Saturday, October 30, 2010

Matcha Rare Cheesecake: A slice of Japanese taste from your kitchen!

สำหรับปุ๊กแล้ว ชาเขียวผง (หรือ Matcha 抹茶 ) เป็น อะไรที่ชอบมากๆค่ะ ^^ ว่าไปก็ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ที่อ่านหนังสือการ์ตูน แล้ว เจอเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็จะอยากรู้ว่า รสชาติมันเป็น อย่างไรหนอ พอโตขึ้นหน่อย ก็พยายามหาซื้อ แต่ก็นะคะ สมัยก่อน มันไม่ใช่ของหาง่ายเลยล่ะค่ะ
แต่ตอนนี้ ก็ดีขึ้นค่ะ สามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้น ทั้งแบบธรรมดา แล้วก็แบบดี (ซึ่งก็แพงตามไปด้วย 555 ) ความชอบชาเขียวของปุ๊กก็ยังคงอยู่ค่ะ 
ตอนนี้ก็จะเห็นขนมที่ทำจาก ชาเขียวมากมายนะคะ แต่สำหรับคนที่ต้องการทำทานเองที่บ้าน ก็แนะนำว่า ให้เลือกแบบที่ตัวเองชอบค่ะ ซึ่งปุ๊กไม่ได้พูดว่า ให้เลือกของที่แพงที่สุดนะคะ เอาเป็น ว่า ซื้อแบบที่ว่า เมื่อเอานิ้วแตะแล้ว มาแตะที่ลิ้น เรายังรู้สึกว่า รสชาติดีอะค่ะ เพราะหากว่า เราชอบตั้งแต่ตอนที่มันเป็น ผงอยู่ล่ะก๋ เมื่อนำมาทำเป็น ขนมแล้ว ก็ต้องอร่อยแน่นอนค่ะ  
อย่างปุ๊กเอง พอได้ชาเขียวผงมาจากเพื่อน ซึ่งถูกใจมากๆเลย ก็เกิดอาการอยากทำขนมจาก ชาเขียวมาตลอดเลยค่ะ  (อย่างว่าค่ะ ถ้า ได้เจออันที่รสชาติถูกใจ ก็ต้องเป็น เหมือนกันล่ะนะ  ก็มันหอม แล้วยังรสชาติที่ออกขมแบบกำลังดี สรุปว่า อร่อยๆๆค่ะ  ^^) คราวนี้ พอเห็น หนังสือเล่มนี้  抹茶のお菓子 (Green tea sweet) ของคุณ 坂田 阿希子 (Akiko Sakata) ก็เลยต้องซื้อเท่านั้นค่ะ อิอิ
ในหนังสือมีสูตรหลายอย่างให้ลองทำค่ะ ทั้งเค้กไอศครีม มาคารอง และ อีกมากมาย แต่ก็นะ ปุ๊กก็เลือกได้แค่อย่างเดียวใช่ไหมล่ะ (จริงๆคืออยากทำไปซะทุกอย่างล่ะค่ะ แต่ เนื่องจากว่า ไม่สามารถทานได้หมดในครั้งเดียว ก็เลยต้องตัดใจเลือกทำแค่อย่างใดอย่างหนึ่งก่อนนะ) 
ปุ๊กเลือกสูตรนี้ ด้วยเหตุผล 2 ข้อค่ะ 1.คือปุ๊กชอบทานชีสเค้ก 2. คือ ปุ๊กคิดว่า การนำเอาชาเขียวมาใส่ลงในชีสเค้ก น่าจะทำให้มัน ริซน้อยลงค่ะ  เพื่อว่า เราจะได้ทานได้มากขึ้นไง 555 สำหรับสูตรนี้ สามารถทำโดยใช้พิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด  15cm หรือว่า จะใช้ พิมพ์ mini cheesecake ก็ได้นะคะ  
สำหรับถั่วต้มหวาน ถ้าหาซื้อได้ก็ง่ายดีค่ะ แต่ถ้าจะทำเองก็ใช้สูตรนี้ได้ค่ะ  แต่ก็นะ ถึงไม่ใส่ก็ยังอร่อยอยู่ดีค่ะ รับรอง อิอิ ดังนั้น ใครมีชาเขียวผงอยู่ที่บ้าน (หรือ ใครจะรีบออกไปซื้อ เพื่อมาทำขนมชิ้นนี้) ก็ตามเข้ามาในครัวด้วยกันดีกว่าค่ะ เราจะได้มาทานชีสเค้กอร่อยๆด้วยกันนะคะ

Adaptation from: 抹茶のお菓子 by 坂田 阿希子 (Akiko Sakata),


Matcha Rare Cheesecake
(Japanese Green tea powder cheesecake)
Makes 15x15cm cake or 9 mini cheesecake 


50g .................................. เนย (นิ่ม)
80g .................................. แครกเกอร์ แบบโฮลวีล
70g .................................. น้ำตาลทราย
5g .................................... เจลาติน
2tsp ................................ ผงชาเขียว 
150ml ............................ Whipping cream
200g .............................. ครีมชีส
100g ............................... ซาวครีม
20-27 ............................. ถั่วแดงต้มหวาน (หากต้องการใช้ตกแต่งด้วย ต้องใช้มากกว่านี้นะคะ)
......................................... ดาร์กช็อกโกแลต สำหรับตกแต่ง 



ทุบแครกเกอร์ให้แตกด้วยไม้รีดแป้ง 
ผสมแครกเกอร์ที่ได้ กับเนยให้เข้ากัน แล้ว แบ่งลงในพิมพ์ที่ใช้ ถ้าใช้พิมพ์สี่เหลี่ยม ขนาด 15เซนติเมตร (ใช้แบบที่ถอดก้นได้นะคะ) ก็เททั้งหมดลงในพิมพ์ค่ะ
นำเข้าแช่ในตู้เย็นจนอยู่ตัว ประมาณ 30 นาที


แช่เจลาตินลงในน้ำเย็น ประมาณ 3-5 นาที 
นำเจลาตินขึ้นจากน้ำเย็น ใส่ลงในชามใบเล็กที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้ ใส่น้ำเปล่าลงไป 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนำเข้าไมโครเวฟ ให้ความร้อน ประมาณ 20 วินาที นำออกมาคนจนเจลาตินละลาย พักไว้


ตีครีมชีสกับน้ำตาลจนเนียน (อุ่นครีมชีสโดยการใส่ชาม แล้ววางบนชามน้ำอุ่น ก่อน จะช่วยให้เนียนมากขึ้นค่ะ) ใส่ซาวครีม และวิปปิ้งครีมลงไป คนให้เข้ากัน 


ตักส่วนผสมประมาณ  ½ ถ้วยออกมา แล้วร่อนชาเขียวผงลงไป คนให้เข้ากันดี


เทส่วนผสมที่ได้ กลับลงไปในชามแล้วคนให้เข้ากัน แล้วตามด้วย เจลาติน แล้วคนให้เข้ากันอีกรอบ หากใช้พิมพ์ มินิชีสเค้ก เทส่วนผสมลงในเหยือก จะได้เทสะดวกค่ะ 


เทส่วนผสมลงไป ประมาณ 1/2 ส่วน ของพิมพ์ แล้ววาง ถั่วต้มลงไป แล้วเทแบทเทอร์ที่เหลือลงไป เกลี่ยให้เรียบ แล้วนำเข้าแช่ตู้เย็น ประมาณ 2 ชั่วโมง จนอยู่ตัว 


Matcha Rare Cheesecake: 
A slice of Japanese taste from your kitchen! 

Wednesday, October 27, 2010

October 2010 Daring Bakers Challenge #45: Let's Go Nuts for Doughnuts! Old-Fashioned Buttermilk Cake Doughnuts with Strawberry milk glaze

โดนัทเหรอ ? อืม อย่างแรกที่คิดขึ้นมาก็คงเป็น น้ำมันร้อนๆค่ะ 555 อย่างว่านะคะ ปุ๊กกลัวค่ะก็เลยเป็น อีกเหตุผลที่ทำให้ไม่ค่อยได้ทำโดนัทนี่ล่ะค่ะ แต่ว่าคราวนี้ คุณ Lori จากบล็อก Butter Me Up (ซึ่งเป็น โฮสของเดือนนี้),ให้โจทย์มาว่า เราต้องมาเล่นสนุกกับเจ้าขนมเรียบง่ายแต่อร่อยชนิดนี้กันค่ะ 

โดนัทมีหลากหลายประเภทมากเลยนะคะ ทั้งจากรูปร่างแล้วก็ ส่วนผสมด้วย แล้วคุณLori ยังปล่อยให้เลือกได้ตามสบายจากสูตรที่ให้มาทั้ง yeast doughnut, cake doughnut, pumpkin doughnuts, และ raspberry jam bomboloni. แล้วยัง เลือทำ toppings หรือ fillings ได้ตามใจ อ้อ ยังไม่หมดค่ะ เลือกทำรูปร่างได้ตามใจอีกต่างหาก เรียกว่า เจ้าขนมชนิดนี้ มีอะไรให้เราเล่นได้ไม่รู้จบเลยนะคะ

แต่สำหรับปุ๊ก ปุ๊กไม่ได้เลือกที่จะทำอะไรที่วุ่นวายค่ะ เพราะปุ๊กเลือกทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งก็คือ  cake doughnut ค่ะ ว่าไปถึงแม้ว่าจะทำโดนัททานที่บ้าน แต่ก็ทำเป็น ยีสต์โดนัทอะค่ะ ทำไมไม่เคยลองทำเค้กโดนัทสักทีก็ไม่รู้ 555 แต่พอทำโดนัทแบบนี้ก็โอเคนะคะ ที่บ้านชอบกันทุกคนค่ะ 
ปุ๊กใช้สูตร Old-Fashioned Buttermilk Cake Doughnuts recipe (จาก Nancy Silverton recipe). 
แต่ปุ๊กเจอปัญหาเล็กน้อยค่ะ ไม่แน่ใจว่า เป็นเพราะแป้งของเราต่างกับของอเมริกาหรือเปล่า เพราะโดที่ได้ เละมากจนไม่สามารถจะตัดได้ค่ะ ปุ๊กต้องเพิ่มแป้งเข้าไปในโดประมาณ 50 กรัมค่ะ ถึงจะสามารถตัดเป็นวงได้  ดังนั้น ข้อแนะนำคือ ให้ใช้แป้งตามสูตรไปก่อนนะคะ แล้ว ถ้า ยังเละมาก จึงค่อย เพิ่มแป้งไปค่ะ 

สำหรับเรื่องรสชาติ ปุ๊กเลือกที่จะไม่ใส่อะไรเพิ่มลงไปในโดนะคะ (เพราะอยากลองชิมแบบเพลนๆด้วยค่ะ) แต่ปุ๊กทำเป็น strawberry milk glaze มาชุบด้านบนแทนค่ะ เรียกว่า หอม หวาน (หวานจริงๆนะ 555) แต่ก้เหมือนทุกทีค่ะ อยากให้เลือกตามชิม ตามชอบค่ะ จะทานแบบเพลนๆ โรยน้ำตาล หรือ จะมี กลาซปุ๊กว่า อร่อยได้ทุกแบบค่ะ 

The October 2010 Daring Bakers challenge was hosted by Lori of Butter Me Up. Lori chose to challenge DBers to make doughnuts. She used several sources for her recipes including Alton Brown, Nancy Silverton, Kate Neumann and Epicurious.



Old-Fashioned Buttermilk Cake Doughnuts 
with Strawberry milk glaze
Yield: About 15 doughnuts & 15 doughnut holes, depending on size


Preparation time: Hands on prep time - 25 minutes
Cooking time - 12 minutes 

Ingredients
Sour Cream ¼ cup / 60 ml / 60 gm / 2 oz
แป้งอเนกประสงค์  3 ¼ cup / 780 ml / 455 gm / 16 oz + extra for dusting surface
(*ถ้ามันนิ่มหรือ sticky, มากไปให้ใส้แป้งเพิ่มอีกประมาณ 50 กรัมค่ะ)
น้ำตาลทราย  ¾ cup / 180 ml / 170 gm / 6 oz
เบกกิ้งโซดา ½ teaspoon / 2.5 ml / 3 gm / .1 oz
ผงฟู 1 teaspoon / 5 ml / 6 gm / .2 oz
เกลือ  ½ teaspoon
ลูกจันทร์ป่น 1.5 teaspoon / 7.5 ml / 9 gm / .3 oz
Active Dry Yeast 1 1/8 teaspoon / 5.6 ml / 3.5 gm / .125 oz
(*ปุ๊กใช้  3/4tsp instant dry yeastค่ะ)
บัตเตอร์มิลล์ ¾ cup + 2 Tablespoon / 210 ml / 225 gm / 7 ¾ oz
ไข่ฟองใหญ่  1
ไข่แดง  2
Pure Vanilla Extract 1 Tablespoon / 15 ml

Strawberry milk glaze:
น้ำตาลไอซิ่ง 200g
สตรอเบอรี่แช่แข็ง 36 g
Whipping cream  24g 

Directions:
1. อุ่นซาวครีม โดยเทใส่ถ้วยแล้ววางลงบนหม้อที่มีน้ำอุ่นอยู่ พักไว้จนอุ่น
2.เตรียมน้ำมันให้ร้อนประมาณ 375°F/190°C.




3. ใส่แป้ง น้ำตาล เบกกิ้งโซดา ผงฟู เกลือ และลูกจันทร์ป่นลงในชาม ทำร่องตรงกลางแล้วเทยีสต์ลงไป เทซาวครีมลงไป


4. เทบัตเตอร์มิลล์ ไข่ ไข่แดง และวานิลลาลงไป แล้วผสมให้เข้ากัน ส่วนผสมจะเหนียวมากค่ะ 


5. ร่อนแป้งลงบนพิ้นที่ที่จะตัดโดนัท (จะต้องใช้แป้งเยอะมากค่ะ) ร่อนแป้งอีกส่วนลงบนโด แล้วตบๆ ให้หนาประมาณ ครึ่งนิ้ว แล้วตัดด้วยที่ตัดโดนัท


6. นำโดนัทลงทอด ประมาณ 3-4 ชิ้น ต่อรอบ (จะใช้เวลาประมาณ ด้านล่ะ 20-30 วินาทีค่ะ)
7. เมื่อทอดแล้ว นำขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน



ตีส่วนผสมสำหรับทำ กลาซ 
ตีสตรอเบอรี่ และวิปปิ้งครีมเข้าด้วยกัน แล้วใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไป ตีจนเข้ากันดี
นำโดนัทจุ่มลงในกลาซ พักให้เซ็ทตัวสักครู่ แล้ว เสิร์ฟ 

October 2010 Daring Bakers Challenge #45:
 Let's Go Nuts for Doughnuts! 
Old-Fashioned Buttermilk Cake Doughnuts  with Strawberry milk glaze

Monday, October 25, 2010

Coffee Meringue Cupcake: All I want to say is "Thank you"


คราวนี้ เป็นการบอกขอบคุณผ่านบล็อกนะคะ ^^ คิดว่า การทำเค้กนี้ออกมาน่าจะเป็น วิธีการขอบคุณในแบบของปุ๊กล่ะค่ะ 555 พอดีว่า เมื่อเดือนที่แล้ว ปุ๊กมีโอกาสได้คุยกับคุณกาปุกผ่านทาง อีเมลล์ ซึ่งคุณกาปุกเองได้บอกว่า เธอมีโอกาสจะกลับมาเมืองไทย แล้วอยากเจอปุ๊กค่ะ เพราะมีของอยากจะให้ปุ๊ก ซึ่งก็คือ หนังสือ เพราะคุรกาปุกบอกว่า อยากช่วยปุ๊กให้ทำยอดหนังสือที่สะสมให้ครบ 500 เล่มไวๆ อิอิ 

ว่าไปแล้ว ปุ๊กกับคุณกาปุก ไม่เคยเจอกันค่ะ ได้แค่คุยกันผ่านทางอีเมลล์เท่านั้น แต่ก็เสียดายมากเลยค่ะ เพราะว่า เวลาที่ไม่ตรงกัน (พอดี ปุ๊กไม่สามารถจัดเวลาไปเจอเธอได้เลยค่ะ ช่วงนั้นยุ่งๆอยู่หลายๆอย่าง) ก็เลยกลายเป็น ว่า คุณกาปุกต้องส่งหนังสือมาให้ปุ๊กทางไปรษณีย์แทน  

แล้วก็คือหนังสือเล่มนี้ล่ะค่ะ  "Gorgeous Cakes: for the ultimate sweet sensation" (หนังสือน่ารักมากเลยค่ะ ^^ ปุ๊กชอบที่ส่วนปกของหนังสือเขาบุด้วยอะค่ะ เวลาจับหนังสือ มันจะนิ่มๆ ทำให้รู้สึกดีมากเลย). พอได้หนังสือมากก็อยากลองทำมากๆค่ะ แต่ใครๆก็รู้นะคะ ปุ๊กอยากทำไปหมดล่ะค่ะ เลยต้องใช้เวลาสักหน่อย 555
แต่ในที่สุด กลับกลายเป็นว่า ปุ๊กก็ยังไม่ได้ใช้สูตรจากหนังสืออยู่ดีค่ะ แต่สิ่งที่ได้ใช้ คือไอเดียค่ะ  (แต่ก็นะ ยังมีสูตรอีกหลายสูตรให้ลองค่ะ หนังสือเล่มนี้ มีสูตรน่ารักๆอีกหลายสูตรเลยล่ะค่ะ).
เพราะว่า สูตรตามเล่มเลยจะเป็น เนื้อแบบเค้กปอนน์ค่ะ ซึ่งเป็น เนื้อที่หนักไปสำหรับความชอบของมาม้าปุ๊ก (ลูกค้าคนสำคัญ เมื่อทำเค้กกาแฟ อิอิ) ก็เลยเปลี่ยนจากเค้กปอนน์มาเป็น บัตเตอรืเค้กค่ะ และในส่วนของเมอแรงค์ ถึงแม้ว่า เมอแรงค์แบบฝรั่งเศสตามสูตร จะทำง่ายก็ตาม แต่มันก็มีปัญหา เรื่องความไม่อยู่ตัว และยังเป็นไข่ดิบด้วยนะสิคะ ปุ๊กเลยเลือกเอา Italian meringue มาใช้แทนค่ะ เพราะว่า วิธีการทำของ อิตาเลี่ยนเมอแรงค์นั้น ทำให้ไข่ขาวสุกในระดับที่ปลอดภัย (พอดีงานนี้ มีหลานทานด้วยค่ะ) แล้วยังไม่ต้องห่วงเรื่องว่า ตั้งไว้แล้วมันจะยุบตัวด้วยค่ะ เห็นไหมล่ะว่า ดีหลายอย่างเชียวล่ะ 

จากหนังสือน่ารักๆเล่มนี้ ก็เลยได้ออกมาเป็น คัพเค้กสวยๆก้อนนี้ล่ะค่ะ ^^ และถึงแม้จะไม่ได้ใช้ สูตรจากหนังสือโดยตรง เพียงแค่การได้ไอเดียดีๆในการทำขนมเพิ่มขึ้น ก็มีค่ามากมายแล้วค่ะ ดังนั้น ก็ขอพูดอีกทีนะคะ ว่า "ขอบคุณมากนะคะคุณกาปุก สำหรับหนังสือน่ารักๆ ที่อุตสาห์หอบมาให้เล่มนี้ค่ะ"

Coffee Meringue Cupcake
Makes 6 standard size cupcakes


Cupcake
50g .................................. เนย
80g .................................. น้ำตาล
1 ....................................... ไข่
.......................................... เกลือเล็กน้อย
60ml ................................ Half and half
100g ................................ แป้งเค้ก
1tsp .................................. ผงฟู
1tsp .................................. Coffee extract 
* ถ้าไม่มีให้ใช้ กาแฟสำเร็จรูปแบบ instant กับน้ำร้อน 1 ช้อนชาแทนค่ะ 
30ml ................................ เหล้ากาแฟ


Meringue
2 ........................................ ไข่ขาว
100g ................................. น้ำตาล
40g ................................... น้ำ

Coffee extract
เปิดเตาอบที่ 170 °C
วางถ้วยกระดาษลงในพิมพ์ คัพเค้ก 
ร่อนแป้งและผงฟูเข้าด้วยกัน 



ตีเนยกับน้ำตาลให้เข้ากัน ใส่ coffee extract แล้วตีให้เข้ากัน 
ใส่ไข่ลงไป แล้วตีให้เข้ากัน  




แบ่่งแป้งเป็น 3 ส่วน ใส่1/3 ของแป้งลงไป ตะล่อมให้เข้ากัน ตามด้วย ครึ่งส่วนของ half and half, ตะล่อมให้เข้ากัน ใส่แป้งอีก 1/3 ส่วน ตะล่อมให้เข้ากัน แล้วตามด้วย half and half ที่เหลืออยู่ ตะล่อมให้เข้ากัน แล้วตามด้วยแป้งที่เหลือ



ตักแบทเทอร์ลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ 
นำเข้าอบประมาณ 20 นาที หรือจน เค้กไม่ยุบตัวลง เมื่อแตะเบาๆ 
ใช้ไม้แทงให้ทั่วหน้าเค้ก แล้วราดเหล้าลงไป (ประมาณ 1 ช้อนชา ต่อ 1 ถ้วยค่ะ)
ลดความร้อนของเตาลงเหลือ 150 °C


Make the Italian meringue:

ใส่น้ำตาลและน้ำลงในหม้อ น้ำขึ้นตั้งไฟปานกลาง
เมื่อน้ำเชื่อมอุณหภูมิประมาณ 100°C, ให้เริ่มตีไข่ขาว
เมื่อน้ำเชื่อมร้อนถึง  117°C เทลงใส่ไข่ขาว เป็นสายและตีไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเมอแรงค์อยู่ตัวตั้งยอดแข็ง (ไม่ต้องตีจนเย็นสนิทค่ะ)



ตักเมอเแรงค์ลงบนเค้ก เกลี่ยให้คลุมหน้าเค้กทั้งหมด (เพื่อไม่ให้เนื้อเค้กแห้งเมื่อนำไปอบอีกค่ะ) แล้ว ใช้ที่บาดเค้กแตะและดึง ให้ออกมามีลักษณะแหลมๆทั่วๆ 
นำเข้าอบอีก 10-15 นาที หรือจนเมอแรงค์สีน้ำตาลสวย  
Coffee Meringue Cupcake:
 All I want to say is "Thank you"

Friday, October 22, 2010

Cherry Trifle: Cherry Cherry, you're my sweet cherry!




หลังจากได้หนังสือใหม่มา (United Cakes of America: Recipes Celebrating Every State by Warren Brown), ปุ๊กก็คิดในใจว่า อยากลองสูตรจังเลยค่ะ เพราะว่า เป็น หนังสือของคนเขียนที่ปุ๊กชอบมากๆคนหนึ่ง เรียกว่า ค่อนข้างมั่นใจว่าสูตรของเขาน่าจะออกมาดีค่ะ 
แล้วก็โชคดีมากเลยที่ในขณะที่ปุ๊กกำลังนั่งดูอยู่ พี่ส่วปุ๊กก็กลับบ้านมาพร้อมกับ เชอรี่กล่องใหญ่เชียวล่ะค่ะ แล้วยังมีการสั่งด้วยว่า เอาไปทำขนมมาให้กินด้วยนะ 555 แหม แบบนี้ก็เขาทางเราสิใช่ไหมเอ่ย เพราะว่า มีสูตรในหนังสือที่ปุ๊กอยากลองทำ ที่จะต้องใช้เชอรี่อยู่พอดีเลยนะสิ 
สูตรที่พูดถึงก็คือ Cherry Trifle ขนมน่ารักๆ ที่ทำไม่ยากด้วยนะสิคะ เพราะ ขนมชิ้นนี้ มีส่วนประกอบอยู่ 4 อย่าง คือ  sugared cherries, ตัวเค้ก, น้ำเชื่อม, และวิปปิ้งครีม ซึ่งส่วนประกอบที่จะใช้เวลาทำมากที่สุดก็แค่ตัวเค้กนี่ล่ะคะ นอกนั้นแค่แป๊บเดียวก็เรียบร้อยแล้ว

ตัวเค้กที่พูดถึงนี่เป็น เค้กที่หอมมากๆเลยค่ะ (ปุ๊กว่า คำว่า amazing ของเขาน่าจะหมายถึงกลิ่นล่ะมั้ง 5555), เพราะว่าใช้ วานิลลาถึง 3 ชนิดด้วยกันค่ะ  vanilla powder, extract แล้วยังใช้เม็ดวานิลลาอีกด้วย  ^^ ดังนั้น คงสามารถจินตนาการได้เลยนะคะ ว่า เวลาอบ มันต้องหอมมากๆๆๆเลยใช่ไหมเอ่ย แล้ว รสชาติก็ยังออกมาดีด้วยค่ะ   

อันนี้ คือ วานิลลาผงที่ปุ๊กใช้นะคะ มันเป็น วานิลลา ที่นำไปบดค่ะ ดังนั้น เราจึงสามารถนำไปผสมกับของแห้งได้เลย แต่ว่า ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใช้ก็ได้ค่ะ 

ปุ๊กปรับสูตรเล็กน้อยนะคะ ในส่วนของเชอรี่ เพราะปุ๊กว่า ถ้า ไม่ปรุงให้ออกเปรี้ยวเล็กน้อย รสชาติของขนม มันออกมาเรียบเกินไปอ๊ะค่ะ (แบบว่า โมโนโทนเลยล่ะค่ะ) 

สูตรนี้ ดีอีกอย่างคือ เป็นขนมที่เหมาะกับงานเลี้ยงค่ะ เพราะเราสามารถเตรียมล่วงหน้าได้นะคะ คือ เราอบเค้กไว้ก่อน แล้ว พอวันงาน ก่อนที่จะทำอาหารจานอื่น เราก็ทำขนมจานนี้ แล้วแช่เย็นไว้ก่อน เพราะว่า ขนมจะอร่อยขึ้น เมื่อพักไว้ 2 ชั่วโมงในตู้เย็นค่ะ 
ขนาดของขนม ก็สามารถจะทำเป็น ชามใหญ่  (9-inch) หรือ จะทำเป็น ถ้วยเล็กๆแบบปุ๊กก็ได้นะคะ 

Note: ปุ๊กทำแค่ครึ่งสูตรนะคะ แต่ ปุ๊กว่า เอาสูตรเต็มลงให้น่าจะดีกว่าค่ะ 




Cherry Trifle
Make one 9-inch layered dessert
(ถ้าทำไซส์เล็กก็ขึ้น อยู่กับขนาดของแก้วที่ใช้นะคะ)


For the sugared cherries
2 pints ........................... cherries ล้าง และเอาเม็ดออก (ประมาณ 4 ถ้วยตวง)
2oz. ................................ น้ำตาลทรายละเอียด
1tsp ............................... apple cider vinegar
1-2tbsp ......................... น้ำมะนาว

For Amazing vanilla cake

Dry ingredients
8oz. ............................... แป้งอเนกประสงค์
1oz. ............................... แป้งมันฝรั่ง
¼ tsp ........................... เกลือ
1tbsp ............................ ผงวานิลลา (vanilla powder)

Wet ingredients
4oz. ............................... เนยจืด
2tbsp ............................ รัม
1tbsp ............................ vanilla extract
6 ................................... ไข่ แยกไข่แดงไข่ขาว
12oz. ............................ น้ำตาลทรายละเอียด 
...................................... เม็ดวานิลลา จาก วานิลลาครึ่งฝัก

For the sugar syrup
12oz. ............................. น้ำตาลทรายละเอียด 
¾ cup ........................... น้ำ

For the whipped cream
3cups ............................ whipping หรือ heavy cream 
2oz. ............................... น้ำตาลทรายละเอียด 
1tsp ............................... vanilla extract

Make the sugared cherries:

ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน คลุกให้ทั่ว


แช่ตู้เย็นไว้2ชั่วโมง แล้วกรองแยกน้ำเก็บไว้ 

ในขณะที่แช่เชอรี่ในตู้เย็น ทำ Amazing vanilla cake.

Make the cake:
เปิดเตาอบที่ 325 °F เตรียมพิมพ์ขนาด 9นิ้ว สูง2 นิ้ว 2 อัน โดยวางกระดาษรองอบไว้ด้านใน 
เตรียมส่วนของแห้ง แล้ว ใช้ ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน 


ละลายเนยในหม้อใบเล็ก แล้วต้มจนเริ่มเป็นสีน้ำตาล นำลงจากเตาแล้วใส่ รัมและวานิลลาลงไป 


ตีไข่ขาวจนฟูแล้วค่อยๆใส่น้ำตาล 2 oz.ลงไป แล้วตีไปอีกประมาณ 20 วินาที  


ในชามอีกใบ ผสมไข่แดง น้ำตาลที่เหลือ และ เม็ดวานิลลา ตีจนสีอ่อนลง
ลดสปีดของเครื่อง แล้วใส่ส่วนของแห้งลงไป (โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน) 
ตะล่อมเมอแรงค์ลงไปในส่วนของไข่แดง แล้วตามด้วย เนยละลาย


แบ่งส่วนผสมลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ 
นำเข้าอบประมาณ 18-20 นาที หรือ จนด้านบนสีน้ำตาลทอง และเมื่อใช้ ไม้จิ้มลงไปตรงกลางเค้ก ไม่มีเศษเค้กติดออกมา
พักจนเย็นในพิมพ์ แล้วจึงค่อยนำออกจากพิมพ์ 


ทำน้ำเชื่อมโดยการ นำน้ำตาล และน้ำเทลงในหม้อ ต้มให้เดือดอ่อนๆ จนน้ำตาลละลายหมด แล้วนำลงจากเตา พักให้เย็นสนิท 

เมื่อเตรียม sugared cherries, เค้ก และน้ำเชื่อมเรียบร้อยให้เตรียมถ้วย สำหรับใส่ trifle

Make the whipped cream:


ตีส่วนผสมทุกอย่างรวมกัน จนตั้งยอดอ่อน (ถ้าใช้เครื่องให้ตีไปจนแค่เริ่มข้น แล้วเปลี่ยนมาใช้ตะกร้อมือตีต่อจนใช้ได้ค่ะ)
ส่วนผสมที่ได้ ไม่ควรตั้งยอดแข็งนะคะ

Assemble the dessert:

ตัดเค้กแต่ล่ะชิ้นเป็น 2 ชั้น วางเค้กลงในแก้วที่ต้องการ (พอดีปุ๊กทำเป็น อันเล็กนะคะ ก็เลยต้องตัดเป็น ชิ้นให้พอดีแก้วค่ะ) แล้ว แล้วใช้แปรงพรมน้ำเชื่อม และ น้ำที่ได้จากเชอรี่ให้ทั่วเค้ก บีบครีมลงไป แล้ววางทับด้วย เชอรี่ แล้วทับด้วยเค้ก พรมด้วยน้ำเชื่อม แล้วจึงบีบวิปปิ้งครีมลงด้านบน และตกแต่งด้วย เชอรี่ที่เหลืออยู่ (ถ้าทำชิ้นใหญ่ จะใช้ เค้ก 3 เลเยอร์ และเชอรี่กับวิปปิ้งครีม 2 ชั้นค่ะ)
นำเข้าแช่ในตู้เย็น 2 ชั่วโมงก่อน เสิร์ฟ


Cherry Trifle:
 Cherry Cherry, you're my sweet cherry!

Printfriendly