Tuesday, March 22, 2011

Mille feuille: Delicious, crunchy, sweet and bitter, you have them here.

ตั้งแต่เริ่มทำบล็อกมาก็นานพอควรแล้วนะคะ ^^, ไม่เคยคิดเหมือนกันว่า จะยังมีอะไรให้ลองทำ (และลองกินนนนนนนน 555) เยอะขนาดนี้ เรียกว่า เอาเข้าจริง ทั้งชีวิตนี้ ก็คงไม่มีวันทำได้หมดจริงๆค่ะ เพราะมีอะไรให้เรียนรู้ได้ไม่จบเลย

Mille feuille เป็นอีกอย่างค่ะ ที่ปุ๊กอยากทำ ขนมที่ประกอบด้วย พัฟพาสตรี้ กับพาสตรี้ครีมข้นๆ ทานไปแต่ล่ะคำ เราจะได้รู้สึกถึงทั้งความหวานจาก พาสตรี้ และ ความขนม (แบบอร่อยๆ) ของคาราเมลค่ะ เรียกว่า คู่นี้ เป็นคู่ที่ไม่ค่อยมีใครปฏิเสธนะคะ  
จริงๆแล้ว สามารถทำจากแป้งพัฟแช่แข็งที่หาซื้อได้ทั่วไปนะคะ เพราะถ้าไม่อยากจะยุ่งยากทำแป้งเอง ก็สบายๆค่ะ  ^^แต่สำหรับปุ๊กรอบนี้ เนื่องจากทำ เจ้า "Pâte feuilletée inversée" รอบทดลองไป ก็เลย ต้องหาสูตรที่ใช้แป้งพัฟมาใช้ซะหน่อยค่ะ ยิ่งแป้งพัฟสูตรนี้ อร่อยและพิเศษขนาดนี้ น่าจะทำให้ "Mille feuille" ของปุ๊กออกมาละลายในปากได้ทีเดียวเลยล่ะ 
หากอ่านๆจากหลายๆเล่มแล้ว วีธีการทำขนมชนิดนี้ มีหลากหลายรูปแบบมากๆค่ะ แต่ปุ๊กเลือกเอาแบบที่อบจนแป้งกลายเป็นแป้งกรอบๆ และ caramelized เรียกว่า แค่ฟังก็น่าทานแล้วใช่ไหมล่ะ
เริ่มต้นด้วยการอบแป้งพัฟจนพอง แล้วทับมันและอบต่อ จนเป็นสีน้ำตาลเข้ม และหอมกรุ่น แล้วจึงอบส่วนบน ของ"Mille feuille" พร้อมกับน้ำตาล เพื่อ caramelized มัน ในบางสูตร ให้ทำเป็น โลฟแล้วจึงมาตัดเป็นชิ้น แต่ปุ๊กมองว่า แบบนี้ง่ายกว่าเยอะค่ะ (ถึงจะดูไม่โปรก็ไม่เห็นจะเป็นไรนี่คะ คิดอะไรมาก 555 ขนมของเรา ทำให้ชีวิตเราง่ายๆ ดีที่สุดค่ะ) 
แต่ต้องบอกก่อนว่า ขนมชิ้นนี้ เมื่อประกอบแล้ว เก็บได้ไม่นานอะค่ะ แต่หากเตรียมของเป็นอย่างๆ เช่นการทำพาสตรี้ครีม แล้วใส่ในถุงบีบไว้ และเก็บแป้งพัฟที่อบเรียบร้อยแล้ว ไว้ในกล่องที่ปิดสนิท แล้วประกอบตัวขนม ประมาณ 2-3 ชั่วโมงก่อน เสิร์ฟ (หรือน้อยกว่านั้นก็ได้นะคะ) เพื่อว่าจะได้ทานในเวลาที่ขนมยังอร่อยๆอยู่ค่ะ 
ปุ๊กแนะนำว่าทานขนมตัวนี้กับชา (แบบไม่ใส่นมก็ดีค่ะ) เพราะว่าจะตัดความริซจากขนมได้ดี ค่อยๆทานพร้อมกับจิบชาไป ...........อืม เหมือนเวลามันเดินช้าลง แล้วก็รู้สึกผ่อนคลายจริงๆค่ะ ^^
Ps. จะใช้แป้งพัฟแช่แข็งที่หาซื้อได้ทั่วไปมาทำก็ได้นะคะ หรือจะใช้สูตรอื่นก็ได้ และเวลาอบอาจจะแตกต่างกันไปบ้าง ตามความชอบนะคะ 



"Mille feuille" 
Makes 6 pastry



390g ................................ puff pastry 
หรือ inverse puff pastry ("Pâte feuilletée inversée") ครึ่งสูตร
Pasty cream
60g .................................. ไข่แดง
250g ................................ นมไม่พร่องพร่องมันเนย
16g ................................... น้ำตาล (1)
½ ..................................... vanilla bean, ขูดเม็ด
35g ................................... น้ำตาล (2)
20g .................................. แป้งเค้ก
15g ................................... เนย
.......................................... น้ำตาลทรายละเอียด เอาไว้โรยหน้าพาสตรี้ 
8 ....................................... สตรอเบอรี่ ฝานบาง
For decoration
6 ....................................... สตรอเบอรี่
.......................................... น้ำตาลไอซิ่ง


เปิดเตาอบที่ 190°C
เตรียมถาดอบโดยวางกระดาษรองอบไว้
รีดแป้งพัฟ เป็นแย่นบางประมาณ 3mm ขนาดประมาณ 35x25 cm (ค่อยๆรีดออกนะคะ ถ้าแป้งดูหดตัวให้พักในตู้เย็นก่อนสักครู่ แล้วค่อยรีดต่อ ไม่งั้น เวลาลาอบแป้งจะหดตัวลงค่ะ)
วางลงในถาดอบที่เตรียมไว้ แล้ว ใช้ส้อม จิ้มให้เป็น รูทั่วๆค่ะ  
นำเข้าอบประมาณ 20-23 นาที หรือจนพอง และเป็น สีเหลืองอ่อน 
วางกระดาษรองอบทับ แล้วใช้ถาดอีกใบทับลงไป 
นำเข้าอบต่ออีก ประมาณ 20 นาที 
นำออกจากเตาแล้วตัดเป็น 18 ชิ้น เท่าๆกัน


เพิ่มความร้อนของเตาเป็น 220°C
โรยน้ำตาลลงบนพาสตรี้ 6 แผ่น แล้วนำเข้าอบต่อ 5-7 นาที หรือจนเป็นคาราเมล 



Make the pastry cream:

1) นำนมและ น้ำตาล (1) ขึ้นตั้งไฟ ในขณะเดียวกันตี ไข่แดง น้ำตาล (2) เมล็ดจากฝักวานิลลา และแป้งเค้ก ในชาม
2) พอนมเดือด เทนมลงในไข่แดงที่ตีไว้ โดยตีตลอดเวลาจนเข้ากันหมด
3) เทผ่านกระชอนลงในหม้อ เพื่อเอาเศษไข่ออก วางหม้อขึ้นตั้งไฟกลาง แล้วคนตลอดเวลา คนไปเรื่อยๆอีกจนข้น
4) เมื่อพาสตรี้ครีมอุณหภูมิลดลงเหลือ 140 F นำออกจากถาดน้ำแข็ง แล้วใส่เนยลงไป โดยแบ่งเป็น 3-4 รอบเมื่อเนยเข้ากับครีมดีแล้ว นำไปวางบนถาดน้ำแข็งต่อจนเย็นลง ตอนนี้สามารถ นำไปเก็บในตู้เย็นได้แล้วค่ะ


Assemble:
บีบพาสตรี้ครีมลงบนพาสตรี้ 1 แผ่น แล้ววางสตรอเบอรี่ลงไป บีบพาสตรี้ทับ ทับด้วยพาสตรี้ แล้วทำเช่นเดิม ทับด้านบน ด้วยพาสตรี้แผ่นที่ caramelized
ตกแต่งด้านบนด้วย น้ำตาลไอซิ่งและสตรอเบอรี่
Mille feuille: Delicious, crunchy, 
sweet and bitter, you have them here.

1 comment:

  1. ตูนเคยกินแบบที่ใส่อัลมอนด์ ไม่รู้เป็นขนมชนิดเดียวกันมั้ยอ่ะ แต่มันอร่อย และหอมมากเลย

    ReplyDelete

Printfriendly