่วนผสมลงในถาด ที่เตรียมไว้ แล้วเกลี่ยให้เท่ากัน
อบประมาณ 15-18 นาที

ตอนอบเค้ก อยู่ก็เตรียมผ้าไว้นะคะ สเปรย์น้ำลงบนผ้าสะอาดให้ชุ่ม

เมื่อเค้กได้ที่ ให้เอาออกมาคว่ำหน้าลงบนผ้าที่เตรียมไว้ แล้วดึงกระดาษออก
ม้วนเค้กบนผ้าที่เตรียมไว้ แล้วพักไว้ จนเย็นบนตระแกรง

ทำ white chocolate mousse:

Bloom เจลาตินในน้ำ (ถ้าใช้แบบผงให้ผสมกับน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ)
บน double boiler หรือ ชามที่วางซ้อนบนหม้อไว้ ใส่ครีม 30 กรัมลงไป ต้อมจนเดือด แล้วใส่ไวท์ช็อกโกแลตลงไป คนจนละลาย

เทไวท์ช็อกโกแลตลงในชามเจลาติน คนจนเจลาตินละลาย แล้วพัไว้ให้เย็น

ตีครีมที่เหลือจนตั้งยอดอ่อน แล้วแบ่ง 100 กรัมของ ครีมลงในไวท์ช็อกโกแลต คนให้เข้ากัน แล้วเทกลับลงไปในส่วนของครีม ตะล่อมให้เข้ากัน
แช่ตู้เย็นประมาณ 20 นาที เพื่อให้มูสอยู่ตัว


คลายเค้กออก แล้วทามูสที่เตรียมไว้ลงไป แล้วม้วนเค้กอีกรอบ

ทาเค้กด้วยมูสที่เหลือ แล้วตกแต่งด้วย ช็อกโกแลตที่เตรียมไว้

Chicken Farm Bakers' Project # 7: Always together? Yes, we are new couple!

-White Chocolate and Sesame Chiffon Roll-

Friday, February 13, 2009

Double Chocolate Ice Cream: Dark Side Lover!

ปุ๊กชอบทานช็อกโกแลตที่มีปริมาณ cocoa mass 60%-85% มากเลยค่ะ คราวนี้ก็เลย เอาช็อกโกแลตที่มีโกโก้แมส 70% มาลองทำไอศครีมดูค่ะ ผลลัพท์ ก็อร่อยนะสิค่ะ ^ ^ เบสของสูตรนี้มาจาก September 2008, Chicken Farm Bakers’ Project #2: White Chocolate Ice Cream with White Chocolate and Nougat Chunks. เพราะว่าหลังจากทำด้วยไวท์ช็อกแล้ว ปุ๊กก็คิดว่า ถ้าใช้ดาร์กช็อกจะอร่อยแค่ไหนหนอ อย่างว่าค่ะ ปุ๊กเองชอบทานดาร์กช็อกมากกว่าไวท์นะคะ (แต่ลูกค้าปุ๊ก (พี่สาวคนสวยค่ะ) เธอชอบไวท์ช็อกมากกว่า 555)
ว่าไป รสชาติของไอศครีม ก็ขึ้นอยู่กับรสชาติของช็อกโกแลตที่นำมาใช้ค่ะ ดังนั้น ถ้าใช้ช็อกโกแลตที่มีโกโก้แมสสูงๆ ก็อาจจะทำให้ไอศครีมขมนะคะซึ่งบางคน อาจจะไม่ชอบค่ะ (แต่อันนี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับปุ๊กค่ะ แล้วก็ถ้าใครชอบช็อกขมๆ ก็ไม่น่าจะคิดว่ามันเ็ป็นปัญหาเหมือนกัน ^ ^)
ดังนั้นก็แนะนำว่าให้ใช้ ช็อกโกแลตที่ ตัวเองชอบนะคะ แล้วไอศครีมสูตรนี้ ก็คงจะเป็นสูตรโปรดของคุณไปเลยค่ะ


Double Chocolate Ice Cream: Dark Side Lover!



80 g

Dark chocolate, สับ

3

ไข่แดง

50 g

น้ำตาล

¼ teaspoon

เกลือทะเล (น้อยหรือมากกว่านี้ได้นะคะ ตามใจค่ะ)

1 cup/250 ml

นม

1 cup/ 250 ml

heavy (whipping) cream

50 g

Dark chocolate, สับ




ตีไข่แดงกับน้ำตาล และเกลือให้เข้ากัน ต้มนมครีมและน้ำตาลในหม้อก้นหนาบนไฟปานกลาง คนเรื่อย จนเดือดอ่อนๆ เทส่วนของครีมลงในไข่แดง คนตลอดเวลาจนเข้ากัน

ใส่ช็อกโกแลตลงในส่วนของครีมและไข่ คนจนละลาย


นำส่วนผสมทั้งหมดขึ้นตั้งไฟกลางอีกครั้ง คนตลอดเวลา จนกระทั้ง เทอร์โมมิเตอร์ขึ้นถึง 175 องศาฟาเรนไฮต์ (หรือส่วนผสมคลุมไม้พาย) เทส่วนผสมลงในชามที่วางไว้บนชามน้ำแข็ง แล้วทิ้งไว้จนเย็นลง

นำเข้าแช่ในตู้เย็น 4 ชั่วโมงขึ้นไป หรือข้ามคืน

Note: ถ้าอยากให้ Churning เร็วขึ้น ให้นำคัสตาร์ดไปแช่ช่องฟรีสก่อน Churning ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ

นำใส่เครื่องทำไอศครีม แล้วปั่นตามคำแนะนำของเครื่อง เมื่อได้ที่ เทช็อกโกแลตผสมนูกัตที่หั่นไว้ลงไป แล้วคลุกให้เข้ากัน นำเข้าแช่เย็นจนตักได้

Double Chocolate Ice Cream: Dark Side Lover!

Wednesday, February 11, 2009

Financier: A bar of gold that you can eat!

ไม่ได้โกหกนะคะ แต่ก็ทั้งรูปร่างแล้วก็สีมันเหมือนทองเลยนิ ^ ^ วันนี้ เราก็เลยมาทานทองแท่งกันเถอะค่ะ รสชาติหลักๆของขนม ก็มาจาก “Beurre noisette”, หรือเรียกว่า hazelnut butter (เพราะว่ากลิ่น หอมของเนย ที่ละลายจนเกรียมไปบางส่วน จะออกมาคล้าย กลิ่นฮาเซลนัท ค่ะ).

ส่วนเบสของเค้ก คือ อัลมอนด์บด กับไข่ขาวค่ะ ดังนั้นใครที่มีไข่ขาว เก็บไว้ในตู้เย็นเยอะๆ ก็ลองเอามาทำได้นะคะ ปุ๊กก็อยากลองทำมานานแล้วค่ะ แต่หาซื้อพิมพ์ไม่ได้ (ว่าไป จะใช้พิมพ์อย่างอื่นก็ได้นะคะ แต่ด้วยความบ้า อยากได้พิมพ์แบบนี้อ๊ะ ) พอดีได้มาจากเพื่อนที่น่ารักซื้อมาให้จากญี่ปุ่นค่ะ ต้องขอบคุณมากๆเลย (เหมือนญี่ปุ่นนี่ มีขายทุกอย่างเลยนะเนี่ยะ) สูตรมาจากหนังสือ:The sweet trick―コヤマススムが教えるパティシェの裏技 . ค่ะ จริงๆ ตอนที่ได้พิมพ์มาก็ลองไปหลายรอบแล้วค่ะ แต่รูปร่างยังไม่ถูกใจ คือเวลาหยอด แบทเทอร์ลงในพิมพ์ต้องอย่า ให้เกิน 3/4 ของพิมพ์นะคะ ไม่งั้นพอล้นๆ แล้วรูปร่างจะไม่สวยค่ะ

Financier
Makes about 18 pieces


130g

ไข่ขาว

130g

น้ำตาลทราย



50g

แป้งเค้ก

5g

แป้งข้าวโพด

50g

อัลมอนด์บด

3g

ผงฟู



130g

เนยเค็ม



ละลายเนยในหม้อ บนไฟอ่อน จนกระทั่งส่วนของนม เริ่มตกลงไปด้านล่าง ต้มต่อไปเรื่อยๆ จนส่วนของนม เริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และมีกลิ่นหอม นำลงจากเตาแล้ว พักไว้จนเย็นสนิท (นี่ล่ะค่ะคือ “Beurre noisette”)


เปิดเตาอบที่ 200°C
ร่อนแป้ง อัลมอนด์บด แป้งข้าวโพด และผงฟูรวมกัน พักไว้

ผสมไข่ และน้ำตาลเข้าด้วยกัน (คนแค่พอเข้ากัน ไม่ต้องตีนะคะ)
ใส่ส่วนของแป้งลงไป ผสมให้เข้ากับ แล้วตามด้วยเนยละลาย คนจนเข้ากันดี

ทาเนยบนพิมพ์ แล้วโรยด้วยแป้ง เคาะแป้งออก แล้วพักไว้


กรองแบทเทอรืผ่านกระชอน
เทแบทเทอร์ลงในพิมพ์ (ประมาณ 25 กรัม/1ชิ้น)
นำเข้าอบประมาณ 10-12 นาที หรือจนเป็นสีเหลืองทอง

Financier: A bar of gold that you can eat!

Printfriendly