Showing posts with label Martha Stewart's Baking Handbook. Show all posts
Showing posts with label Martha Stewart's Baking Handbook. Show all posts

Saturday, April 18, 2009

FRUITCAKES: Special occasion or not, I love it anyway!

ฟรุตเค้กนี่ พอเห็นทีไร ก็นึกถึงเทศกาล ปีใหม่ หรือ Christmas ทุกทีเลยนะคะ แต่ก็นะ ปุ๊กไม่สนค่ะ จะเป็นช่วงเทศกาลหรือไม่ ถ้าเป็นของอร่อยล่ะก็ ไม่มีเวลาจำกัดค่ะ 555

พอดีว่า เมื่อเดือนที่แล้ว ได้รับ e-mail มา 1 ฉบับ บอกว่า อยากได้สูตร ฟรุตเค้กที่ไม่หวานมาก ปุ๊กก็เลย ต้องทดลองทำก่อนค่ะ ว่าไป ส่วนใหญ่แล้ว ก็จะหวานจาก ตัวผลไม้แห้งด้วยค่ะ แต่สูตรนี้ ก็มีถั่ว มาช่วยแบ่งเบาความหวาน ไปนิดหน่อย ^ ^ แต่ตอนที่ปุ๊กทำปุ๊กก็ใช้น้ำตาลน้อย กว่าที่กำหนดในสูตรด้วยค่ะ ปุ๊กใช้ไป 220กรัม แต่ถ้าใครกลัวจะหวานอยู่ ก็ใช้แค่ 200 กรัมก็ได้นะคะ

ส่วนตัวผลไม้แห้งนั้น เรียกว่า ที่ให้มาเป็นเพียง ข้อแนะนำค่ะ จะใช้ชนิดไหนก็ได้ค่ะ เรียกว่าตามความชอบใจ เลยค่ะ แต่ให้อยู่ไม่เกิน 2½ pounds ก็แล้วกันนะคะ แล้วก็อย่าลืมตัดให้เป็น ชิ้นขนาดเล็กเท่าๆกันด้วยค่ะ ปุ๊กเองหมักไว้ 1 อาทิตย์ก่อนทำเค้ก (จำได้ปะคะ ว่าครั้งที่แล้วตอนทำ Light Fruit Cake: Easy Festive Cake! ปุ๊กขี้เกียจมากๆๆๆเลยค่ะ ขี้เกียจแม้กระทั่งจะหมักผลไม้ หรือเค้กอ๊ะ ^ ^).

สูตรนี้ก็ไม่ได้มาจากที่ไหนไกลค่ะ จากหนังสือ: Martha Stewart's Baking Handbook (อันนี้เป็นสูตรที่ 3 แล้วที่เอามาลงบล็อก เล่มนี้ดีค่ะ). เล่มนี้แนะนำเลยนะคะ สำหรับคนที่อยากได้หนังสือทำขนมที่ไม่ยากเกินไปค่ะ

FRUITCAKES

MAKES TWO 8-INCH CAKES


2½ cups (15 ounces)

ลูกเกดดำ

2½ cups (15 ounces)

ลูกเกดเหลือง

2 cups (9 ounces)

Dried currants (เคอร์เร็นแห้ง)

2 cups (11 ounces)

Dried sour cherries (เชอรี่แห้ง)

2½ cups (9 ounces)

Dried cranberries (แครนเบอรี่แห้ง)

1 cup (5 ounces)

Dried apricots (แอพพริคอทแห้ง) หั่นเป็นชิ้นขนาด ¼ -นิ้ว

¾ cup

น้ำผึ้ง

1 cup

เหล้า Cognac, Armagnac, หรือบรั่นดี

3 sticks (1½ cups)

เนยจืด

2¼ cups

แป้งขนมปัง

1 tablespoon

เกลือทะเล

1½ teaspoons

Ground ginger (ขิงป่น)

1½ teaspoons

Ground cinnamon(อบเชยป่น)

1 teaspoon

Ground cloves (ก้านพลูป่น)

1½ cups (5 ounces)

วอลนัต หั่นหยาบ

1¼ cups

น้ำตาล ( ปุ๊กใช้ 220g)

7

ไข่ฟองใหญ่

1½ cups

Apricot jam


ถั่วและผลไม้แห้งลำหรับตกแต่ง (optional)




ใส่ผลไม้แห้งลงในชามที่ไม่ทำปฏิกริยากับกรด (แก้ว, ceramic, หรือ plastic), เทน้ำผึ้งและ เหล้าลงไป คนให้ทั่ว แล้วหมักไว้ อย่างต่ำ 24 ชั่วโมง หรือ 2 อาทิตย์


เปิดเตาอบที่ 275°F. ทาเนยและโรยแป้งให้ทั่วพิมพ์ขนาด 8-x-3-นิ้ว 2 อัน หรือใช้กระดาษรองอบ ปูให้ทั่ว ร่อนของแห้งเข้าด้วยกัน แล้วคลุกกับถั่ว พักไว้


ตีเนยและน้ำตาล ด้วยหัวตีใบไม้จนฟู (ประมาณ 2-3 นาที) แล้วใส่ไข่ลงไป ทีล่ะฟอง คอยปาดขอบอ่างด้วย

เมื่อเข้ากันดี เทส่วนของแป้ง และ ผลไม้ที่หมักไว้ลงไป คลุกให้เข้ากัน


แบ่งส่วนผสมออกเป็น 2 ส่วน แล้วเทลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้

นำเข้าอบประมาณ 2 - 2ชั่วโมง 15 นาที หรือจนเมื่อใช้ไม้แทงลงไป จะมีเศษเค้กติดขึ้นมาแค่เล็กน้อย แล้วนำออกมาพักบนตระแกรงพักขนม จนเย็น

เมื่อขนมเย็นแล้วจึงค่อยนำออกจากพิมพ์


เมื่อต้องการตกแต่งเค้ก ผสมน้ำ ½ cup กับแยมเข้าด้วยกันในหม้อ แล้วนำไปต้มจนละลาย และเข้ากันดี กรองผ่านกระชอน


ทาแยมในขณะร้อนให้ทั่วเค้ก แล้ววางผลไม้หรือถั่วที่ใช้ตกแต่งลงด้านบน และ้วทาทับด้วยแยมร้อนอีกรอบ

FRUITCAKES: Special occasion or not, I love it!

Thursday, December 20, 2007

PANETTONES เปนเนทโตน

ใกล้จะคริสต์มาส แล้วนะค่ะ การเตรียมตัวสำคัญมากในการจัดปาร์ตี้ (ไม่ว่าจะครอบครัวใหญ่หรือเล็กค่ะ) ก็เลยนั่งคิดว่าจะทำอะไรดีน้า ไม่เอาเค้กผลไม้แล้วละคะ จะเป็น Christmas bread ดีไหมหนอ ใส่ผลไม้แห้งเยอะๆ Panettone เป็นไงละ

Panetttone เป็น ขนมปังที่ทานตอนคริสต์มาส (Christmas bread) ของอิตาลี มักจะทานตอนช่วง Christmas และปีใหม่ค่ะ แต่วันนี้เราทำทานกันเองที่บ้าน โดยใช้สูตรจากหนังสือ Martha Stewart's Baking Handbook (แต่ถ้าใครอยากบินไปทานที่อิตาลีก็ได้น้า แต่อันนี้อร่อยมากๆค่ะ) ผลไม้แห้งที่ใช้ก็ตามใจเลยค่ะ เปลี่ยนประเภทได้แต่ใช้ปริมาณเท่าเดิมนะคะ จะได้อร่อยตามใจเรา วันนี้แปลงสูตรโดยใช้ถ้วยกระดาษจะได้แบ่ง กันได้ทั่วถึงคะ วันนี้พอทดลองทำเสร็จ ทุกคนบอกว่าคงต้องทำมากกว่าเดิมค่ะ

เปนเนทโตน

PANETTONES

ทำได้ 2 LOAVES

(12 ถ้วยกระดาษขนาด 6.5 x 6.5 cm.)





cup

น้ำอุ่น (ประมาณ 110°F)

2 envelopes ( ¼ ounce each)

active dry yeast

1 pound 5 ounces (about 4 cups)

แป้งอเนกประสงค์ (เพื่อเวลานวดด้วยนะคะ)

½ cup

นมอุ่น (about 110°F)

cup

น้ำตาล

4ฟอง

ไข่

3ฟอง

ไข่แดง

1 teaspoon

pure vanilla extract

1½ sticks (¾ cup)

เนยจืด ตัดเป็นชิ้นเล็ก (แล้วละลายเนย (นอกเหนือจากสูตร)ไว้สำหรับทาชาม พลาสติกด้วยนะคะ)

1 ¼ teaspoons

เกลือ

2 cups

ผลไม้แห้งหลายๆอย่าง, เช่น currants, raisins, และ cranberries

ผิวมะนาวขูด

ผิวส้มขูด

1 tablespoon

ครีม

โรยยีสต์ลงในน้ำอุ่นในชามขนาดกลาง คนจนยีสต์ละลาย ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วใส่ แป้งลงไป½ ถ้วย คนให้เข้ากัน แล้วปิดด้วยพลาสติก พักไว้จนขึ้น 2 เท่า ประมาณ 30 นาที

โรยยีสต์ลงในนมในชามขนาดกลาง คนจนยีสต์ละลาย ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วใส่ น้ำตาล ไข่ ไข่แดง 2 ฟอง และ vanilla คนให้เข้ากันแป้งลงไป½ ถ้วย คนให้เข้ากัน

ใส่เนย เกลือ และแป้งที่เหลือ อีก ถ้วยไว้ในอ่างผสมของเครื่อง ตีด้วยหัวตีใบพัด ด้วยความเร็วต่ำ จนส่วนผสมเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่ส่วนผสมของไข่ ตีจนเนียนเข้ากัน แล้วใส่ส่วนผสมของยีสต์กับน้ำที่ผสมไว้ลงไป ตีต่อด้วยความเร็วสูงจน แป้งยืดหยุ่นดี (เหนียวเลยค่ะ) ใช้เวลาประมาณ 9 นาที ใส่ผลไม้แห้งลงไป นำโดออกจากอ่างผสมใส่ชามขนาดใหญ่ที่ทาเนยไว้ ปิดด้วยพลาสติก พักไว้จนขึ้น 2 เท่า ประมาณ 2 ชั่วโมง

ทาเนยให้ทั่วพิมพ์ panettone 2 อัน พักไว้

นำโดออกจากชามวางลงบนพื้นโต๊ะที่โรยแป้งไว้ นวดเล็กน้อยจนเนียน แบ่งโดเป็น 2 ส่วนปั้นเป็นก้อนกลม แล้วใส่ลงในพิมพ์ วางไว้ในถาด คลุมด้วยพลาสติก พักไว้จนโดขึ้นเหนือพิมพ์เล็กน้อย ประมาณ 45-60 นาที ในระหว่างนั้นเปิดเตาอบรอไว้ที่ อุณหภูมิ 400°F

ผสมครีมกับไข่แดงด้วยกัน ทาที่หน้าขนมก่อนเข้าอบ แล้วใช้กรรไกรตัดหน้าขนมเป็นกากบาท

อบประมาณ 15 นาที แล้วลดอุณหภูมิลงเหลือ350°F คอยกลับถาดเพื่อให้เหลืองทั่ว อบประมาณ 45 นาทีหรือจนอุณหภูมิภายใน ได้190°F (ถ้าด้านบนเหลืองเกินไปให้ใช้ aluminum foil ปิดไว้แล้วอบต่อ) นำออกจากเตา แล้วพักไว้ที่ตะแกรงประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงเอาออกจากพิมพ์ แล้วพักไว้จนเย็น

สูตรจาก: Martha Stewart's Baking Handbook

Thursday, November 22, 2007

Apple Crumb Pie from Martha Stewart's baking handbook

สำหรับคนที่ชอบ crumb, อันนี้น่าจะถูกใจค่ะ พี่สาวชอบ crumbมากๆไม่ว่าจะเป็น crumb bread, crumbs cake, crumb pie บอกมาเถอะค่ะชอบทุกอย่าง ส่วนตัวแล้วชอบชิม crumb ก่อนเข้าอบค่ะ เพราะว่าถ้าไม่อร่อยตั้งแต่ตอนนี้ อบออกมาก็คงไม่อร่อยค่ะ ,(รสชาติก็จะคล้ายๆ shortbread dough อร่อยค่ะ) สูตรนี้มาจาก Martha Stewart's Baking Handbook, ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรนะคะ แต่มีข้อเสนอว่าถ้าชอบ crumb มากเหมือนกับที่พี่สาวของdailydelicious ชอบก็ใช้ crumb ทั้งหมดทำเป็น apple crumbleก็อร่อยค่ะ




Apple Crumb Pie

ทำได้ 9-inches pie




2 ½ pounds apples ปอกเปลือก, เอาเม็ดออก, แล้วตัดเป็นชิ้นขนาด ¼ นิ้วค่ะ

Almond Crumb Crust (มีสูตรอยู่ด้านล่างค่ะ)

2 tablespoons น้ำมะนาว

2 tablespoons เนยจืด, ตัดเป็นชิ้นเล็ก

cup น้ำตาล

¾ teaspoon ผงcinnamon(อบเชย)

¼ teaspoon nutmeg

¼ teaspoon เกลือ


เปิดเตาอบที่ 35 0°F (180°C). กด crumbs(ประมาณ 2½ cups) ให้แน่นและทั่วพิมพ์ขนาด 9นิ้ว ทั้งด้านล่างและขอบ กดให้แน่นจนถึงบริเวณขอบ นำเข้าแช่เย็นจนอยู่ตัว ประมาณ 15 นาที ใส่ apples, น้ำมะนาว, น้ำตาล, cinnamon, nutmeg, และเกลือ ลงในชามคลุกให้เข้ากัน เทลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้.กองให้สูงตรงกลาง วางเนยลงให้ทั่ว โรย crumbs ที่เหลือ ให้มิดพิมพ์ (โดยกดให้จับตัวเป็นก้อน ไม่งั้นจะหลุดจากกันค่ะ)

นำเข้าอบ จนพาย เป็นสีเหลืองสวย และใส้เดือดประมาณ 1ชั่วโมง เสร็จแล้วค่ะ


Almond Crumb Crust

ทำพอดีสำหรับสูตรด้านบนค่ะ 9-inches pie

1 ½ cups แป้งอเนกประสงค์

1 cup + 2 tablespoons almonds ลอกเปลือกแล้ว ป่นละเอียด

½ cup + 2 tablespoons น้ำตาล

¼ teaspoon เกลือ

3/4 cup เนยจืด, ตัดเป็นชิ้นเล็ก

ใส่แป้ง, almonds, น้ำตาล และเกลือลงในชามใหญ่ คนให้เข้ากันด้วยที่ตีไข่ ใส่เนยแล้วตัดเนยให้เข้ากับส่วนผสมอื่นๆจนเป็นชิ้นเล็ก (โดยมีชิ้นใหญ่นิดหน่อยได้ค่ะ) ใช้นิ้วบีบให้ติดกันเป็นก้อนเท่าเมล็ดถั่ว ประมาณ ¾-นิ้วค่ะ สามารถแช่ตู้เย็นไว้ก่อนได้ถ้ายังไม่ใช้ทันที


สูตรจาก: Martha Stewart's Baking Handbook by Martha Stewart

Martha Stewart's Baking Handbook by Martha Stewart



มีหนังสือของ Martha Stewart แค่เล่มเดียวเองค่ะ ถึงจะสมัครสมาชิก นิตยสาร Martha Stewart’s living ก็ไม่ได้ซื้อตำราอาหารเล่มอื่นเลย แต่ไม่ใช่ว่าหนังสือของเธอไม่ดีนะคะ แต่ไม่รูสึกอยากได้เท่าไหร่ แต่สำหรับเล่มนี้ Martha Stewart's Baking Handbook ชอบมากเลยค่ะ

หนังสือเริ่มต้นด้วย รูปภาพของอุปกรณ์ และ techniques ที่จำเป็นในการทำขนมอบ (คือโดยทั่วไปน่าจะพอสำหรับ คนที่เพิ่งเริ่มต้นนะคะ). สูตรขนมเริ่มต้นจาก สูตรง่ายๆ simple baked goods, ตามด้วย cookies, cakes, pies tarts, cobblers และ crisps, ขนมทำด้วยyeast และ pastry. (กระทั่งสูตร wedding cake ก็มีนะคะ).

แต่สิ่งที่ชอบมากคือรูป รูปของจนมที่ไม perfect มาก เหมือนกับที่เราทำเองที่บ้าน ทำให้รู้สึกถึงความง่ายของการ ทำขนม แล้วถึงมันจะไม่ออกมาสวยเหมือนที่ซื้อมาจากร้าน มันก็ยังดี และดีต่อสุขภาพตรงที่ไม่ได้ใส่สารกันบูดหรือเคมีอื่นๆดังนั้น ลองเลือกสูตรสักสูตร แล้วลองทำดูสิคะ



Picture from: Martha Stewart's Baking Handbook

Printfriendly