กับคุณบรรเจิด เหล็กคง ศิลปินคนเก่งของพวกเราค่ะ |
ตามที่เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้นะคะ ว่าปุ๊กจะตามมาเก็บรายละเอียดโครงการ “นำศิลปินไทยสู่สากล” ซึ่งเป็น การดำเนินงานเพื่อสังคมในด้านศิลปะ ของ สิงห์ปาร์ค เชียงราย ที่ต้องการสนับสนุนศิลปินไทยให้มีโอกาสแสดงความสามารถ สู่สายตาชาวไทยและชาวต่างชาติในเวทีระดับสากล โดยงานที่ปุ๊กได้มีโอกาสไปชมครั้งนี้คืองาน Metamorphosis: Banjerd Lekkong/ A Solo Exhibition (ในวันที่ 20 พค. 2016 - 9 มิถุนายน 2016) ของคุณบรรเจิด เหล็กคง ซึ่งเป็นศิลปินไทยที่สิงห์ปาร์ค เชียงราย ให้การสนับสนุนเพื่อไปจัดแสดงผลงานที่ Agora gallery ในนิวยอร์ก มาฝากกันค่ะ
ต้องบอกเลยว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกสำหรับการมานิวยอร์คของปุ๊กเช่นกันค่ะ ก็เลยตื่นเต้นไม่น้อยเลย และเมื่อได้มาแล้วยิ่งทำให้รู้ว่า เพราะเหตุใด การได้มาเปิด Solo Exhibition สำหรับศิลปินไทยคนนึงถึงเป็นเรื่องที่สุดยอดมาก เพราะ นิวยอร์ค เป็นเมืองแห่งศิลปะจริงๆ ค่ะ ไม่ว่าจะไปที่ไหน จะมี Gallery, Art Museum, ละคร รวมไปถึง สตรีทอาร์ตมากมาย ราวกับว่าเมืองนี้หายใจเป็นศิลปะเลยค่ะ
ถ้าจะเล่าเรื่องราวของคุณบรรเจิด เหล็กคง คงต้องเริ่มตั้งแต่การเกิดและเติบโตในอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา คุณพ่อของเขาเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถ เขาจึงได้คลุกคลีกับชิ้นส่วนเหล็กต่างๆ ได้ลองนำมาประกอบเป็นของเล่น และโมเดลต่างๆ ตั้งแต่เด็ก ประกอบกับการอยู่ใกล้ชิดกับความงามของปราสาทหินพิมาย และวัดต่างๆ สิ่งเหล่านี้ กลายเป็นพื้นฐานของงานศิลปะของเขา ซึ่งเมื่อมารวมกับการได้เรียนในคณะสถาปัตยกรรมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา ยิ่งทำให้การพัฒนาในด้านศิลปะของเขาชัดเจนขึ้น แต่ทางเดินของเขาไม่ได้ง่ายเลยค่ะ คงพูดได้ว่างานศิลปะไม่ได้เกิดจากการบังคับแต่มันเกิดขึ้นด้วยตัวมันเองก็คงไม่ผิด เพราะถึงแม้ว่าจะทำงานศิลปะเหล็กมาตลอด แต่เขาก็ทำงานเป็น สถาปนิกเป็นหลัก จนมีการพลิกผันในชีวิต ที่ทำให้เขาได้หันกลับมาจริงจังกับมันอีกครั้ง และทำอย่างมุ่งมั่นมาเรื่อยๆ เป็นเวลา 13 ปี จนมาถึงวันนี้ (หากใครสนใจสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่นะคะ www.lekkong.com
งานของคุณบรรเจิดเป็นงานที่เต็มไปด้วยรายละเอียดจริงๆค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
11 พญาวานรต่อกายเป็นช้างสามเศียร
ที่เป็นการนำเหล็กมาดัดเป็นพญาวรนร 11 ตัวที่ต่อตัวรวมกันเป็นช้างสามเศียรที่มีความอ่อนช้อยสวยงาม
องค์พระพิฆเนศ 16 กร
องค์พระพิฆเนศมี 16 กร พร้อมอาวุธครบมือ ซึ่งสื่อถึงชัยชนะ
พระรามแผลงศร
ผลงานในยุคแรกของคุณบรรเจิด เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการสร้างผลงาน
แม้ว่างานเหล็กของเขาจะมีความเป็นตัวเอง และ เต็มไปด้วยรายละเอียดราวกับมีชีวิต แต่ กลับไม่ได้รับความสนใจ ในตลาดศิลปะของเมืองไทย เขาจึงได้เริ่มต้น ส่งงานของเขาไปให้แกลลอรี่หลายๆแห่งในต่างประเทศ และได้รับความสนใจอย่างมาก จนกระทั่งได้รับเชิญมาแสดงที่ Agora Gallery ที่มีชื่อเสียง ติด 1 ใน 6 ของนิวยอร์ค แต่เรื่องเศร้าคือเขาไม่สามารถหาผู้สนับสนุนในการมาจัดงานแสดงได้ “คนไทยเองไม่สนใจ และไม่ให้การยอมรับ” ประโยคนี้เองที่ทำให้คุณบรรเจิดต้องพยายามอย่างมาก ไม่ว่าจะเดินไปขอการสนับสนุนจากหลายๆ องค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน หลายแห่งเพื่อที่จะหาเงินทุนในการนำงานมาจัดแสดงที่นิวยอร์ค จนกระทั่งโชคชะตา นำเข้ามาพบคุณสันติ ภิรมย์ภักดี และได้รับการสนับสนุน จากทาง ‘สิงห์ปาร์ค เชียงราย’ ให้ได้มาแสดงให้โลกเห็นว่า ศิลปะของคนไทย ไม่ได้ด้อยกว่าชาติไหนในโลกเลย
ถ้าใครจะถามปุ๊กว่า ทำไมทาง ‘สิงห์ปาร์ค เชียงราย’ ถึงต้องช่วย ก็ต้องย้อนไปถึงเรื่อง โซเชียล เอ็นเตอร์ไพรส์ที่เคยได้เล่าให้ฟังไปแล้วนะคะ (อ่านรายละเอียดได้ที่ Social Enterpirse ในประเทศไทย ที่สิงห์ปาร์ค เชียงราย) เพราะการส่งเสริมสังคมมีความหมายถึงการส่งเสริมในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสร้างรายได้ และในด้านของศิลปะวัฒนธรรม
บรรยากาศภายในงาน มีผู้ร่วมงานเยอะมากค่ะ |
การส่งเสริมด้านศิลปะ มีความสำคัญไม่แพ้กันค่ะ และยิ่งเป็นงานที่มีเอกลักษณ์ของไทยเข้าไปผสมด้วย แบบนี้ไม่เพียงแค่สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย แต่เราจะได้ เผยแพร่ความงามของศิลปะไทยให้โลกได้เห็นด้วยนะคะ ใครอาจจะเคยได้ยินว่า เราจะรู้ถึงความเจริญของแต่ล่ะประเทศได้ ก็จากการความสนใจในศิลปะด้วยนะคะ
กับพี่โหน่ง วงทนงค์ ชัยณรงค์สิงค์ |
ซึ่งเมื่อได้มาเห็นนิวยอร์คแล้ว คงพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า เป็นเมืองที่มีความเจริญมากค่ะ เพราะศิลปะ แทบจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันกันเลยทีเดียว
ผลงานของคุณบรรเจิดที่ได้ขึ้น บิลบอร์ดบนไทม์สแควร์ |
การส่งเสริมด้านศิลปะ ของทาง ‘สิงห์ปาร์ค เชียงราย’ ไม่ได้จบลงด้วยการส่งศิลปินเพียงท่านเดียวนะคะ เพราะต่อไป ‘สิงห์ปาร์ค เชียงราย’ จะมีการคัดเลือกศิลปิน เพื่อจะสร้างโอกาสให้ศิลปินหน้าใหม่ๆ ของไทย ได้มีโอกาสที่จะนำงานของเขามาแสดงในเมืองที่ศิลปะ เป็นลมหายใจของทุกคน อย่างนิวยอร์คกันอีกค่ะ
โดยศิลปินที่สนใจจะส่งผลงานสามารถ เข้าไปอ่านรายละเอียดได้ทางเว็ปไซต์ http://singhaparksocialenterprise.com/worldclassthaiartist/ ได้นะคะ
ศิลปินที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสมัครและส่งผลงานได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป
ผู้สมัครต้องส่งภาพผลงานทุกชิ้นและชำระค่าธรรมเนียมการประกวดภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2559 ค่ะ
ศิลปินที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสมัครและส่งผลงานได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป
ผู้สมัครต้องส่งภาพผลงานทุกชิ้นและชำระค่าธรรมเนียมการประกวดภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2559 ค่ะ
ซึ่งหลังจากได้ไปติดตามดูแล้ว ก็หวังว่าด้วยการสนับสนุนของทาง สิงห์ปาร์ค เชียงราย เราจะได้เห็นผลงานของศิลปินได้รุ่นใหม่ๆ ได้โชว์ความสามารถที่มีไม่แพ้ใครของคนไทยในเวทีศิลปะของโลกอีกมากมายค่ะ
No comments:
Post a Comment