Showing posts with label Olive Magazine. Show all posts
Showing posts with label Olive Magazine. Show all posts

Tuesday, August 9, 2011

Roast Tomato Thyme and Cheddar Tart: Thin Tart with full flavor!

เมื่อคืนนี้ ใช้เวลาส่วนใหญ่ หมดไปกับการอ่านหนังสือค่ะ ก็นะ คงไม่ต้องบอก ก็คงเดากันได้ว่า คงไม่พ้นตำราอาหารอะนะ 5555 แล้วก็ไปเจอสูตรนี้เข้าในนิตยสาร  Olive ฉบับเดือน August 2011ค่ะ แบบว่า มันดูน่าทานมากๆเลยค่ะ 

Tuesday, June 14, 2011

Brownie Pecan Tart: Feeds my mind with comforting aroma

ช่วงนี้ เป็นช่วงเวลาที่วิ่งวุ่นไปทุกที่เลยค่ะ แต่มีอยู่ทีเดียวที่ปุ๊กอยากอยู่มากๆ แต่ไม่มีโอกาสเลย ก็คือห้องครัว ^^", ก็พอจะรู้ตัวนะคะ ว่าบ่นเรื่องนี้บ่อยมากๆ แต่ก็ ยังคงบ่นต่อ 555 ก็นะ ปุ๊กอยากมีเวลาอยู่ในครัวเพื่อที่จะได้ทำขนมเยอะๆอยู่นี่หน่า  

Sunday, April 3, 2011

Jolly Jammers: Little treat from my delicious jam!

ว่าไปแล้ว การทำบล็อกก็ให้อะไรหลายอย่างมากกว่าที่คิดนะคะ อย่างแรกคือ มีอะไรทำในยามว่าง (ซึ่ง ปุ๊กว่างค่ะ ถ้าไม่ทำงาน อิอิ) แล้วก็ได้แบ่งปันสูตรดีๆ (ที่บางครั้งก็ดีมากๆๆ) กับ หลายๆคนที่ชอบทำขนมเหมือนกันะ และที่สำคัญที่สุด ปุ๊กมีเพื่อนเพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ 

Monday, May 31, 2010

Rose water and white chocolate gateau: For the white chocolate lover...

พี่สาวปุ๊กชอบทานไวท์ช็อกโกแลตมากเลยค่ะ ไม่ว่า จะมาแบบไหน เป็นเค้ก เป็นคุกกี้ หรืออะไรก็ตาม เรียกว่า ถ้ามีไวท์ช็อกโกแลตอยู่ด้วยเธอพร้อมที่จะลองค่ะ 555 ปุ๊กก็เลยถือว่า เป็นงานอย่างหนึ่งของปุ๊กที่จะต้องลองสูตร ที่มีไวท์ช็อกทุกครั้งที่ได้เจอค่ะ ^ ^ 
คราวนี้ปุ๊กเห็นสูตรนี้ จากโฆษณาของช็อกโกแลต  Divine ที่ลงในนิตยสาร Olive ฉบับ March 2010 ค่ะ พอเห็นก็อยากลองมากๆๆๆเลยค่ะ แต่ก็นะ นิสัยประจำตัวคือ อยากทำไปหมดทุกอย่างล่ะค่ะ แล้วก็มีลิสต์ของที่อยากจะทำ ยาวเป็นหางว่าวเลย ก็เลยเลื่อนๆๆ ไม่ได้ทำสักที จนกระทั่งวันหนึ่งก็คิดว่า ถ้าเลื่อนไปเรื่อยๆแบบนี้ คงไม่มีวันได้ทำแน่นอนเลยค่ะ -*-

ส่วนหนึ่งที่ทำให้เลื่อนไปเรื่อยๆ ก็เพราะว่า ในสูตรให้ใช้ crème fraîche ด้วยค่ะ ซึ่งไม่ใช่ส่วนผสมที่จะหาได้ง่ายๆ แต่สามารถทำเองที่บ้านได้ค่ะ โดยการผสมครีมกับโยเกิร์ต แล้วก็พักให้มัน เปรี้ยวแล้วก็ข้นค่ะ 
แต่โดยส่วนตัวแล้ว เมื่อปุ๊กลองทำ แล้วเอามาใช้กับเค้กแล้ว ก็ต้องบอกว่า ไม่จำเป็นเลยค่ะ เพราะว่าสิ่งที่ crème fraîche ให้กับเค้กก้อนนี้ คือ รสชาติที่ออกเปรี้ยวนิดๆค่ะ เพื่อที่จะไปตัดกับความหวานของไวท์ช็อกโกแลตไอซิ่งค่ะ ดังนั้น หากว่าจะไม่ใช้ crème fraîche ก็สามารถใช้วิปปิ้งครีม ตีพร้อมกับน้ำมะนาวเล็กน้อย หรือ อีกทางคือ การใช้แค่วิปปิ้งครีมไปเลยก็ได้ค่ะ ซึ่งถ้าใช้ครีมก็จะเพิ่มความมันอร่อยให้กับเค้กสูตรนี้แทนค่ะ โดยไม่ว่าจะเลือกทางไหน ก็อร่อยได้เช่นกันค่ะ 
เนื่องจากว่า เค้กสูตรนี้เป็น สปองค์ ก็เลยจะไม่เหมาะกับการเก็บเท่าไหร่นะคะ เพราะถ้าเก็บไว้นานเนื้อเค้กจะแห้งค่ะ (เพราะว่า ไขมันที่มีอยู่ในเนื้อเค้ก คือ ไวท์ช็อกโกแลตเท่านั้นค่ะ)
อีกส่วน คือ น้ำกุหลาบ ถ้าไม่มีหรือไม่ชอบก็ไม่ต้องใช้นะคะ ดดยสามารถใช้วานิลลาเอสเซนต์แทนได้ค่ะ เชื่อปุ๊กเถอะค่ะว่า ความอร่อยของเค้กที่ทำที่บ้าน จะอร่อย ก็อยู่ที่เราเลือกทำ แล้วก็เลือกใช้ ในสิ่งที่เราชอบนั่นล่ะค่ะ ^ ^


White chocolate gateau
 Serves 12 



CAKE
4 ....................................... ไข่ 
125g ................................. น้ำตาลทราย
125g ................................. แป้งอเนกประสงค์
50g ................................... White Chocolate, ขูดฝอย

ICING
3 tbsps/2-3 drops .......... น้ำกุหลาบ หรือ rose essence 
150ml ............................... crème fraîche
200g ................................. White Chocolate , สับเป็นชิ้นเล็ก
75g .................................... เนยจืด
3 tbsps ............................. whipping cream 
125g ................................. น้ำตาลไอซิ่ง

ไวท์ช็อกโกแลตขูด สำหรับตกแต่ง 

เตรียมทำ Crème Fraîche ก่อนค่ะ โดยการ ผสมโยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะ กับวิปปิ้งครีม 1 ถ้วย แล้วพักไว้ในอุณหภูมิห้อง (แนะนำว่า ถ้าอากาศร้อนมาก ก็เอาไว้ในห้องที่เปิดแอร์ หรืออุณหภูมิ ไม่เกิน 25 องศาซีค่ะ) 1 คืน แล้วนำเข้าแช่เย็น 1 วัน ก่อนนำมาใช้ค่ะ
เมื่อครบกำหนดแล้ว เราจะได้ ครีมข้น แล้วก็มีรสชาติเปรี้ยวค่ะ  

• เปิดเตาอบที่ 180C/fan 160C ทาเนยและวางกระดาษรองอบ ในพิมพ์ขนาด 20เซนติเมตร 2 ใบ 


ตีไข่กับน้ำตาล จนขาวฟู, ข้น และเมื่อยกหัวตีขึ้น จะเห็นเป็นทางชัด (หรือเรียกว่า ริบบ้อนสเตทค่ะ) ร่อนแป้งลงไป แล้วตามด้วย ไวท์ช็อกโกแลต แล้วตะล่อมจนเข้ากัน 
แบ่งส่วนผสมลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วนำเข้าอบ 20 นาที หรือจนเมื่อแตะแล้วเค้กไม่ยุบตัวลง 
นำออกมาพักบนตะแกรง พักขนม 

When you ready to assemble:


ผสมน้ำกุหลาบกับ crème fraiche.


•ใส่ไวท์ช็อกโกแลต ลงในชาม พร้อมกับเนย แล้วนำไปว่าบนหม้อที่มี น้ำเดือดเบาๆอยู่ โดยอย่าให้ก้นชามโดนน้ำนะคะ แล้วทิ้งไว้สักครู่จนละลาย แล้วคนให้เข้ากัน
นำลงจากหม้อ ใส่ครีมลงไป ตามด้วย น้ำตาลไอซิ่ง แล้วคนให้เข้ากัน 
พักสักครู่จนส่วนผสมข้นขึ้น 


ใช้ครีมที่ผสมน้ำกุหลาบ ทาเค้กก้อน 1 แล้ววางอีกก้อนทับลงไป 
แล้วทาให้ทั่วด้วย ไวท์ช็อกโกแลตไอซิ่ง 

ตกแต่งเค้กด้วย ช็อกโกแลตขูดให้ทั่วค่ะ 


Rose water and white chocolate gateau: For the white chocolate lover...

Thursday, March 18, 2010

Pork spare ribs braised in coconut (Suon ram man)



ว่าไป ปุ๊กไม่ได้โพสสูตรอาหารมานานแล้วนะคะเนี่ยะ แต่จริงๆปุ๊กก็ยังทำอาหารอยู่เรื่อยๆ แต่ช่วงที่ผ่านมา พี่สาวปุ๊กทำอาหารอร่อยขึ้นทุกวันค่ะ ปุ๊กก็เลยมีหน้าที่นั่งรอทานซะส่วนใหญ่ 555

แต่ว่า หลังจากที่ พี่สาวปุ๊กเขาคลอดหลานสาว เขาก็ไม่ค่อยมีเวลาทำอาหารเหมือนเดิมค่ะ ปุ๊กก็เลยต้องทำอาหารมากขึ้น แทนเขาค่ะ 

ปุ๊กเองชอบทำอาหารนะคะ แต่ก็คิดมาตลอดว่า ตัวเองทำอาหารไม่อร่อย (เรียกว่า ทำเสร็จจะรู้สึก ไม่มีความมั่นใจเลยค่ะ) แต่ว่า ช่วงหลังๆ ได้คุยกับเพื่อน (ซึ่งเขาเป็นเชฟ โดยอาชีพค่ะ) บอกว่า อย่ากลัวที่จะลองทำ แล้วก็การทำอาหาร ไม่ได้ยากเท่าที่คิดค่ะ สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมั่นใจก่อนค่ะ (อิอิ อันนี้ปุ๊กมีนะคะ เวลาทำขนม 555) แล้วเวลาทำอาหาร เริ่มแรกๆ เราอาจจะต้องชิมเรื่อยๆ แล้ว ปรุงจน รสชาติได้ที่ค่ะ ปุ๊กก็เลยลองกลับเข้าครัวอีกรอบ แล้วคราวนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ปุ๊กมีความสุขในการทำอาหาร มากขึ้นจริงๆค่ะ 

ปุ๊กว่า จริงๆแล้ว เมื่อเราต้องการทำอะไร ก็ต้องลงมือทำเลยค่ะ เพราะการทำ โดยไม่กลัว กลับได้ผลดี อย่างไม่น่าเชื่อค่ะ ปุ๊กเอง ถือเอาว่า การทำอาหาร สำหรับปุ๊ก ก็เหมือนกับการ ผจญภัย ภายในครัวของเราเองค่ะ 
คราวนี้ ปุ๊กเลือกสูตรง่ายๆมาลองทำค่ะ เป็น อาหารที่ เรียกได้ว่า อร่อยจากส่วนประกอบของเขาค่ะ คือ น้ำมะพร้าว และกระดูกหมู ซึ่งทั้งคู่ก็มีความหวาน ภายในตัวเอง ความหวานของน้ำมะพร้าว ทำให้ รสชาติของอาหารจานนี้ น่าสนใจมากเลยค่ะ ปุ๊กเองเมื่อเสิร์ฟจานนี้ ให้กับคนที่บ้าน ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีค่ะ อิ อิ ดีใจมากๆๆๆๆๆๆค่ะ เพราะเมื่อทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมากๆเลยค่ะ เพราะทั้งรสชาติ หวานเค็ม อร่อยลงตัวมากค่ะ ต้องเตือนเลยว่า อาจจะทานข้าวเพิ่มแบบไม่รู้ตัวค่ะ 

ปล. ถ้าเสิร์ฟจานนี้ ให้กับคนที่ชอบทานอาหาร น่าจะเสิร์ฟได้ 4 คนค่ะ อันนี้ต้องเตือนไว้เลย  ^ ^.

From: The Songs of Sapa by Luke Nguyen
As published in Olive magazine issue March 2010

Pork spare ribs braised in coconut 
Suon ram man
 Serves 4-6


2 tbsp ...................... กระเทียม, สับ  
1 red ........................ หอมแดง, สับ 
2 tbsp ...................... น้ำปลา
1 tsp ......................... ซ้อสหอยนางรม
2 tbsp ....................... น้ำตาล 
500g .......................... กระดูกหมู สับเป็นชิ้นประมาณ  2 x 3cm  
.................................... น้ำมันพืช สำหรับทอด  
300ml ....................... น้ำมะพร้าว 
................................... (ถ้าอยู่ต่างประเทศ ให้ลองหาที่เขาขายเป็นกล่องนะคะ)
1 ................................ หอมใหญ่ ซอย
2 tsp ......................... ซ้อสพริก 
2 ต้น........................... ผักชี
................................... ข้าวสวยร้อนๆ สำหรับเสิร์ฟ 


• ใส่กระเทียม1 ช้อนโต๊ะ ลงในชาม พร้อมกับ หอมแดง น้ำปลา ซ้อสหอยนางรม น้ำตาล เกลือครึ่งช้อนชา และพริกไทดำ หนึ่งช้อนชา ผสมให้เข้ากัน แล้วนำกระดูกหมูลงไปคลุก แล้วปิดด้วยพลาสติกแร็ป นำเข้าแช่เย็น 20 นาที  




• ใส่น้ำมันลงในกระทะ แล้วนำขึ้นตั้งไฟ ให้ร้อนถึง 180C, นำหมูลงไปทอด ประมาณ 3 นาที (หรือจนเหลืองสวย)  แล้วนำ ขึ้นพักไว้ซับด้วย กระดาษ paper towel 
• ใส่น้ำมะพร้าวลงในหม้อ แล้วนำขึ้นตั้งไฟ จนเดือดใส่กระดูกหมูลงไป แล้วลดไฟลงต้มไปอีกประมาณ 5 นาที แล้วเริ่งไฟ ต้มต่ออีก 3 นาที หรือจนน้ำเหือด เหลือประมาณ 1/4 ของปริมาณทั้งหมด 


ใส่กระเทียมที่เหลืออยู่ลงไป ใส่หอมใหญ่ซ้อสพริก และพริกไทดำป่น ต้มไปเรื่อยๆ โดยคนเรื่อยๆ ประมาณ 5 นาที จนหอมใหม่นิ่ม แล้วตักใส่จาน ตกแต่งด้วยผักชี เสิร์ฟพร้อมข้าว สวย อร่อยมากค่ะ 555 


Pork spare ribs braised in coconut (Suon ram man)

Friday, February 5, 2010

Lemon Biscuits: Easy and delicious cookies, that I want to share!

 

ปุ๊กมักจะมีเลมอนติดบ้านเสมอค่ะ เพราะว่า มันเป็นส่วนผสมที่เป็น พื้นฐาน ของการทำ ขนมอบทั่วๆไปนะคะ แต่บางครั้งก็มีเหมือนกันค่ะ ที่ซื้อมาแล้ว กลับยุ่งมากๆ จนไม่ได้ทำขนมเลย (อืม .... อย่างว่านะคะ ด้วยว่า ไม่ได้ทำขนมเป็นอาชีพค่ะ ยังต้องทำงานอย่างอื่นด้วยนะสิ) คราวนี้ ก็เลยต้องหาสูตร ที่จะมาใช้เลมอน ที่มี อยู่ในตู้เย็น ให้เป็น ประโยชน์ค่ะ เพราะว่างกค่ะ กลัวเสียของ 

คราวนี้ สูตรช่วยชีวิต ของปุ๊ก ก็มาจากนิตยสาร Olive magazine ฉบับ February 2010 ค่ะ เรียกว่า เป็น นิตยสารที่ปุ๊กชอบมากๆเลยนะคะ เชื่อไหมคะ ว่า เคยมีช่วงเวลา ที่ปุ๊กซื้อนิตยสารเยอะมากเลยค่ะ เรียกว่า เดือนล่ะ 4-5 ฉบับ โดยที่ ซื้อแบบไม่คิดด้วยนะ คือ เห็นปุ๊บ หยิบปั๊บ แล้วก็จ่ายเงินเลยค่ะ (เรียกว่า เป็นช่วงนิสัยเสียก็ได้นะ เพราะเล่นหยิบแบบไม่ดูเลยค่ะ) แต่ก็พยายามจะ ไม่ทำแบบนั้นอีกนะคะ เพราะว่า ต่อให้ ซื้อมาเยอะ ก็ไม่มีโอกาสได้ ลองสูตรเท่าที่ควรค่ะ หลังๆก็เลย พยายามจะจำกัดอยู่เฉพาะ ที่เปิดดูด้านในแล้วมีสูตรที่น่าสนใจค่ะ ส่วนเล่มที่ตัวเองชอบ (ที่จะซื้อโดยไม่ดู 555)ก็คือ นิตยสาร Olive นี่ล่ะค่ะ เห็นแล้ว อดใจไม่ได้สักที
ปุ๊กชอบทั้งการวางรูปเล่ม แล้วก็ภาพถ่ายค่ะ ดูเท่ แล้วก็ทันสมัยดีค่ะ แล้วเท่าที่ทำมา ก็ไม่ผิดหวังจากสูตร ที่ลองทำค่ะ จริงๆแล้ว นิตยสาร จาก เครือของ BBC ก็มีอีกเล่มนะคะ ที่เพื่อนปุ๊กชอบมากๆๆ ก็จะเป็น BBC Good Food, เล่มนั้นก็ดีค่ะ แต่ ถ้าจะเทียบกันยังไง ปุ๊กก็ยังชอบ Olive มากกว่าอยู่ดี

ปุ๊กว่า ถ้าใครชอบทำขนม หรือ ทำกับข้าว ก็คงจะรู้ว่า นิตยสารที่เกี่ยว กับอาหาร เป็นสิ่งที่ จะสร้างแรงบัลดาลใจ ได้มากเลยนะคะ ที่จะทำให้อยากลุกขึ้นมากทำขนม หรือ อาหาร ชนิดใหม่ๆ ปุ๊กเองชอบดู พวก เทรน ใหม่ๆค่ะ (อิ อิ ปุ๊กนะ คิดว่า ตัวเองอยู่ในงานด้านนี้เหมือนกันค่ะ แหม ก็ทำบล็อกเกี่ยวกับขนม กะอาหาร เราก็ต้องพยายาม หาอะไร ใหม่ๆมาแชร์กันเนาะ ถือว่าเป็นงานนะเนี่ยะ) แต่จะว่า ไปหลักๆ ที่ปุ๊ก ได้จากการอ่าน นิตยสารพวกนี้ ก็คือ สูตรดีๆ ที่เอามา แชร์กันนี่ล่ะค่ะ  

คราวนี้ ก็เช่นกันค่ะ สูตรที่เอามาแชร์กัน ก็คือ คุกกี้เลมอน (lemon biscuits) ที่เรียกได้ว่า ทำได้ง่ายมากๆเลยค่ะ คราวนี้ ใช้ food processorค่ะ
โดยการทำก็ง่ายๆ แค่ใส่ส่วนผสมลงไป ตามเสต็ป แล้วก็เอามารีด กับตัดเป็นชิ้น แล้วก็อบค่ะ เพียงไม่นาน ก็จะได้ คุกกี้หอมๆ ออกมาจากเตาแล้วค่ะ ส่วนไอซิ่งก็ไม่ได้ยากอะไรนะคะ แล้วยังทำให้คุกกี้ ทั้งน่ารัก แล้วก็อร่อยขึ้นด้วยค่ะ ^ ^

 ปัญหาคือ เมื่อเสร็จแล้วนี่ล่ะค่ะ จะตัดสินใจอย่างไงดี ข้อแรก เราจะเก็บไว้ทานเอง ดีไหมหนอ (อิอิ รู้นะ ว่าอยากจะเลือกข้อนี้ใช่ไหม)  คุกกี้เปรี้ยวๆหวาน กับน้ำชายามบ่าย ก็คงน่าสนใจไม่น้อยใช่ไหมคะ หรือ ข้อเสนอที่ 2 คือ นำเอาไปแจกเพื่อนๆที่เรารัก ค่ะ (คุกกี้ 60 ชิ้น ก็ไม่น้อยนะคะ) ปุ๊กว่า หลังจากแจกไป ผลตอบรับต้องดีแน่นอนค่ะ อย่างหนึ่งที่แน่ใจคือ เพื่อนๆ ที่ได้รับ คงรักเรามากขึ้นหลายเท่าแน่ๆเลยค่ะ





Lemon Biscuits
makes about 60

 

Lemon biscuits
325g ...................... แป้งอเนประสงต์
200g ...................... เนยเค็ม, เย็น สับเป็นชิ้น
125g ...................... น้ำตาลทรายสีรำ
.............................. ผิวเลมอน จากเลมอน 1 ลูก
.............................. น้ำเลมอน จากเลมอน 1 ลูก
2 ........................... ไข่แดง

Lemon Icing
100g ..................... น้ำตาลไอซิ่ง
............................. น้ำเลมอน



เปิดเตาอบที่ 180°C. วางกระดาษรองอบเตรียมไว้บนถาด (หรือใช้ silpat ก็ได้ค่ะ)

ใส่แป้ง และ เนย ลงในโถปั่นของเครื่อง  food processor,แล้วปั่นจน แป้งและเนยผสมกัน จนมีลักษณะ เหมือนเกล็ดขนมปัง
ใส่ผิวเลมอน  ไข่แดง น้ำตาล และน้ำเลมอนลงไป แล้วปั่นให้เข้ากัน


นำออกจากโถปั่น แล้ววางลงบนโต๊ะ (ปูด้วยกระดาษก่อน รีดก็ดีค่ะ) แล้วกดให้เข้ากัน 
รีดเป็นแผ่น หนาประมาณ  5 mm


ตัดด้วยที่ตัดคุกกี้ ขนาด 4.8 mm
วางลงบนถาดที่เตรียมไว้
นำเข้าอบ 15-20 นาที
นำออกมาพักจนเย็นสนิท

Make the Lemon icing:


ร่อนน้ำตาลไอซิ่งลงในชาม ใส่น้ำเลมอนลงไปให้พอผสมเป็นไอซิ่งได้
ราดลงบนคุกกี้


Lemon Biscuits: Easy and delicious cookies, that I want to share!

Monday, November 9, 2009

Turkish coffee creams: Little cup of my love

ปุ๊กได้กาแฟตรุกีนี้มานานแล้วค่ะ (พอดีพี่สาวเขาไปเที่ยวตุรกีค่ะ แล้วเขาก็ ซื้อมาให้เป็นของฝาก) แต่บอกตรงค่ะ ว่าคิดไม่ออก จริงๆว่า จะทำอะไรกับมันดี Turkish coffee นี้ จะต่างกับกาแฟแบบอื่น ตรงที่ ว่าตัวของเขาจะเป็น เมล็ดกาแฟ ที่บดละเอียดมากๆค่ะ โดยการชง จะใช้วิธีการ นำกาแฟ ไปต้มกับน้ำ ในหม้อ แล้ว เสิร์ฟ โดยไม่ต้องกรองกากกาแฟออกค่ะ และนั่น ก็เป็นจุดที่ทำให้ปุ๊กไม่ค่อยชอบค่ะ

ปุ๊กว่ามันทานยากอ๊ะค่ะ แต่ไม่รู้เป็น เพราะเราทำไม่เป็น หรือเปล่า (เพราะว่า ถ้าคนอื่นทานได้ เราก็น่าจะทานได้นะ 555) คือ กาแฟที่ปุ๊กลองทำ มันมี กลิ่นไหม้ด้วยอ๊ะ >*< ก็เลยต้องหาวิธีอื่น ในการทานมันค่ะ แล้วก็ ได้คำตอบจาก นิตยสาร Olive ของเดือนที่แล้วค่ะ จริงๆแล้วสูตร ในเล่มก็จะมาจาก หนังสือ: Turquoise: A chef's travels in Turkey ของ Greg and Lucy Malouf ว่าไปก็มีสูตรที่น่าสนใจหลายสูตรนะคะ (ปุ๊กชอบอาหารแบบนี้ค่ะ) แต่ที่ต้องลองจริงๆ ก็คงต้องเป็นสูตรนี้ล่ะค่ะ
Turkish Coffee Cream, แก้วเล็กๆแบบนี้ น่าทาน แล้วก็น่าสนใจด้วยค่ะ เป็น ส่วนผสมของ กาแฟ กับเม็ด cardamon (ว่าไป ในสูตร ให้ใส่ อบเชยด้วย อีกอย่างนะคะ แต่พอดี พี่สาวปุ๊ก เขาไม่ค่อยชอบทานค่ะ ก็เลยไม่ได้ใช้) แล้วก็ช็อกโกแลต เรียกว่า ทั้งกลิ่นหอม แล้วก็เนื้อสัมผัสดีค่ะ เป็น แบบช็อกโกแลตมูสข้นๆค่ะ

ปุ๊กว่า ของหวานแบบนี้ ถ้าเสิร์ฟ หลังทานอาหารมื้อพิเศษ (อิอิ... โดยเฉพาะ ถ้าทาน กับคนที่พิเศษด้วยนะ @^ ^@), ลองคิดดูสิคะ ถ้าได้ทานไป พร้อมกับนั่งคุย กับคนที่เรารัก โอ้ย มีความสุข มากมายค่ะ (แค่คิดเล่นๆ ก็รู้สึกกดีแล้วค่ะ 555)
ความจริงแล้ว ถ้าหากาแฟแบบตุรกีไม่ได้ ก็สามารถใช้กาแฟบดแบบอื่นได้นะคะ เพราะอย่างที่บอกค่ะ กาแฟตุรกี ไม่ได้อยู่ที่ตัวกาแฟค่ะ แต่อยู่ที่วิธีที่เราจะทานค่ะ
งั้นก็มาทานด้วยกันนะคะ ครีมกาแฟถ้วยเล็กๆ ที่เต็มเปี่ยมด้วยความรักค่ะ

Turkish Coffee and Cardamom

Adaptation from: Olive Magazine issue October 2009, Turquoise: A chef's travels in Turkey by Greg and Lucy Malouf


Turkish coffee creams

Makes 2 little glasses (shot-size)


24g

Turkish coffee (หรือกาแฟบดค่ะ)

1

เม็ด cardamom, ทุบ

100ml

Whipping cream

20g

dark chocolate, สับ

2

ไข่แดง

22g

น้ำตาลทราย

• พรมน้ำลงบนกาแฟ แล้วใส่ลงในถุงผ้า (ปุ๊กใช้ถุงใส่ใบชาค่ะ) พร้อมกับเม็ด cardamom ปิดถุงให้สนิท

ใส่ครีมลงไป แล้วนำไปตั้งไฟ ให้เดือด แล้วเบาไฟต้มต่ออีก 5 นาที ปิดไฟ แล้วพักไว้ให้ครีมมีกลิ่นหอม อีก 1 ชั่วโมง

• บีบน้ำออกจากถุงผ้า เพื่อจะให้ได้กลิ่นหอมมากที่สุด แล้วทิ้งไป นำครีมขึ้นตั้งไฟอีกรอบ ให้ร้อน ใส่ช็อกโกแลตลงไป แล้วคนให้ละลาย

• ตีไข่แดง กับน้ำตาล ในชาม แล้วเทส่วนผสมของครีมและช็อกโกแลตลงไป คนให้เข้ากัน

เทส่วนผสมที่ได้ กลับลงในหม้อ แล้วนำขึ้นตั้งไฟ จนข้น (ลองได้จากการที่ส่วนผสมจะคลุมหลังช้อนได้ค่ะ) นำลงจากเตา พักไว้จนเย็นสนิท Pour the mixture back into the rinsed-out pan and cook gently until it thickens to a custard consistency. You should be able to draw a distinct line through the custard on the back of a spoon. Remove from the heat and cool in a sink of iced water. Stir from time to time as the mixture cools down.

• เทลงในถ้วยใบเล็ก (2 petite pots หรือแก้วขนาด shot-size) แล้ว นำเข้าแช่เย็นก่อนเสิร์ฟ

Turkish coffee creams: Little cup of my love

Friday, September 25, 2009

Mini Chocolate Cake with Ice cream: super easy dessert for any busy day!

เป็นอย่างไงคะ คิดถึงกันบ้างไหมเอ่ย?
ต้องบอกก่อนเลยค่ะ ว่าปุ๊กเอง คิดถึงเพื่อนๆ, คิถึงขนม แล้วก็บล็อกมากๆเลยล่ะค่ะ แต่ว่า ช่วงที่ผ่านมา ไม่มีเวลาจริงๆเลยค่ะ ไม่ว่าจะงาน หรือเรื่องอื่นๆ เล่นเอา แทบน็อก T T แต่ก็เริ่มเข้าที่บ้างค่ะ ดังนั้นอย่างแรกที่คิดออก ก็คือการ มาอัพบล็อกนี่ล่ะค่ะ (ต้องขอโทษ เพื่อนๆบ้างคนด้วยนะคะ ที่ฝากคำถามไว้ใน คอมเม้นท์ แล้วปุ๊กไม่ได้ตอบ ปุ๊กเองแทบจะไม่ได้แตะคอมม์เลยค่ะ)

ดังนั้น วันนี้ เรามาดูขนมง่ายๆ เร็วกันดีกว่านะคะ (อย่างว่าค่ะ ไม่ว่า เราจะยุ่งแค่ไหน สิ่งที่ พวกเราต้องการ ก็คงเป็น ขนมทำเอง อร่อยๆ ใช่ไหมคะ^ ^) สูตรเอามาจาก นิตยสาร Olive magazine ฉบับ August 2009 (เดือนที่แล้วซื้อนิตยสารมาเป็น ตั้งเลยค่ะ แต่บอกตรงๆว่า ยุ่งจนไม่มีเวลา อ่านด้วยซ้ำ T T, บอกแล้วค่ะ ว่ายุ่งจริงๆเลย).

ขนมเค้กสูตรนี้ ง่ายอย่างแรงค่ะ ซ้ำส่วนผสม ก็ไม่มี อะไรมากด้วยค่ะ ^ ^ แต่รสชาติ ไม่เลวเลยค่ะ !

ดังนั้น ถึงแม้ชีวิตจะวุ่นวายแค่ไหน ถ้าได้ทาน ขนมเค้กอุ่นๆ อร่อยๆ ที่มาพร้อมไอศครีม (ที่พร้อมจะละลายเป็น ซ้อสทันทีที่เจอ เค้กอุ่นๆ ^ ^) ก็คงจะทำให้ความรู้สึกดีๆ เกิดขึ้นได้ใช่ไหมคะ

ปุ๊กทำเค้กสูตรนี้ แล้ว เสิร์ฟพร้อมกับ Double honey ice cream, แต่ใครจะใช้ไอศครีม รสไหน ก็ได้นะคะ ตามใจค่ะ

From: Olive magazine issue August 2009


Mini Chocolate Cake with Ice cream
Make 4


50g

แป้งเค้ก

¼ tsp

ผงฟู

50g

เนยจืด

2 tbsp
ผงโกโก้


เกลือนิดหน่อย

50g

น้ำตาลทราย

1

ไข่

½ tspVanilla extract



ไอศครีม สำหรับเสิร์ฟ

เปิดเตาอบที่ 350°F or 180°C.

ร่อนแป้ง ผงโกโก้ และ ผงฟูเข้าด้วยกัน

เตรียมพิมพ์ ขนาด200ml 4 อัน

ตีเนยกับน้ำตาลเข้าด้วยกัน ใส่วานิลลา และไข่ ตีจนเข้ากันดี
ใส่ส่วนของแป้งลงไป ตีให้เข้ากัน
เทลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วนำเข้าอบ ประมาณ 15-20 นาที

นำออกจากพิมพ์ วางไอศครีมทับด้านบน แล้ว โรยด้วย ผงโกโก้
เสิร์ฟทันที

Mini Chocolate Cake with Ice cream: super easy dessert for any busy day!

Thursday, July 23, 2009

Double honey ice cream: Honey flavor ice cream with home made honey comb

อากาศบ้านเรานี่ ร้อนไม่เลิกราจริงๆเลยนะคะ >*< ว่าแล้ว ถ้าอากาศร้อนๆนี่ ได้ทานไอศครีมเย็นๆ น่าจะช่วยให้ สดชื่นขึ้นได้นะคะ คราวนี้ ขอนำเสนอเป็น ไอศครีมน้ำผึ้งค่ะ 1 ใน ส่วนผสม ที่ปุ๊ก ชอบมากๆเลยค่ะ
ปุ๊กชอบ น้ำผึ้งที่มี กลิ่นหอมๆค่ะ แต่ว่า ในสูตรนี้ จะใช้ แบบไหน ก็ได้ค่ะ น้ำผึ้ง ช่วยให้ เนื้อของ ไอศครีม ดีขึ้นมากเลยค่ะ แล้วยังทำให้ ตักง่ายด้วยค่ะ

ปุ๊กลดส่วนของ น้ำผึ้งในสูตร ลงไป เล็กน้อยนะคะ คือปุ๊กใช้แค่ 80 กรัมค่ะ แต่ว่า ถ้าใครชอบ ทานหวานมากก็ สามารถจะ เพิ่มน้ำผึ้ง ได้ถึง 100 กรัมนะคะ

ส่วนตัว honey comb ก็ทำไม่ยากค่ะ เพียงแค่ว่า ต้องให้ น้ำตาลมีสีเข้ม ขึ้นมาค่ะ (จะได้มีกลิ่นหอม - แต่ก็ระวังนิดนะคะ ถ้าเข้มเกิน ก็จะขมได้ค่ะ) แล้วก็เมื่อใส่ เบิกกิ้งโซดา ก็ต้อง ปล่อยให้เดือดทั่วนะคะ เพื่อว่า ตัวรังผึ้งที่ออกมาจะกรอบค่ะ

ว่าไป ไม่ว่า อุณหภูมิจะเป็นยังไง แค่ได้ทานไอศครีมอร่อยๆ ก็คงจะ ทำให้มีความสุข ได้ทั้งนั้นล่ะคะ่ จริงไหมเอ่ย ^ ^

Adaptation from: Olive magazine issue June 2009

Ice cream


80g

น้ำผึ้ง

1tsp

Vanilla extract

300ml

Whipping cream

125ml

นม

3

ไข่แดง



Honey comb


60g

น้ำตาลทรายสีรำ

½ tbsp

Runny honey

⅛tsp

Bicarbonate of soda




Start by making the ice cream

อุ่น น้ำผึ้งในหม้อใบเล็ก โดยใช้ไฟอ่อน

ใส่นม และครีมลงในหม้ออีกใบ แล้วต้มจนเกือบเดือด แล้วเทลงในในขามที่ใส่แดงไว้ โดยค่อยๆใส่ และคนตลอดเวลา แล้วจึงนำส่วนผสมทั้งหมด เทใส่หม้อแล้วนำขึ้นตั้งไฟอ่อน คนเรื่อยๆ ต้มจนกระทั่งข้นขึ้น จนสามารถคลุมช้อนได้ กรองผ่านกระชอนลงในชามสะอาด


ใส่ น้ำผึ้งลงไป แล้วใส่วานิลลา คนให้เข้ากัน
ปิดฝา แล้ว นำเข้าแช่ในตู้เย็น อย่างต่ำ 2 ชั่วโมง ก่อนนำเข้าเครื่งทำไอศครีม

ทำ honeycomb โดย ใส่น้ำตาล น้ำผึ้ง และน้ำ 2-3 ช้อนโต๊ะ
นำขึ้นตั้งไฟ กลางจนน้ำตาลละลาย และสีเข้มขึ้น ใส่ bicarbonate of soda แล้วเอียงหม้อไปมา เพื่อให้ กระจายทั่ว (และเป็นฟองฟู่)

เทลงในถาด ที่ทาเนยไว้อย่างดี (หรืออย่างปุ๊กเทลงบนกระดาษเคลือบซิลิโคนค่ะ) แล้วพักจนเย็น และ แห้ง

หัก หรือทุบ honeycombให้เป็นชิ้นเล็ก แล้ว คนลงในไอศครีม แล้วใส่ลงในกล่อง ปิดด้านบนด้วยกระดาษไข หรือ พลาสติก (เพื่อกันไม่ให้ไอน้ำหยดลงในไอศครีมค่ะ ) แล้วนำเข้าแช่ในช่องแข็ง

Double honey ice cream:
Honey flavor ice cream with home made honey comb

Printfriendly