Tokachi Hill |
วันที่ 2 ในฮอกไกโด เราอยู่ที่ โอบิฮิโระ เมืองหลวงของกึ่งจังหวัด Tokachi ที่โด่งดังจากทั้งอาหารอร่อย และสถานที่ที่สวยงาม
ตื่นมาตอนเช้า พวกเรา พร้อมแล้วค่ะที่จะไปรับรถจาก Toyota rent a car (Obihiro shop), ที่ใช้เวลาประมาณ 10 นาที (โดยรถยนต์ จากโรงแรม) แต่ฝนตกแบบนี้ เราเลือกที่จะนั่งแท็กซี่ไปกันค่ะ
คุณลุงคนขับรถใจดี และน่ารักมากมาย เพราะตอนที่คุณพี่สาวลืมของ แล้วต้องขึ้นไปเอา คุณลุงเลยบอกให้เข้าไปนั่งในรถก่อน เพราะมันหนาว แล้วก็ถามว่าเราจะไปไหนกันบ้างหลังจากได้รถแล้ว พอบอกจะไปสวนมานาเบะ แกก็หาแผนที่มาให้ดูใหญ่เลย (สงสัยกลัวพวกเราหลง ^^)
พอเราพร้อม ก็ได้เวลาไป Toyota rent a car แล้วค่ะ แต่พอไปถึง แกก็ไม่ยอกให้เราลงนะ บอกให้นั่งรอบนรถก่อน เดี๋ยวจะไปถามให้ก่อนว่าใช่ไหม (เพราะมี Toyota rent a car อยู่ 3 ที่) พอวิ่งกลับมา แกก็ยิ้ม แล้วทำท่า วงกลม (Maru) บอกเราว่า ถูกต้องแล้ว 555
พนักงานที่ โตโยต้า ก็น่ารักมากๆ ค่ะ ถึงจะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ก็พยายามอย่างเต็มที่ ที่จะอธิบายให้เราฟัง จนสุดท้ายปุ๊กต้องบอกว่า พูดภาษาญี่ปุ่นก็ได้ (ถึงปุ๊กจะไม่ได้เก่งภาษาญี่ปุ่น แต่ก็เร็วกว่ารอนะ 5555)
หลังจากได้ รถ (เราเช่า Toyota Wish เพราะกระเป๋าเยอะค่ะ) ก็ถึงเวลาผจณภัยแล้ว เย้ๆๆๆ
สิ่งแรกที่เราจะต้องทำความเข้าใจก็คือระบบนำทางค่ะ ซึ่งจากการที่ไม่เคยใช้มาก่อน ก็เลยงง เล็กน้อย จุดหมายแรกของเรา คือร้านขนมปัง Mugioto (ますやパン 麦音) Obihiro, ซึ่งระบบก็พาเราไปถูกแล้วนะ แต่เรากลับหาร้านไม่เจอ เธอ (เพราะเป็นเสียงผู้หญิงก็เลยขอให้สรรพนามเธอล่ะกัน) ก็พูดตลอดให้เราทำตามคำแนะนำ 555 แต่เพราะปุ๊กเห็นรูปร้านจากในเวปเท่านั้น ก็พยายามมองหาร้านแบบในรูป
(เราใช้เวลาขับรถวนไปมาเกือบ 20 นาที แหนะ) สุดท้าย คุณพี่สาว ก็หันมาบอกว่า ป้ายอันนั้นอ่านว่าอะไร เท่านั้นล่ะค่ะ ถึงได้รู้ว่า เราขับรถผ่านร้านไป 3 รอบแล้ว -*-
เอาล่ะ มาถึงแล้ว ก็เข้าไปในร้านเลยเนาะ เพราะตอนนี้เราหิวกันมากๆค่ะ ยังไม่ได้ทานอาหารเช้ากันเลย พอเดินเข้าไปในร้าน เห็นที่นั่ง (รวมถึงสวนด้านหลัง) แอบคิดอยากจะนั่งทานที่นี่เหมือนกัน แต่ๆๆๆๆ เราอยากใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด ดังนั้น เราเลยตกลงที่จะซื้อขนมปัง แล้วไปกินที่สวนแทนค่ะ
มีขนมปังให้เลือกเยอะมากค่ะ เพราะเป็นร้านที่ค่อนข้างใหญ่ กึ่งจังหวัดโทกะชิ เป็นแถบที่มีการเพาะปลูกข้าวสาลีคุณภาพดี (ผลิตได้เป็น 25% ของประเทศ) และร้านนี้ ก็ใช้ ข้าวสาลีของโทกะชิเท่านั้นค่ะโดยเป็นร้านที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1950 แล้ว
แค่เดินสูดกลิ่นหอมของขนมปังอบใหม่ ก็รู้สึกมีความสุขสุดๆ แล้ว
สุดท้ายก็ตัดใจไม่ได้ ซื้อขนมปังไปเยอะมาก เพราะอยากกินไปหมด 555 (เยอะมากจนเราต้องหอบไปกินต่อที่ Asahikawa,เลย).
ตอนนี้มีเสบียงแล้ว เราก็มุ่งไปที่จุดหมายที่ 2 ค่ะ "Manabe Garden (真鍋庭園緑化)".
ขับรถประมาณ 6-10 นาที (ถ้าไม่เลยทางเข้า 555) เราก็ถึงสวนมานาเบะค่ะ วันนี้ฝนตกทั้งวัน อากาศหนาว และปุ๊กก็หิวกาแฟมากค่ะ
แต่ยังดีที่ ในสวนมานาเบะมีคาเฟ่เล็กๆอยู่ หลังจากซื้อกาแฟ และจ่ายค่าเข้าสวน (ผู้ใหญ่ ¥800 เด็ก ¥200) เราค่อยๆ ก็เดินเข้าสวนกันค่ะ
โดยเราสามารถเลือกทางที่จะเดินได้ 3 แบบคือ กระรอก จะใช้เวลา 30 นาที จิ้งจอกจะใช้เวลา 45 นาที และกระต่าย จะใช้เวลา 60 นาที เลือกเดินได้ ตามความพอใจ (และความขยันนะคะ)
เราตัดสินใจไม่ได้ว่าจะตามทางไหนดี ก็เลยเดินเข้าไป โดยไม่ได้เลือกทางค่ะ
เพราะฝนตก ก็เลยไม่ค่อยมาใครมานะคะ (น่าจะประมาณ 2-3 กลุ่มเท่านั้น) ภายในสวน สวย และเงียบสงบมากค่ะ เราเดินเข้าไป แล้วก็มองหาที่เงียบๆ ที่จะทานอาหารเช้ากัน
ก็เจอที่นั่งตรงใกล้ๆ บ่อปลาค่ะ เอาล่ะ เปิดถุงออกมากินกันเถอะ
Tokachi Milk |
กินนมกับครัวซองต์ แล้วก็ Potato roll (ที่มันอร่อยมาก จนกินหมด ก่อนที่จะได้ถ่ายรูปนะคะ เสียดายมาก)
มีปลาคราฟ เยอะมากๆ นะคะ ในบ่อ แล้วไม่กลัวคนเลยค่ะ พอเดินเข้าไปนี่ ว่ายเข้ามาหาเต็มเลย
こいのエサ¥100 |
มันเข้ามาใกล้สุดๆ!!!!!!!
จนสามารถกินอาหารจากมือเราได้เลยล่ะค่ะ พวกเราสนุกกันการให้อาหารปลา และปุ๊กก็สนุกกับการถ่ายรูปมากๆ เลย
หลังจากเต็มที่กับปลาแล้ว เราก็เริ่มเดินค่ะ
สวนใหญ่ และสวยดีนะคะ ได้รูปสวยๆ มาเยอะพอควรเลย คิดว่า ถ้าฝนไม่ตก น่าจะถ่ายได้มากกว่านี้อีกค่ะ
เพราะช่วงที่ไป เป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ เลยมีหลายสีมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็น สีแดง, เหลือง และเขียว เป็น โลกที่เต็มไปด้วยสีสันจริงๆ
เดินไปเรื่อยๆ จนเจอป้าย เราเลยตัดสินใจที่จะเดินตามทางจิ้งจอก เพื่ออกจากสวนค่ะ
หลังจากใช้เวลาไป 2 ชั่วโมงแบบมีความสุข ในสวน เราก็พร้อมที่จะเดินทางต่อค่ะ
แต่ก่อนจะไป ขอแวะซื้อของหน่อย
ร้านของสวนมานาเบะมีของน่ารักๆ ให้หยิบไปเป็นของฝากเยอะเลยค่ะ
นี่ถ้าไม่คิดว่ายังต้องกินอีกเยอะ คงจะต้องซื้อคุกกี้รูปกระรอกนี้ไปทานด้วยแน่นอนเลย แต่ไม่ได้ๆ เราต้องอดทนค่ะ
ที่ต่อไปที่เราตั้งใจจะไปคือ Tokachi Hill. (Tokachi Hills Hokaido 十勝ヒルズ)
13-5 Nisshin, Makubetsu-chō, Nakagawa-gun, Hokkaidō 089-0574 ญี่ปุ่น
+81 155-56-1111
ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจคุณ Navigation นะคะ เพราะพอพาเรามาถึงตีนเขา (โทกาชิ ฮิว อยู่บนเขา) เธอก็บอกว่า ถึงที่หมายแล้ว -*-.
แต่ยังดีที่ Google Map ยังสามารถพึ่งพาได้ค่ะ เพราะเราหาคนที่จะถามทางไม่ได้เลย
เราเลยตาม Google Map แล้วก็ขึ้นมาถึงที่หมายของเรา หลังจากเหตุการณ์นี้ ปุ๊กเลยเปิด Google Map พร้อมกับ ระบบนำทางตลอดเลย 555 กันพลาดค่ะ
จะเข้าไปด้านใน เราต้องจ่ายค่าผ่านทาง (¥800 สำหรับผู้ใหญ่ และ ¥400 สำหรับเด็กมัธยมต้นขึ้นไป)
เพราะฝนตก และเราก็หิวกัน (อีกแล้ว 555) เราเลยเดินตรงไปที่ร้านอาหารค่ะ Farm restaurant Viz .
ร้านตั้งอยู่ภายในสวนเลย แล้วก็วิวสวยมากกกกกกกก ^^.
เรานั่งติดหน้าต่าง ซึ่งวิวสวยจริงๆค่ะ
ห้องอาหารบรรยากาศดี และพนักงานก็น่ารักมากๆ ^^.
เพราะต้องจ่ายค่าเข้าสวนถึงจะเข้ามาที่ร้านได้ ทางร้านอาหารจึงมีการนำเอาค่าเข้าที่เราจ่ายแล้ว นำมาเป็นส่วนลดค่าอาหารให้เรา เพียงแค่เราโชว์บิลที่เราจ่ายค่าเข้าให้พนักงานเท่านั้นเองค่ะ
โดยเราต้องสั่งอาหารจานหลัก 1 จานต่อ 1 คน ส่วนสลัด, ซุป, เครื่องเคียง และของหวาน จะเป็น บุฟเฟต์ ค่ะ
มีของให้ลองเยอะมากนะคะ แล้วก็อร่อยไปหมดเลย โดยเฉพาะผักอร่อยมาก
ที่นี่ใช้ผักที่ปลูกในโทกาชินะคะ แล้วบอกเลยว่า ไม่เคยทานมะเขือเทศที่ไหนอร่อยเท่านี้มาก่อนเลย
Liver mousse |
Delicious sourdough bread |
Zucchini mousse |
レチョ Hungarian vegetable soup (¥2500) |
ปุ๊กเลือกเป็น レチョ Hungarian vegetable soup (¥2500) ซึ่งเป็นซุปผักนะคะ
マンガリッツァ豚(Mangalica pork in Paprika) (¥2500) |
チキン (chicken meat with Hungarian pasta) ¥2000 |
อาหารสไตล์ ฮังกาเรียนอร่อยมาก (เชฟเป็นชาวฮังการี่ค่ะ) แล้วเราก็ทานกันแบบไม่มีเหลือเลย อิอิ
สุดท้ายถึงคิวของหวาน จริงๆแล้ว เรากินได้ คนล่ะ 3 อย่างแต่ถึงตอนนี้ ขอแค่คนล่ะอย่างก็พอแล้วนะคะ
カシスとチョコレートムース |
คุณหลานหยิบชิ้นนี้ Mini Opera cake.
คุณพี่สาวซึ่งไม่บ้าช็อกโกแลตนัก ขอเป็นฟรุตเค้ก ที่อุดมไปด้วยเหล้าแทนค่ะ
อาหารอร่อย บรรยากาศดี พวกเรามีความสุขมากๆค่ะ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ พนักงานน่ารักสุดๆ เพราะพอเค้ารู้ว่าคุณพีสาวไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น ก็พยายามใช้ google translate เพื่อจะแปลให้เธอฟัง เพื่ออธิบายถึงอาหารตอนที่เธอเดินไปตักอาหารที่โต๊ะบุฟเฟต์
หลังจากใช้เวลาถ่ายรูปและพูดคุยกับพนักงานเล็กน้อย พวกเราก็เดินดูรอบๆค่ะ
แต่เพราะฝนตก และอากาศเย็นลงมาก เราเลยต้องเดินกลับไปที่ร้านขายของแทน
แต่เดินถ่ายรูปตอนฝนตก ถ้าไม่คิดว่าต้องระวังกล้องโดนฝน ก็ได้บรรยากาศที่แปลก และสวยไปอีกแบบค่ะ ^^.
คิดว่าถ้าอากาศดี พวกเราคงอยู่ที่นี้อีกนาน แน่ๆ
ภายในร้านขายของ มีของท้องถิ่น และของที่ทำที่ Tokachi hill เยอะเลยค่ะ
แต่ก็นะ เหตุผลเดิม ยังต้องเดินทางอีกหลายวัน ตัดใจค่ะ ตัดใจ
แต่ก่อนจะออกจากร้านเหลือบไปเห็นอันนี้ ซึ่งก็คือ มะเขือเทศเชื่อมแห้งแบบเค็ม อันนี้อร่อยสุดๆนะคะ ขอแนะนำมากๆ
ตอนแรกถ้าเวลาพอ ก็ว่าจะขับรถไป Lake Shikaribetsu 然別湖 กัน แต่การใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง และเมื่อเราไปถึงทะเลสาป พระอาทิตย์ก็น่าจะตกแล้ว เราเลยไม่ไปค่ะ
ก็เลยตัดสินใจขับรถเข้าเมือง เพื่อไปเก็บรถที่โรงแรม ก่อนที่จะมาเดินเล่นภายในเมืองค่ะ เพราะถ้าไม่เข้าเมืองวันนี้ แล้วพรุ่งนี้เราไป Asahikawa แล้ว เราจะไม่มีโอกาสอีกค่ะ
จากโรงแรมเดินประมาณ 5 นาที เราก็ถึงร้าน Rokkatei Obihiro Honten (六花亭 帯広本店 )
〒080-0012 Hokkaidō, Obihiro-shi, Nishi 2 Jōminami, 9 Chome−6
+81 155-24-6666
rokkatei.co.jp
โดยร้าน Rokkatei ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1933 (84 ปีแล้วนะคะ), โดยตั้งความหวังว่าเป็นร้านที่เป็นตัวแทนด้านขนมหวานของ ฮอกไกโด (โดยใช้ผลิตภัณต์ท้องถิ่นในการทำขนม) ซึ่งก็ทำได้ดีนะคะ เพราะไปไหนๆ ก็เจอร้านนี้ค่ะ 555 แล้วก็ขนมของร้านนี้ก็อร่อยมากด้วย
ถึงเวลาไปกินขนมกันแล้ว
Marusei Ice sandwich (マルセイアイスサンド)¥200 |
ก็เลยเลือกของที่ขึ้นชื่อของร้านนี้มา Marusei Ice sandwich (マルセイアイスサンド)¥200 ที่เป็น Marusei butter sandwich ในแบบไอศครีมค่ะ
Pudding cake (プディングケーキ¥360) |
Strawberry milk (いちごミルク¥420) |
Sakusaku pie (サクサクパイ¥160) |
original blended tea オリジナルブレンドティー ¥420 |
ถ้าใครชอบดื่มชาก็แนะนำเลย original blended tea (オリジナルブレンドティー ¥420), ที่ปรุงมา เพื่อไว้ทานคู่กับขนมหวานโดยเฉพาะเลย
Kurizensai (栗ぜんさい¥580) |
ขนมอร่อยทุกอย่างเลย และพนักงานก็น่ารัก คิดว่า การไปเที่ยวรอบนี้ สิ่งที่ประทับใจมากๆ อย่างนึงคือ ผู้คนที่เจอค่ะ เพราะเจอคนน่ารักๆ ดีๆ เยอะเลย ไม่ว่าจะไปที่ไหน
หลังจากอิ่มอร่อย เราก็เดินลงมาดูชิ้นล่าง ที่มีขนม และของฝากขายนะคะ
อยากกินไปหมดเลย!!!!.
เพราะร้านใกล้ปิดแล้ว เราก็เลยต้องรีบๆค่ะ
ถ้ามีโอกาสมา แนะนำขนมตัวนี้มากๆนะคะ Marusei butter sandwich, อร่อยมากมาย เสียอย่างเดียวที่เก็บได้ไม่นานนัก
หีบห่อสวยงามน่ารัก แล้วยังมี Making tape ที่เป็นลายของ Rokkatei ขายด้วย ^^.
เราเดินออกมาแล้วข้ามถนน ไปห้าง Fujimaru Obihiro ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม แต่เรามีเวลาไม่นานค่ะ เพราะห้างปิด 1 ทุ่ม เท่ากับเรามีเวลาแค่ 1.30 ชั่วโมงเอง
ก็นะ ไปเที่ยวรอบนี้ แทบจะไม่ได้เข้าห้างเลยค่ะ ดีอย่าง เสียอย่าง เพราะพอไม่ค่อยได้ซื้อของ ก็เก็บกระเป๋าง่ายมาก 555
แต่ถ้าใครมา โอบิฮิโระก็แนะนำนะคะ ห้างนี้ของดีเชียวล่ะ แล้วก็เงียบดี อิอิ ปุ๊กได้ของใช้ในครัวน่ารักๆ หลายชิ้นค่ะ แล้วก็ต้องรีบไปจ่ายเงินก่อนที่เขาจะปิดประตู
เดินจากห้างประมาณ 10 นาที เราก็มาถึงที่หมายสุดท้ายของคืนนี้ค่ะ Kita no Yatai (北の屋台 ). ตรอกเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยร้านเหล้าเล็กๆ (หรือจะเรียกว่าเล็กมากดี 555 เพราะแต่ล่ะร้านจุคนได้ไม่เกิน 6-7 เอง).
ร้านเต็มเกือบหมดทุกร้านเลย และเราก็มีเด็กด้วย เลยคิดเยอะค่ะ
แต่ก่อนที่เราจะตัดใจ ก็เดินมาถึงร้านนี้ Gyoza Bar Yukumo : 餃子バル行雲 บาร์เกี๊ยวซ่า ที่แต่งร้านดูสดใส เข้าไปกินอาหารเย็นกัน ^^.
เราเข้าไปนั่ง (ปุ๊กว่าเราโชคดีมากนะคะ เพราะเจ้าของร้านบอกว่า เขาเพิ่งเริ่มคนน้อยอาทิตย์นี้เอง).
ปุ๊กก็ถามว่ามีอาหารอะไรแนะนำไหม
ก่อนจะถามถึงอาหารเธอถามก่อนว่า เราจะดื่มอะไร (อิอิ ชอบอะ) ปุ๊กก็เลยขอเป็นไวน์ขาวล่ะกัน
十勝ワイン 町民用白ワイン ザ・いけだ |
ไวน์อร่อยที่รสชาติจัด และกลิ่นหอม
คุณพี่สาวขอเป็นเหล้าบ๋วย ที่ถ้าเป็นปุ๊กคงจะมาแบบ On the rock นะคะ 555
เหล้าบ๋วยที่หมักในบรันดี 梅酒 ブランデー仕込み, จาก 十勝ワイン.
fried rice (チャーハン¥500) |
Yakiyasai gyoza (焼き野菜餃子¥650) |
คุณพี่อยากลอง เกี๊ยวซ่าหมูกิมจิ Buta Kinchi Gyoza (豚キムチ餃子¥700),ที่ถ้าทานพร้อมเบียร์ คงอร่อยไม่น้อยค่ะ
ส่วนที่ทำอาหารของร้านเล็กมากนะคะ จะเรียกว่าครัวดีไหมเนี่ยะ อิอิ
พวกเราดื่ม, กิน แล้วก็คุยกันกับพนักงานอย่างสนุกสนาน เลยค่ะ
จานสุดท้ายที่เราสั่งคือ ชีส 3 อย่าง ที่เสิร์ฟ พร้อมผักที่มาจากบ้านเกิดของมาสเตอร์ (เชฟ=เจ้าของร้าน) โดยเป็นชีสที่เจ้าของร้านเลือกมา ว่าอร่อย ^^ จานนี้ใช้เวลาทำนานมาก (นานที่สุดจนเราต้องถามว่า ทำให้เรายัง 555) เพราะมาสเตอร์หั่นชีสเป็นชิ้นเล็กๆ เท่าๆ กันหมดเลย
อาหารอร่อยที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เราเดินออกจากร้านอย่างมีความสุข คำคืนสุดท้ายของโอบิฮิโระ ช่างเต็มไปด้วยความสุขจริงๆค่ะ
พรุ่งนี้ จะเดินทางต่อแล้ว เราจะต้องขับรถ อย่างต่ำ 4 ชั่วโมง เพื่อข้ามเขาไป เมือง Asahikawa, พวกเราเดินกลับโรงแรม พร้อมกับความสุขที่ได้รับจากผู้คน มากมายที่เราเจอในวันนี้ค่ะ
No comments:
Post a Comment