Showing posts with label BBC GoodFood. Show all posts
Showing posts with label BBC GoodFood. Show all posts

Saturday, September 22, 2012

Raspberry Pistachio Tea Cake: Short cut baking!

ช่วงนี้ ไม่ค่อยมีเวลาได้อยู่บ้านเลยค่ะ ^^" ก็เลยอยู่ในโหมด  easy bake ซะส่วนใหญ่นะ

Friday, October 1, 2010

White chocolate and strawberry marquise: Cute Cool Sweet!

ปุ๊กว่า แค่หน้าตาของขนมชิ้นนี้ ก็น่ารักกินขาดแล้วค่ะ  ^^ จริงๆก็ไม่รู้ว่า คนอื่นคิดอย่างไง แต่สำหรับปุ๊ก สีสันของขนมชิ้นนี้ ทำให้รู้สึกดีจังค่ะ

ว่าไป ก็เป็นนิสัยของปุ๊กนะคะ ที่จะชอบเลือกทำขนมที่หน้าตา อิอิ (แบบว่า รู้สึกดีอะ เวลาทำขนมน่ารักๆ) 
แต่คราวนี้ ไม่ใช่แค่หน้าตาหรอกค่ะ ที่ทำให้อยากลองทำ เพราะเมื่ออ่านดูส่วนผสมแล้ว ปุ๊กว่ามันน่าจะอร่อยค่ะ เพราะไวท์ช็อกโกแลตกับสตรอเบอรี่นั้น เป็นคู่ที่รสชาติเข้ากันมากๆเลยค่ะ แล้วเมื่อเอามาเป็นขนมแบบเย็นๆแบบนี้ ก็น่าอร่อยมากขึ้นใช่ไหมเอ่ย  

ขนมออกมาดีสมใจค่ะ เพราะรสชาติหวาน ของช็อกโกแลต เมื่อมารวมกับครีมทำให้ ริซและเข้มข้นมาก แต่ ก็จะได้รับการตัดลงโดยช้อสสตรอเบอรี่ ที่มีรสเปรี้ยว ทำให้ขนม balanceขึ้นค่ะ
ที่แนะนำให้แช่เย็น อย่างต่ำ 24 ชั่วโมง จำเป็นมาก สำหรับขนมสูตรนี้ค่ะ (นานกว่านี้ได้อีกนะคะ) เพราะหากไม่เฟิร์มพอ ก็จะตัดเป้นชิ้นสวยๆค่อนข้างยากค่ะ 
ตัวstrawberry sauceจะรสชาติดีขึ้นนะคะ เมื่อได้พักไว้ (เพราะรสชาติของน้ำตาลไอซิ่งจะหายไปค่ะ) ดังนั้น แนะนำให้ทำแล้วพักไว้ 1 วัน แล้วนำมาเสิร์ฟพร้อมกันค่ะ  

Adaptation from: Good Food magazine, issue July 2010




White chocolate and strawberry marquise 
SERVES 8-10 



6-8 .................................. sponge fingers 
4 tbsp ............................. น้ำส้มคั้นสด 
2 tbsp ............................. Cointreau (หรือ เหล้าส้มแบบอื่นค่ะ) 
300g/11oz ..................... ไวท์ช็อกโกแลต, สับ 
3g .................................... เจลาติน
30ml .............................. whipping cream
25g/1oz ......................... เนยจืด 
200ml/7fl oz ................. whipping cream 
3 tbsp ............................. น้ำตาลไอซิ่ง
500g/1lb 20z ................ สตรอเบอรี่


1 ใช้พลาสติกแร็ป วางลงไปในโลฟขนาด 1.2 litre โดยซ้อน 2 ชั้น และให้ปลายออกมาด้านนอก  วาง sponge fingersลงไป แล้วพรมด้วยน้ำส้ม 3 ช้อนโต๊ะ และ เหล้า 2 ช้อนโต๊ะ 

2 แช่เจลาตินลงในน้ำเย็น พักไว้
ใส่ช็อกโกแลตและเนยลงในชามที่สมารถใช้ในไมโครเวฟได้ แล้ว นำไปละลายในไมโครเวฟ ประมาณ 1½ -2 นาที (ถ้าใช้เวลา 2 นาที เมื่อเข้าเตาไป 1 นาทีแล้ว เอาออกมาคน 1 รอบ ก่อน นำไปละลายต่อนะคะ)

อุ่น วิปปิ้งครีม 30ml ในไมโครเวฟ ประมาณ 30 วินาที แล้วใส่เจลาตินลงไป คนให้ละลาย เมื่อเจลาตินละลาย ใส่ ส่วนนี้ลงในช็อกโกแลต แล้วคนให้เข้ากัน

ตีวิปปิ้งครีมที่เหลือ กับน้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนโต๊ะ จนตั้งยอด แล้ว นำช็อกโกแลต มาตะล่อมจนเข้ากัน 

3 เลือกสตรอเบอรี่ที่มีขนาดพอๆกันไว้ 


ตักส่วนผสมลงในพิมพ์ ให้ได้ครึ่งพิมพ์ แล้ว วางสตรอเบอรี่ลงไป กดลงไปเล็กน้อย แล้ว เทส่วนผสมทั้งหมดลงไป 
ใช้ ปลายของ พลาสติกแร็ปที่เหลือ คลุมกลับลงไป แล้วนำเข้าแช่ตู้เย็น อย่างน้อย 24 ชั่วโมง 


4 นำสตรอเบอรี่250 กรัม มาสับ แล้วนำไปบดในเครื่องผสมอาหาร พร้อมกับน้ำตาลไอซิ่ง 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำส้ม 1 ช้อนโต๊ะ แล้ว กรองผ่านกระชอน แช่เย็นไว้
5 เมื่อพร้อมเสิร์ฟ นำขนมออกจากโลฟ แล้วตัดเป็นชิ้นหนา วางลงในจาน เสิร์ฟ พร้อม สตรอเบอรี่ และ สตรอเบอรี่ซ้อส 

White chocolate and strawberry marquise: Cute Cool Sweet!

Sunday, June 20, 2010

Apricot & almond Chelsea buns: Soft and sweet for delight tea time !


ช่วงหลังๆนี้ เหมือนเป็นคนไม่มีไอเดีย เรื่องการทำขนมปังไปซะงั้นอะคะ ทำขนมก็แบบเดิมๆ  ^^". อย่างว่าค่ะ ต้องยอมรับว่า เมื่อเราทำขนมไปเรื่อย ก็มักจะเริ่มมีสูตรที่เราทำบ่อย อาจจะเพราะหลายๆเหตุผล เช่น ง่าย อร่อย หรือ ว่า เราสามารถไว้ใจได้ในเรื่องผลของมันทุกครั้ง

แต่ก็นะคะ มันไม่ใช่นิสัยปุ๊กเลยนะสิ ปุ๊กอะ ไม่เคยเชื่อในเรื่องของที่สุดค่ะ  "ultimate things" เนี่ยะ ไม่มีหรอกค่ะ 555 , แล้วโดยเฉพาะ เจ้า ultimate recipe! อืม ยิ่งไม่เชื่อใหญ่เลยค่ะ เพราะว่า ในโลกนี้มีสูตรตั้งมากมายให้เราทดลองทำ หรือ จะบอกว่ามีสูตรอีกตั้งมากมายรอให้เราทำออกมาแล้วกินไม่ได้เช่นกัน 5555, แต่ไม่ว่า จะเป็นเช่นไร ปุ๊กก็ยังอยากจะลองมันอยู่ดีค่ะ เพราะเมื่อพูดถึงเรื่องความอร่อย หรือ รสชาติแล้ว คงไม่มีใครพูดได้ว่า อะไรคือที่สุดใช่ไหมคะ ดังนั้น การที่ปุ๊กมีสูตรอยู่ในบล็อกเยอะๆ ก็แค่หวังว่า จะมีสูตรที่ถูกใจ ใครต่อใครบ้างนะคะ   ^^

คราวนี้ ปุ๊กได้สูตรมาจากนิตยสาร BBC Good Food magazine, Issue April 2010 อีกแล้วค่ะ (ว่าไป ปุ๊กเริ่มจะเห็นด้วยกะเพื่อนแล้วนะคะว่า เจ้านิตยสาร Good Foodเนี่ยะ ดีมากเลยค่ะ เพราะว่าปุ๊กเองทำขนมจากเล่มเดือน เมษาฉบับนี้ไป 3 อย่างแล้วค่ะ)  แต่ก็ มีการปรับสูตรไปนิดหน่อยนะคะ เพราะไม่รู้ว่าเกิดการที่แป้งในแต่ละประเทศต่างกันหรือเปล่านะคะ เพราะปุ๊กต้องเพิ่มนมไปจากสูตรเยอะเหมือนกันค่ะ แต่ ก็ยังไม่แน่ใจมากนัก เพราะว่า ในตอนที่ปุ๊กไปอยู่บ้านพี่สาวที่อังกฤษ แล้วได้ลองทำขนมปังสูตรที่ทำประจำ ก็ไม่ต้องปรับเพิ่มหรือ ลดน้ำแต่อย่างไรค่ะ พอคิดแบบนี้ ก็เลยคิดว่า น่าจะเป็น จากการที่ปุ๊กชอบทานขนมปังนิ่มๆมากกว่าค่ะ ก็เลยเป็น เหตุของการปรับสัดส่วนนมเพิ่ม ซึ่งผลก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจนะคะ เพราะเราก็ได้ขนมปังนิ่มๆ ใส้หวาน หอมอร่อยมาทานไงล่ะคะ

ว่าไปสูตรนี้ง่ายดีค่ะ (โดยเฉพาะ ถ้าใช้  stand mixer ทำก็ยิ่งง่ายมากกว่าเดิมอีกค่ะ เพราะว่าไม่ต้องออกแรงนวดเลย) โดจับตัวกันเป็นก้อน ได้เร็วมากเลย ทำให้นวดได้ง่ายมากๆ แล้วยังอร่อย ยิ่งคนที่ชอบทาน แอ็พพริคอตแห้ง ก็ยิ่งต้องชอบแน่เลยค่ะ 
แต่สุดท้าย ต้องบอกไว้ก่อนว่า ปุ๊กไม่ได้พูดถึง "the ultimate Apricot & almond Chelsea buns" นะ ^ ^ ดังนั้น นี่อาจจะเป็น สูตรแรก ของอีกหลายๆสูตรที่จะลงอยู่ในบล็อกของปุ๊ก 555 เรียกว่าช่วยไม่ได้จริงๆค่ะ เพราะมันเป็น mission ของปุ๊กที่จะเสาะหา และทดลองสูตรไปเรื่อยๆ เพื่อว่า เราจะได้เจอสูตรที่เราเห็น พ้องต้องกันว่า อร่อย เพิ่มขึ้นๆทุกทีไงคะ 

Adaptation from: BBC Good Food Magazine, Issue April 2010


Apricot & almond Chelsea buns
MAKES  1 (23cm round pan)




FOR THE DOUGH

450g ..............................  แป้งขนมปัง
14g ................................. easy-blend yeast (instant yeast)
1 tsp ............................... เกลือ
50g ................................. น้ำตาลทราย
200ml ............................ นมจืดแบบไม่พร่องมันเนย
50ml ............................... น้ำ
1 ...................................... ไข่
50g ................................. เนยจืด, ละลาย

FOR THE FILLING AND TOPPING

25g ................................. เนย, นิ่ม 
85g ................................. dried apricots, สับ
85g .................................  toasted flaked almonds, อัลมอนด์สไลด์ อบ 
25g ................................. caster sugar
2 tbsp ............................ apricot jam
...... .................................  toasted flaked almonds, อัลมอนด์สไลด์ อบ สำหรับโรยหน้า


1. ใส่แป้ง ยีสต์ น้ำตาลทราย และเกลือลงในชามผสม คนให้เข้ากัน แล้วเทของเหลวลงไป (ผสม เนยละลาย, ไข่, นม, และ น้ำเข้าด้วยกันค่ะ) แล้วใช้หัวตะขอ ผสมให้เข้ากัน  (หากโดแห้ง หรือ แฉะไปก็เติม แป้ง หรือ น้ำเพิ่มค่ะ) นวด ประมาณ 5-7 นาที ที่ความเร็ว ปานกลางค่ะ 


2. นำออกจากชาม แล้ว ปั้นเป็น ก้อนกลม แล้ว ใส่ลงในชามที่ทาเนยไว้เล็กน้อย แล้วคลุมด้วย ผ้าชื้น (หรือ จะทำแบบปุ๊กคือ เอาใส่ไว้ในถุงพลาสติกก็ได้ค่ะ) พักไว้จนขึ้น 2 เท่า ประมาณ 1 ชม



3.เปิดเตาอบที่  200C ทาเนยที่พิมพ์กลมขนาด 23cm พักไว้ นำโดออกจากชาม แล้วรีดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม ขนาดประมาณ  20 x 30cm ทาเนยให้ทั่ว แล้วโรยด้วย แอ๊พพริคอต น้ำตาล และ อัลมอนด์ 
ม้วนให้เป็น แท่ง (ถ้าม้วนแล้วด้านริมไม่ติด ก็เอาน้ำทาหน่อยๆก็ได้นะคะ) แล้วตัดเป็น ชิ้น 8 ชิ้น แล้ววางลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้  



คลุมด้วย ผ้าชื้น แล้ว พักไว้จนขึ้นเกือบ 2 เท่า ประมาณ 20 นาที นำเข้าอบประมาณ 10 นาที แล้ว ลดความร้อนลงเหลือ  180C แล้วอบต่อ อีก  10 นาทีจนสีน้ำตาลสวย 


ละลายแยม แอ็พพริคอต กับน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วทาบนขนมปัง
แล้ว โรยด้วย อัลมอนด์สไลด์ให้ทั่ว


Apricot & almond Chelsea buns: Soft and sweet for delight tea time !

Friday, June 11, 2010

Malt chocolate ice cream with Oreo cookie crunch: Bring you back the delicious memory!

รอบที่แล้วทิ้งท้ายไว้แล้วนะคะ ว่า จะเอาสูตรที่มีโอรีโอมาฝากกันอีก 555 ก็นี่ล่ะค่ะ น่าทานดีไหม แต่คราวนี้ โอรีโอไม่ได้มาเดี่ยวๆนะคะ มาพร้อมกับโอวัลติน เครื่องดื่มที่หลายๆคนโปรดปรานตั้งแต่วัยเยาว์ค่ะ ว่าไปตอนเด็กๆใครๆก็คงเคยได้ทานนะคะ ทั้งแก้วใหญ่แบบอุ่นๆ หรือ แบบใส่น้ำแข็งเย็นชื่นใจ 
ว่าไป ปุ๊กชอบนะคะ เจ้าช็อกโกแลตมอลต์เนี่ยะ โดยเฉพาะตอนสมัยเด็กๆที่เราจะได้รับแจกจากคุณครู ตอนที่มีคุณหมอมาฉีดวัคซีนให้ที่โรงเรียนอะค่ะ 
ว่าไปก็นานมากแล้วนะคะ  ^ ^, แต่ก็นะ รสชาติหวานๆของโอวัลตินเย็นๆ ทำให้ พวกเรารู้สึกดีขึ้น หลังจากร้องไห้ออกมาจากห้องหมอ ทำให้ อาการเจ็บ ที่เกิดจากการฉีดวัคซีน คลายไปได้เยอะเชียวค่ะ 

ตอนเด็กๆ ใครๆก็คงชอบรสชาติหวานๆ ของเครื่องดื่มพวกนี้นะคะ แต่พอโตขึ้น พวกเราก็ทานหวานน้อยลงเรื่อยๆ อย่างว่าค่ะ เวลาผ่านไปแล้วเนอะ
คราวนี้ พอเห็นสูตรไอศครีมสูตรนี้ในนิตยสาร Goodfood  เลยมีความอยากลองอย่างมากเชียวค่ะ ว่าไปนะ รสชาติของสิ่งเหล่านี้ ยังคงอยู่ในความทรงจำเสมอไม่ใช่เหรอคะ แต่อย่างหนึ่งที่เปลี่ยนไปคือ เราไม่ได้ต้องการความหวานเท่าเดิมแล้วค่ะ ^ ^
ดังนั้นปุ๊กก็เลยลดน้ำตาล ไปครึ่งหนึ่งจากสูตรที่เข้าให้มาค่ะ เพราะว่าปุ๊กอยากได้ไอศครีมที่อร่อยแบบไม่หวานมาก แล้วก็ทานได้เรื่อยๆค่ะ  (ก็ตอนนี้ ไม่ได้กลัวหมอ หรือกลัวเข็มฉีดยาแล้วนิคะ 555 ไม่ต้องเอาของหวานๆมาปลอบเราแล้ว) 
รสชาติของไอศครีมที่ได้ออกมา อืม... อร่อยๆค่ะ ไอศครีมหนึบๆที่มีทั้งรสชาติช็อกโกแลตเต็มๆ แล้วยังมีโอรีโอ ที่ทำให้ไอศครีมสูตรนี้ออกมาได้ใจไปเต็มๆค่ะ   
ว่าไปนี่ปุ๊กทำไป 3 รอบแล้วนะคะเนี่ยะ เป็นที่นิยมของคนในบ้านมากๆเลย 555 เอาเป็นว่า หมดเร็วขนาด ไม่ได้มีโอกาสถ่ายรูปเลยด้วยซ้ำนะคะ เห็นปะว่าอร่อยแค่ไหน อิอิ
งั้นเราก็มาทำของอร่อยๆด้วยกันนะคะ ไอศครีมแสนอร่อย ที่จะทำให้ความทรงจะดีๆในวัยเด็กของพวกเรากลับมาก ปุ๊กว่า หลายๆคนจะมีความสุขกับไอศครีมสูตรนี้เช่นกันนะคะ 

Adaptation from: BBC Good Food Magazine, Issue April 2010


Malt chocolate ice cream with Oreo cookie crunch
SERVES 8 



750ml/l¼pts ...................... นม
250ml/9fl oz ....................... วิปปิ้งครีม
6 ........................................... ไข่แดง
70 g/2.5 oz ......................... น้ำตาลทราย 
85g/3oz ............................... ช็อกโกแลตนม, สับ
25g/1oz ............................... ดาร์กช็อกโกแลต, สับ
140g/5oz ............................ Ovaltine รสต้นตำรับ
154g .................................... คุกกี้ Oreo ตัดเป็นชิ้น


1 นำนมและครีมไปต้มจนเดือดอ่อนๆ ในขณะเดียวกันก็ตีไข่แดงกับน้ำตาลจนเข้ากัน แล้วเทนมลงในส่วนของไข่ช้าๆ โดยตีตลอดเวลา เมื่อเข้ากันดีแล้ว เทลงในหม้อ  

นำขึ้นตั้งไฟ ประมาณ 10 นาทีโดยคนตลอดเวลา จนข้น (ประมาณ 85องศาซี) อย่าปล่อยให้เดือดนะคะ เมื่อได้ที่แล้วจะข้นจนสามารถคลุมหลังช้อนได้ค่ะ

2 เทส่วนผสม ผ่านกระชอนลงในชามที่ใส่ช็อกโกแลตทั้ง 2 อย่างไว้  คนให้เข้ากัน แล้วตามด้วย โอวัลติน แล้วคนให้เข้ากันดี พักจนเย็น แล้วแช่ในตู้เย็น 1 คืน

3 นำเข้าเครื่องปั่น จนข้น เป็นเนื้อไอศครีม แล้วใส่คุกกี้ลงไป แล้วนำเข้าแช่เย็น 

Malt chocolate ice cream with Oreo cookie crunch: 
Bring you back the delicious memory!

Sunday, April 25, 2010

Homey Cake for Everyone: Caramel Apple Cake


ใครๆ ก็คงชอบกลิ่นหอมๆ ของเค้กตอนอบอยู่ในเตานะคะ เวลาได้กลิ่นแล้ว บางคนก็ปิดตาแล้วก็แอบจินตนาการด้วยสิ ว่าไอ้เค้กหอมๆก้อนเนี่ยะ มันจะรสชาติอร่อยแค่ไหนหนอ และ เจ้ากลิ่นหอมๆ ยังช่วยให่เรานึกถึงช่วงเวลาดีๆได้ด้วยนะคะ 

ปุ๊กเองก็เป็นค่ะ เวลาที่อบเค้กเนี่ยะ จะชอบสูดกลิ่นหอมๆเข้าไปให้เต็มปอด เพราะรู้สึกว่า เมื่อได้กลิ่นพวกนี้ จะรู้สึก สงบแล้วก็รู้สึกผ่อนคลายมากๆเลยค่ะ ดังนั้น ก็เลยกลายเป็น ความสุขอย่างหนึ่งเมื่อทำขนมอบที่บ้านนี่ล่ะค่ะ   ^ ^.
กลิ่นที่ปุ๊กชอบที่สุด ก็คือ กลิ่นของแอ๊ปเปิลแล้วก็ชินนามอนนี่ล่ะค่ะ มันเป็น กลิ่นที่หอมหวาน แล้วทำให้รู้สึกดีที่สุด ในโลกเลยล่ะค่ะ (อิอิ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้นะ พอดีเรื่องนี้ เป็น เรื่องส่วนบุคลลจริงๆเลยค่ะ) เค้กสูตรนี้ทำง่ายๆค่ะ แล้วก็อร่อยด้วยนะคะ โดยเฉพาะ สำหรับคนที่ชอบทานคาราเมลจะต้องถูกใจมากๆค่ะ (เพราะขนาดพี่สาวปุ๊ก ที่ธรรมดา จะไม่ชอบเจ้า ชินนามอนเลยนะคะ พอมาทานเค้ก สูตรนี้ เธอยังไม่บ่นเลย ใช้ได้ไหมล่ะ) 

สูตรต้นฉบับ ใช้ soft toffee แทนที่จะใช้ caramel sauceค่ะ ซึ่งถ้าใคร จะใช้ ก็ใช้ soft toffee (แนะนำยี่ห้อ Werther's chewy toffee ค่ะ) ประมาณ 50g พร้อมกับ วิปปิ้งครีม (2 tbsp) นำไปละลายในหม้อใบเล็กค่ะ แล้วก็นำมาใช้ แทน คาราเมลซ้อส ซึ่งวิธีนี้ ก็ดีสำหรับคนที่ไม่อยากจะเล่นกับของร้อน หรือ ว่าขี้เกียจที่จะทำคาราเมลซ้อสค่ะ และวิธีนี้ ก็ปลอดภัยกว่าด้วยนะคะ  ^ ^

เค้กแอ๊ปเปิลสูตรนี้ จะเอาไว้เสิร์ฟเป็นของว่างตอนบ่าย หรือ จะเอาไว้เป็น อาหารเช้าเพื่อตอนเช้าอันสดใส ก็ได้เลยค่ะ แต่ล่ะคำ ก็เต็มไปด้วยเค้กนุ่มๆ และแอ๊ปเปิลนิ่มๆ แล้วยังเพิ่มความอร่อยไปอีกขั้นด้วย คาราเมลและพีแคนค่ะ สำหรับสูตรนี้ ปุ๊กชอบทานแบบอุ่นๆ พร้อมกับชาสักแก้วค่ะ ลองจินตนาการตามปุ๊กนะคะ เค้กหวานหอม ที่มีความขมนิดๆของถัวพีแคน และคาราเมล อืม....เป็นไงคะ เข้ากันดีใช่ไหมล่ะ ดังนั้น เค้กแบบนี้ คงทำให้เพื่อนๆทุกคนได้รู้สึกดีกับวันดีๆ อย่างง่ายๆค่ะ   

Adaptation from: BBC GoodFood, Issue Februry 2010 



Caramel Apple Cake
Make 1 (20x20cm) cake


175g ................................. เนยจืด, นิ่ม
150g ................................. น้ำตาลทราย สีรำ
1 tsp ................................. Vanilla extract
2 ....................................... ไข่
¼tsp ................................ ผงฟู
¼tsp ................................ เกลือ
½tsp ................................ Cinnamon
225g ................................. แป้งอเนกประสงค์
4tbsp ................................ โยเกิร์ต
2 ........................................ เอ๊ปเปิ้ล, ปอกเปลือก แล้วหั่นเป็น ชิ้น สี่เหลี่ยมเล็ก
70g .................................... พีแคน, อบ
............................................ Caramel sauce 

เปิดเตาอบไว้ที่ 160°C
วางกระดาษรองอบลงบนพิมพ์ 
ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ และชินนามอนเข้าด้วยกัน แล้วพักไว้ 


ตีเนยและน้ำตาล และวานิลลาให้เข้ากันจนสีอ่อนลง แล้วใส่ไข่ลงไปทีล่ะฟอง ตีให้เข้ากัน


ใส่ครึ่งหนึ่งของแป้งลงไป ตะล่อมให้เข้ากัน แล้วตามด้วย โยเกิร์ต 
ใส่แป้งทั้งหมด และแอ๊ปเปิลลงไป แล้วตะล่อมให้เข้ากัน 


เทส่วนผสมลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วเกลี่ยให้เรียบ
นำเข้าอบ ประมาณ 45-50 นาที หรือจนเมื่อใช้ไม่แทงลงไป แล้วไม่มีเศษเค้ก ติดออกมา 
ละลายคาราเมลซ้อสให้เหลว แล้วราดลงบนเค้ก แล้วโรยพีแคนลงไป แล้วราดด้วยซ้อสอีกรอบ
พักไว้ให้เย็น


Homey Cake for Everyone: Caramel Apple Cake

Printfriendly