วันนี้เรายังอยู่ที่ อาซาฮิคาว่า แต่ก็เป็นวันสุดท้ายที่นี่แล้วล่ะค่ะ
หากอยากอ่านวันที่ผ่านๆมาคลิกที่นี่นะคะ:
ไปเที่ยวกับเดลี่, อาหารเช้าตอนสายๆ กับโดราเอมอน และโบกี้รถไฟส่วนตัวของพวกเรา
ไปเที่ยวกับเดลี่: ฮอกไกโด วันที่ 2 กิน และไม่หยุดกิน ที่โอบิฮิโระ
ไปเที่ยวกับเดลี่: ฮอกไกโด วันที่ 4 วิวสวยๆ ในสายฝน
เพราะพวกเราชอบซื้อของกินกันทุกวันเลย เราก็เลยตัดสินใจที่จะเอาของที่ซื้อมา ทานเป็น อาหารเช้า แทนที่จะออกไปหาอะไรทานข้างนอก เพราะถ้าทานไม่หมด เราต้องขนขึ้นรถไฟไปด้วย แต่ก็ดีนะคะ เพราะทำให้เราประหยัดเวลาตอนเช้าไปได้เยอะเลย (เอาเวลาไปนอนตื่นสายแทน 555)
เพราะว่า ฮออกไกโดดังเรื่องนมนะคะ เราเลยมักจะซื้อมาลองเยอะแยะไปหมด แต่ผลจากการลองก็ได้พบว่า โยเกิร์ตยี่ห้อนี้ Bocca Yogurt drink อร่อยมากๆ แนะนำนำคะ ถ้าใครมีโอกาสเจอ ลองซื้อมาทานดูค่ะทั้งมัน, หอม เปรี้ยวแบบกำลังดี สรุปอร่อยมากค่ะ
รอบนี้ ปุ๊กเลยได้ของที่ระลึกกลับมาเป็นขวดนมเยอะมาก 555 (แล้วก็หนักด้วย)
เช้านี้เราจะไป สวนสัตว์ อาซาฮิยามะกันค่ะ ซึ่งเป็นสวนสัตว์ที่ใหญ่มากๆ แห่งนึงเลย โดยใช้เวลาขับรถจาก โรงแรมไป 30 นาที
เราไปกันเช้า เลยไม่ต้องห่วงเรื่องที่จอดรถนะคะ จอดได้สบายๆ หน้าทางเข้า
ค่าเข้าอยู่ที่ 820 เยน สำหรับผู้ใหญ่ โดยเด็กที่ตำ่กว่ามัธยมต้น ไม่ต้องเสียค่าเข้าค่ะ
วันนี้ อากาศเหมาะมากๆ สำหรับการเดินเล่นค่ะ เพราะฟ้าใส หลังจากที่เราเจอฝนกันมาตลอด เลยรู้สึกดีมาก
เพราะเราจะอยู่ที่นี่นาน วันนี้ แพลนเรื่องอาหาร ก็แบบง่ายๆ ค่ะ คือทานในสวนสัตว์นี่ล่ะค่ะ โดย สามารถซื้อของกิน, เครื่องดื่ม และขนมได้จากซุ้มที่มีอยู่ทั่วๆ ไปนะคะ
ถ้าใครพาเด็กมาเที่ยว ปุ๊กแนะนำมากๆ ค่ะ เพราะเป็นที่ๆ เหมาะกับเด็กๆ มาก โดยเฉพาะคุณหลานตื่นเต้นสุดๆ
ที่แรกที่แวะเข้าไปดู คือ ตึกแพนกวินค่ะ
โดยที่นี่ มีแพนกวินให้ดูอยู่ 4 ชนิด
* King penguin (キングペンギン)
* Gentoo penguin (ジェンツーペンギン)
* Humboldt penguin (フンボルトペンギン)
* Rockhopper Penguin (イワトビペンギン)
Humboldt penguin (フンボルトペンギン)
Gentoo penguin (ジェンツーペンギン)
King penguin (キングペンギン)
โดยหากใครมาในช่วงหน้าหนาว จะได้เห็นพาเรดแพนกวินด้วยนะคะ (เสียดายที่เราไม่ได้ดูค่ะ)
Spotted Seal(ゴマフアザラシ) ว่ายอยูใน Marine way (pillar water tank)
เจ้าหน้าที่ให้อาหารไป ก็พูดถึงธรรมชาติ ของมัน แต่ เพราะคนเยอะ และคุณหลานเห็นไม่ชัด เราก็เลยอยู่ไม่นานค่ะ
ต้องบอกเลยว่า อากาศดีมากๆๆๆ นะคะ ฟ้าสวยมาก เดินไปทางไหน ก็อยากถ่ายรูปค่ะ ^^.
เราเดินไปจนถึงตึกหมีขาว (Polar bear building) แล้วก็ยืนดูมันอยู่ตั้งนาน เหตุผลที่ยืนนานคือ มันไม่ยอมหันหน้ามาซักทีค่ะ อยากถ่ายรูปเธอ ก็เลยต้องรอๆๆๆ
ปล. ได้ความรู้มาจากที่นี่อย่างนึงคือ จริงๆ แล้วขนของหมีขาว ไม่ใช่สีขาวนะคะ แต่เป็นสีใสแบบสะท้อนแสง จึงทำให้เราเห็นว่ามันเป็นสีขาวตอนอยู่ในหิมะ อิอิ เราก็ได้เรียนรู้บ้างนะ
Lesser Panda (シセンレッサーパンダ)
Snowy Owl (シロフクロウ)
และอีกตัวที่ชอบมากคือ นกฮูกหิมะ เธอสวยมาก ดูหยิ่งสุดๆ แล้วก็ไม่ขยับเลย ยืนจ้องตากันนานมาก ความสวยของเธอสุดยอดค่ะเดินไปเรื่อยๆ ก็มีอะไรให้ดูตลอดนะคะ โดยที่นี่ (Asahiyama zoo) มีชื่อเสียงในการจัดวางจุดชมสัตว์ เพราะเราจะไม่ได้เห็นจากแค่มุมเดียว อย่างในตึกหมีขาว ก็จะมี seal eye (capsule) ให้เราสามารถดูเจ้าหมีใกล้ๆได้ หรือ เห็น แมวน้ำว่ายใน Marine way (pillar water tank).
แต่่ของที่ชอบอีกอย่างคือ ป้ายพวกนี้ค่ะ น่ารักทุกอันเลย ^^.
Japanese Deer (エゾシカ)
แต่เดินไปถ่ายรูปไปก็สนุกมากแล้วนะคะ
ถ้าใครตั้งใจมาถ่ายรูป แบบที่ปุ๊กทำ ก็ถือว่าเป็นที่ๆ สนุกมากอีกที่ค่ะ เพราะเล่นเอาการ์ดเต็มไปเลยทีเดียว
เราเดินไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาอาหารกลางวัน อย่างที่บอกไว้ว่า เราซื้อจากซุ้มอาหารที่นี่ล่ะค่ะ
Chicken Kara-ake
แบบว่า เราคงไม่ต้องพูดเรื่องรสชาติกันเนาะ 5555
Chicken teriyaki
เพราะเราเดินกันจนเหนื่อย, การได้นั่งพักทานอาหารแบบสงบๆ ท่ามกลางอากาศดีๆ แบบนี้ก็สุดยอดค่ะ
ยิ่งได้ซุปอุ่นๆ สักถ้วย ยิ่งมีความสุขค่ะ
อากาศดี ฟ้าสวย ทำให้รูปที่ถ่ายออกมา เห็นความงามของสีสันในช่วงเวลานี้ได้ดีเลยนะคะ
หลังจากทานเสร็จ เราก็เดินต่อค่ะ โดยจุดหมายต่อไปเป็น Children's ranch (こども牧場) ที่เราสามารถจะสัมผัสสัตว์บางชนิดที่เขาจัดให้ชม (ส่วนการจะได้อุ้ม หรือจับ จะมีเวลาที่กำหนดไว้ค่ะ)
พวกสัตว์ตัวเล็กๆ น่ารักมากๆ ^^.
Goat
Common Peafowl (インドクジャク)
เราอยู่ที่นี่เกือบ 4 ชั่วโมงนะคะ ถึงจะยังเดินไม่ทั่ว แต่เราก็ต้องไปกันต่อแล้วล่ะค่ะ^^.ขับจากสวนสัตว์มา 6 นาที ก็ถึง Minami Kanko Orchard (南観光果樹園).
เราตั้งใจจะมาเก็บผลไม้ที่นี่ค่ะ โดยผลไม้ที่จะเก็บได้ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เราไปนะคะ โดยในวันที่เราไป ผลไม้ที่เราจะได้เก็บคือ องุ่นค่ะ
กฎง่ายๆ ก็คือ จ่ายเงินค่าเข้าสวน (100เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 800 เยนสำหรับเด็ก) เราสามารถจะทานผลไม้เท่าไหร่ก็ได้นะคะ แต่หากเราเก็บเกินกว่าที่เราทาน เราต้องจ่ายเงิน ตามน้ำหนักขแงผลไม้ แล้วเอากลับไปได้ค่ะ
ปุ๊กก็ไม่มีอะไรมากกว่า ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ 555
โดยองุ่นที่มีให้เราเก็บมีอยู่ 2 ชนิดนะคะ คือ เป็น สีม่วง กับสีเขียว
สีเขียวออกเปรี้ยวไปหน่อย เราก็เลยทานสีม่วงไปเยอะมาก จนกระทั่งลิ้นเปลี่ยนเป็นสีม่วงเลยทีเดียว
พอกินไปขนาดนี้ ก็คิดว่า ถึงเวลาต้องไปต่อแล้วค่ะ
ตอนเดินออกมา เห็นต้นแอปเปิ้ล แต่เพราะมันหมดฤดูแล้ว เขาเลยไม่ให้เก็บนะคะ
แต่ก็ขออนุญาติเจ้าหน้าที่เข้าไปถ่ายรูป เลยได้รูปงามๆ มานี่ล่ะค่ะ
วันนี้ เราต้องคืนรถ แล้วนั่งรถไฟไปซัปโปโรแล้วล่ะค่ะ
ดังนั้น ต่อให้เราอยากจะอยู่ต่อแค่ไหน ก็ต้องตัดใจค่ะ
พวกเราก็เลยเดินกลับไปที่ร้านค้าของสวน
แล้วก็ซื้อผลไม้เอาไว้ไปทานบนรถไฟ
แอปเปิ้ลอร่อยมากๆ นะคะ ฉ่ำ หวานอมเปรี้ยว
แล้ว เราก็จ่ายเงินค่า องุ่นที่พวกเราเก็บกันมา
ปล. หากใครอยากจะไปเก็บผลไม้ ต้องเช็คให้ดีนะคะ เพราะผลไม้แต่ล่ะชนิดจะมีช่วงเวลาในการเก็บที่ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับฤดูกาลค่ะ
ถึงเลวที่เราจะต้องขับรถกลับไป อาซาฮิคาว่ากันแล้ว กินขนมปัง รองท้องกันในรถนิดหน่อยค่ะ ^^
พอไปถึง Toyota rent a car เราก็จ่ายค่าน้ำมัน เพราะตลอดเวลาที่ขับออกมา เราไม่ได้เติมน้ำมันเลย
จบจากเรื่องรถ เราก็เดินข้ามถนน ไปเอากระเป๋าที่โรงแรมค่ะ
ต้องจากกัน แล้วนะ Asahikawa พอคิดขึ้นมา ก็เพิ่งรู้ตัวว่า พวกเราไม่ได้เที่ยวในเมืองเลย 555 ไว้คราวหน้าล่ะกันนะ
เราจะใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง บนรถไฟ ก็จะเป็นช่วงอาหารเย็นพอดี เราเลยตัดสินใจแบบเดิมค่ะ คือ ซื้อข้าวกล่องไปกินบนรถไฟ ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกสุด
เป็นวันที่เดินจนเหนื่อยอีกหนึ่งวัน แต่พอได้กาแฟเข้าไปสักแก้ว ก็มีแรงขึ้นมาหน่อยนะคะ อิอิ ปล. ขอบอกเลยว่า กาแฟ สตาร์บัคที่ฮอกไกโด อร่อยกว่าที่คิดเยอะมากค่ะ ไม่แน่ใจว่ามาจากนมหรือเปล่า อิอิ
เอาล่ะเดี๋ยวพรุ่งนี้ เราจะไปตะลุยร้านกาแฟในซัปโปโรต่อนะคะ เก็บแรงกันไว้ก่อน
No comments:
Post a Comment