เอ้อ..ของชอบอีกแล้วค่ะ ชีสเค้กนี่ไงคะ แล้วยิ่งมาอยู่ในถ้วยแบบนี้ คงไม่มีใครอยากปฏิเสธนะ (ก็เดี๋ยวนี้ใครๆก็ชอบของเล็กๆกันทั้งนั้นนี่น่า) สูตรชีสเค้กมาจากหนังสือ The Cake Book โดย Tish Boyle ค่ะ (เล่มที่เคยลงสูตร LUXE POUND CAKE WITH EASY STRAWBERRY SAUCE ไปไงคะ) แต่ในสูตรเขาให้ใช้ sour cherry, มาวางด้านบน แต่เราไม่มี ก็เลยต้องคิดเองแล้วค่ะ ก็เลยมาลงที่ “Raspberry”, อีกแล้วเพราะชอบมากเลย ทั้งรสชาติที่เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด สีแดงสด พอมารวมกันกับชีสเค้ก ก็ลงตัวดีค่ะ ตัวซ้อสปุ๊กทำให้ข้นโดยการใส่แป้งข้าวโพดลงไปนิดหน่อยค่ะ แค่พอให้อยู่ตัวแต่ก้ยังไหลเย้มเล้กน้อย เมื่อแกะกระดาออก สีตัดกันดีค่ะ ระหว่างสีครีมของชีสเค้กและสีแดงของซ้อส อืม...แล้วถ้าคิดถึงรสชาติ เป็นการรวมตัวกันของ 3 อย่างค่ะ คือชีสที่หวานนิดๆ ครัมด้านล่างที่กรอบหน่อยๆ แล้วมาถึงรสชาติเปรี้ยวๆของซ้อส, ปุ๊กหวังว่าทุกคนจะชอบชีสเค้กสูตรนี้เช่นกันค่ะ
Cheesecake Cups with Raspberry Sauce
ทำได้ 12 ถ้วย ขนาดมัฟฟินธรรมดา
GRAHAM CRACKER CRUSTS | |
1 cup (120g) | Digestive cracker crumbs |
1 tbsp (12g) | น้ำตาลทราย |
4 tbsp (57g) | เนยเค็ม, ละลาย |
| |
CHEESECAKE FILLING | |
12 oz (340g) | cream cheese, อ่อนตัวแล้ว |
¾ cup (150g) | น้ำตาลทราย |
1 tsp | vanilla extract |
½ tsp | ผิวเลมอนขูด |
⅛ tsp | เกลือ |
2 | ไข่ฟองใหญ่ |
1 | ไข่แดงฟองใหญ่ |
½ cup (121g) | sour cream |
| |
RASPBERRY SAUCE | |
300 g | ราสเบอรี่แช่แข็ง |
60-70 g | น้ำตาล |
¾ tsp | แป้งข้าวโพด |
1 tsp | น้ำเปล่า |
| |
| |
2. ผสมครัม และน้ำตาลให้เข้ากัน แล้วใส่เนยลงไป ผสมให้เข้ากัน
แบ่งส่วนผสมของครัมใส่ลงในถ้วยที่เตรียมไว้ แล้วกดให้เท่ากัน
3. นำเข้าอบประมาณ 5-7 นาที หรือจนเริ่มมีกลิ่นหอม นำออกจากเตาแล้วพักไว้ ขณะที่ทำเนื้อชีสเค้ก
MAKE THE FILLING
4. ใส่ครีมชีสลงในอ่างผสมของเครื่อง แล้วใช้หัวตีใบไม้ ตีด้วยความเร็วต่ำตีจนเนียน (ปุ๊กใช้เครื่องตีมือค่ะ) ตีประมาณ 2 นาที ค่อยๆใส่น้ำตาลลงไป แล้วตีจนเข้ากัน ใช้เวลาประมาณ 1 นาที ใส่ vanilla extract ผิวเลมอน และเกลือ แล้วตีให้เข้ากัน
ใส่ไข่และไข่แดงลงไปทีล่ะฟอง คอยปาดขอบอ่างเป็นระยะ แล้วผสมจนเข้ากัน แล้วใส่ sour cream ลงไปผสมจนเข้ากันดี
5. ตัดส่วนผสมลงในถ้วย จนเกือบเต็มถ้วย นำเข้าอบประมาณ 20 -25 นาที จนด้านบนเริ่มแตก และอยู่ตัว
นำไปพักไว้บนตะแกรงจนเย็น (ด้านบนของชีสเค้กจะยุบลงเมื่อเย็นตัวแล้ว)
MAKE THE TOPPING
1. ทิ้งราสเบอรี่แช่แข็งให้ละลาย (ไม่ต้องทิ้งน้ำ)
2. ใส่ราสเบอรี่ลงในเครื่องปั่น แล้วปั่นให้ละเอียด แล้วกรองผ่านกระชอนเพื่อเอาเม็ดออก (จะได้ประมาณ 200 กรัมค่ะ)
3. ใส่ราสเบอรี่ที่กรองแล้วลงในหม้อ พร้อมน้ำตาล (ปรับปริมาณของน้ำตาลได้ตามชอบแต่ให้ออกเปรี้ยวนิดๆไว้นะคะ) แล้วตั้งไฟอ่อน จนเดือด
4. ผสมแป้งข้าวโพดกับน้ำในถ้วย แล้วเทลงไปในหม้อ คนให้เข้ากัน คนไปเรื่อยๆจนเดือด ให้เดือดประมาณ 1 นาที นำออกจากเตาแล้วทิ้งไว้ให้เย็น ประมาณ 20 นาที
5. นำชีสเค้กออกจากถ้วย แล้วตักซ้อสราดด้านบน แล้วพักไว้ในตู้เย็นประมาณ 1 ชม ก่อนเสิร์ฟ
ชีสเค้กพออบใส่ถ้วยเล็ก แบบนี้แล้วทำไมมันดูน่ารักกว่าเป็นก้อน ๆ เยอะเลยนะเนี่ย...ขอดูอย่างเดียวดีกว่าถึงเป็นถ้วยเล็ก ๆ แบบนี้แต่เค้ารู้นะว่ามันอัดแน่นไปด้วยความเข้มข้นหวานมัน ^ ^
ReplyDeleteถามหน่อยนะคะ ถ้าทำแล้วเก็บไว้ทานได้นานแค่ไหน สมมติว่าจะทำเย็นนี้ พรุ่งนี้ตอนเย็นจะเสียมั้ยอะคะ ตอบด้วยนะคะ
ReplyDeleteไม่เสียค่ะ
ReplyDeleteอยู่ได้อย่างน้อยก็ประมาณ 3 วันค่ะ
คุณปุ๊กคะ
ReplyDeleteตอนอบfillingต้องใช้ไฟกี่เซลเซียสคะ
ขอบคุณค่ะ
ตื่นเต้นจัง พรุ่งนี้จะทำแล้ว
ใช้ไฟเท่ากับตอนอบฐานค่ะ
ReplyDeleteพี่ปุ๊กคะ
ReplyDeleteถ้วยที่เป็นพิมพ์กะถ้วยกระดาษนี่เป็นขนาดเท่าไหร่อะคะ แล้วถ้วยกระดาษนี่เป็นถ้วยกระดาษธรรมดารึป่าว หรือว่ามีชื่อเรียกเฉพาะคะ ตอนไปซื้อจะได้บอกเค้าถูก ^^ ขอบคุณค่ะ
Yes the paper cup is a standard muffin size ka.
ReplyDeleteThanks for the delicious recipe! I tried this tonight and it turn out super!
ReplyDeleteThanks for such a delicious recipe! Made it tonight and it turn out perfect or it is the best cheesecake I ever make!
ReplyDeleteทำแล้วคระ อร่อยมากกกกกกกก ขอบคุณคุณปุ๊กที่แบ่งปันสูตรขนมอร่อยๆให้ลองทำ คุณพ่อคุณแม่ชอบมากคระ
ReplyDeleteคุณปุ๊กค่ะ ถ้าเปลี่ยนToppingจากราสเบอรี่เป็นแยมสตอเบอรี่ได้มั้ยคะ คือนำแยมสตอเบอรี่ละลายที่เตาไฟกลางก่อนใช่มั้ยคะก่อนนำไปราดข้างบน รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ
ReplyDeleteได้ค่ะ ให้อุ่นแยมเล็กน้อย ให้พอเหลวก่อนนำไปราดด้านบนค่ะ ^^
ReplyDeleteใช้ไฟบน-ล่าง หรือไฟล่างคะ
ReplyDeleteใช้ไฟบนล่างค่ะ
ReplyDeleteถ้าไม่มี sour cream กับผิวเลมอน สามารถใช้อะไรแทนได้ไหมคะ หรือสามารถตัดออกเลยก็ได้
ReplyDeleteSour cream ใช้โยเกิร์ตแทน หรือใช้ วิปปิ้งครีม ผสมกับน้ำเลมอน หรือน้ำส้มสายชูหมัก 1/2 ช้อนโต๊ะได้ค่ะ ส่วนผิวเลมอน ละไปก็ได้ค่ะ
ReplyDelete