ว่าไปก็ไม่เป็นหวัดหนักๆ มานานแล้ว แต่พอดีช่วงที่ผ่านมา ทั้งงานยุ่ง แล้วต้องเดินทางเลยพักผ่อนน้อย ผลก็เลยกลายเป็นว่าต้องนอนไปอาทิตย์นึงเต็มๆ เลยทีเดียว
ช่วงนี้ ข่าวเรื่องโรคต่างๆ เยอะนะคะ สิ่งที่เราทำได้ คงเป็นเรื่องของการรักษาความสะอาดทั้งเรื่องของการล้างมือบ่อยๆ และไม่อยู่ในที่ ที่อากาศถ่ายเทไม่ดี ทุกคนก็ต้องรักษาสุขภาพกันดีๆ เป็นห่วงค่า
และในช่วงที่ต้องนอน ปุ๊กก็นอนกอดหนังสือค่ะ 555 ทำให้พอดีขึ้น เลยมีลิสต์ของสิ่งที่อยากทำเยอะไปหมดเลย แต่ก็เน้นของง่ายๆ นะ เพราะยังไม่อยากต้องกลับไปนอนอีกรอบค่ะ
วันนี้เลยเอาชีสเค้กที่เหมาะกับคนชอบทานของหวานที่มีรสเค็มแทรก มาฝากกัน เป็นชีสเค้กที่ใส่พาเมอซานชีสลงไปด้วย ทำให้ตัวเค้กมีรสหวานๆ เค็มๆ ทานเพลินมาก ในส่วนของพาเมอซานชีสที่ใช้ ปุ๊กใช้แบบที่เป็นแท่งแล้วเอามาขูดนะคะ แต่จะใช้แบบที่ขูดแล้ว (แบบกระป๋องเขียวๆ) ก็ได้เช่นกันค่ะ
ชีสเค้กที่สำคัญคือไม่ควรตีให้อากาศเข้าไปในแบทเทอร์เยอะเกิน ปุ็กเลยใช้พายยางในการผสม แทนการใช้ตะกร้อมมือนะคะ ในสูตรนี้ ได้ออกมาเป็นชีสเค้กเนื้อแน่นอร่อยๆๆๆๆๆ ค่ะ อ้อ อีกอย่างคือ อย่าอบจนแห้งนะเพราะเนื้อจะไม่เนียนค่ะ
English: Parmesan Cheesecake
สูตรภาษาไทย: พาเมอซานชีสเค้ก
日本語のレシピ:パルメザンチーズケーキ
Youtube: พาเมอซานชีสเค้ก/ Parmesan Cheesecake/ パルメザンチーズケーキ
Parmesan Cheesecake
Makes 18 x 7 cm. cake
ฐาน
50 กรัม ................... บิตกิต
20 กรัม ................... เนยจืดละลาย
ตัวเค้ก
150 กรัม ................... ครีมชีส
1/8 ช้อนชา .............. เกลือ
1/2 ช้อนชา .............. วานิลลาเอ็กแทร็ก
1 ช้อนชา ................. น้ำเลมอน
45 กรัม ................... น้ำตาลทราย
25 กรัม ................... พาเมอซานชีสขูด
1/2 ช้อนโต๊ะ ............ แป้งข้าวโพด
1 ฟอง ...................... ไข่
70 มิลลิลิตร ............. วิปปิ้งครีม
วางกระดาษรองอบลงในพิมพ์ขนาด 18 x 7 ซม.
เปิดเตาอบเตรียมไว้ที่ 170℃
บุบิสกิตให้ละเอียด
แล้วผสมกับเนยละลาย
ใส่ลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วกดให้เรียบ, พักไว้
ใส่ครีมชีส, เกลือ, น้ำเลมอน และวานิลลาลงในชาม
คนให้เข้ากัน
ใส่น้ำตาลลงไป คนให้เข้ากัน
ใส่พาเมอซานชีสขูด และแป้งข้าวโพดลงไป คนให้เข้ากัน
ใส่ไข่ลงไป คนให้เข้ากัน
ใส่วิปปิ้งครีมลงไป
คนให้เข้ากัน
ใส่ลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วเกลี่ยให้เรียบ
นำเข้าอบ นาน 35-40 นาที
นำออกจากเตา แล้วพักให้เย็นสนิท
นำไปแช่เย็น 12 ชั่วโมง หรือ จนอยู่ตัว
No comments:
Post a Comment