เกด (Pastel pied ) มาเยี่ยมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะ โดยบอกไว้ว่าให้ปุ๊กลองทำขนมไว้ให้ชิม แหม อย่างงี้ไม่มีพลาดค่ะ ก็มีลูกค้ารายใหญ่นิ ตอนแรกก็คิดว่าจะทำบราวนี่สูตรที่ทำประจำให้ลองค่ะ แต่สูตรใหม่ๆที่ได้มาก็ยังมีน่าลองหลายสูตรค่ะ ปุ๊กเลยถือโอกาสลองสูตรใหม่ๆไปในตัว สูตรที่ลองคราวนี้เป็นบราวนี่จากหนังสือ Leiths Baking Bible (Leiths)โดย Susan Spaull and Fiona Burrell อีกแล้วค่ะ (บอกได้เลยค่ะ ตอนนี้รักหนังสือเล่มนี้มากๆเลย คือหนังสือไม่ได้สวยนะคะ แต่เนื้อหา และสูตรถือว่าดีมากๆเลยค่ะ) บราวนี่สูตรนี้ทำง่ายดีค่ะ แล้วก็รสชาติใช้ได้ (ตอนทำปุ๊กใช้น้ำตาลแค่ 210 กรัมค่ะ แต่ในสูตรที่ใส่มาเป็นปริมาณตามหนังสือนะคะ เผื่อใครไม่ชอบทานขม ก็ใส่ตามสูตรได้ค่ะ) แล้วยิ่งผ่านไปวันนึงยิ่งอร่อยขึ้น แล้วก็ชุ่มฉ่ำขึ้นด้วย (แต่สูตรนี้ ไม่ใช่สูตรแบบหนึบๆนะคะ) เป็นสูตรที่เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ เวลาที่อยากทำบราวนี่แต่ไม่มีช็อกโกแลตแบบแท่งติดบ้าน
Cocoa Brownies
ทำได้ 16 ชิ้น
115g / 4oz
|
เนยจืด
|
45g / 1½ oz
|
ผงโกโก้ (Dutch-Process
|
2
|
ไข่
|
225g / 8oz
|
น้ำตาลทราย
|
1 teaspoon
|
vanilla essence
|
55g / 2 oz
|
self-raising flour
(หรือใช้ ผงฟู ¼ ช้อนชากับแป้งเค้กค่ะ)
|
115 g
|
ถั่วตามชอบ(สับ) - ปุ๊กใช้เม็ดมะม่วงหิมพานต์ค่ะ
|
55g/ 2oz
|
chocolate chips
|
1. เปิดเตาอบที่180°C/ 350°Fทาเนยและรองกระดาษพิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด 20 เซน(หรือ 8 นิ้ว) พักไว้
2. นำเนยขึ้นตั้งไฟอ่อนจนละลาย แล้วใส่ผงโกโก้ลงไป คนให้เข้ากันแล้วพักไว้จนเย็น
3. ตีไข่กับน้ำตาลจนขาว แล้วใส่ส่วนผสมของโกโก้ลงไป ตะล่อมให้เข้ากัน
4. ใส่วานิลลาลงไป แล้วร่อนแป้งและผงฟูลงบนชาม แล้วตะล่อมแป้งให้เข้ากัน
5. เทส่วนผสมครึ่งนึงลงในถาด โรยด้วยครึ่งนึงของถั่วและช็อกโกแลตชิพ ราดส่วนผสมที่เหลือลงไป แล้วโรยด้วย ถั่วและช็อกโกแลตชิพ ที่เหลืออยู่
6. อบประมาณ 30 นาที หรือจนอยู่ตัว เมื่อใช้ไม้จิ้มลงไป จะออกมาแฉะ แต่ไม่มีเศษเนื้อบราวนี่ที่ไม่สุกติดออกมา
7. นำออกมาพักไว้บนตะแกรงจนเย็น แล้วจึงตัดเป็นชิ้น
Easy, yet looks yummyyy
ReplyDeleteLook so tasty..I 'll try this recipe. Thanks a lot +++
ReplyDeleteทำแล้วค่ะ อร่อยมั่กๆๆๆๆ ขนมหมดด้วยความรวดเร็วค่ะ อิอิ ขอบคุณมากค่ะสำหรับสูตรขนมอร่อยๆ ^^
ReplyDeleteขออนุญาตสอบถามค่ะ สำหรับ self raising flour ใช้ผงฟูผสมกับแป้งเอนกประสงค์ได้มั้ยค่ะ
ReplyDeleteสำหรับสูตรนี้น่าจะพอได้ค่ะ เพราะใช้แป้งไม่มากนักค่ะ
ReplyDeleteอยากทราบค่ะว่า เวลาทำบราวนี่จำเป็นต้องใครเครื่องทำขนมตีส่วนผสมหรือเปล่าคะ ขอบคุณนะคะ
ReplyDeleteตอนตีไข่หากใช้เครื่องก็จะช่วยให้ง่ายขึ้นเยอะค่ะ
ReplyDeleteสำหรันคนที่แพ้แป้งสาลี ( gluten free ) ไม่ทราบว่าจะใช้แป้งอะไรแทนได้ค่ะ
ReplyDeleteลองใช้แป้งข้าวเจ้า น่าจะแทนได้ค่ะ
ReplyDeleteถ้าต้องการเนื้อเค้กหนึบ และฉ่ำ ควรทำอย่างไรค่ะ
ReplyDeleteส่วนใหญ่ จะต้องเพิ่มส่วนผสมประเภทน้ำเชื่อมลงไป และลดเวลาอบค่ะ
ReplyDeleteรบกวนถามคุณปุ๊กค่ะ
ReplyDeleteพอดีทำแล้วหลายครั้งและลดน้ำตาลลงเรื่อยๆจบถึงเหลือ140g เพราะคุณแม่บอกหวานมากๆแต่พอทำแล้วเนื้อแห้งร่วนๆและหน้าไม่กรอบเป็นด้านๆเกี่ยวกันปริมาณน้ำตาลมั้ยคะ
แล้วถ้าอยากได้ไม่หวานหน้ากรอบหน่อยแต่ข้างในนิ่มๆไม่แห้งร่วนต้องปรับยังไงคะ
ขอบคุณมากนะคะ
หากลดน้ำตาลมากไปมีผลกับเนื้อขนมแน่นอนค่ะ
ReplyDeleteอืม ปรับยากเหมือนกันนะคะ เพราะหากไม่หวานก็จะต้องเพิ่มส่วนของไขมัน (เพื่อความสมดุลของสูตร) หรือใส่ของเหลวเพิ่มอะค่ะ
ลองทำแล้วอร่อยมากค่ะ ไม่ยากเท่าไรด้วย แต่หากขอลดน้ำตาลจาก 225g เป็น 200g จะมีผลต่อเนื้อแป้ง และหน้ารึป่าวคะ ขอบคุณค่ะ
ReplyDeleteมีค่ะ เนื้อจะแห้งลง แต่หาก ต้องการ ให้ลองลดเวลาอบลงด้วย อาจจะช่วยให้ไม่แห้งมากค่ะ
ReplyDeleteขอโทษนะคะเวลาอบเปิดพัดลมไหมค่ะ
ReplyDeleteอบไฟธรรมดา ไม่ใช้พัดลมค่ะ
ReplyDeleteพิมพ์ไปไม่รู้ติดหรือเปล่าเมื่อกี๋
ReplyDeleteขอบคุณสำหรับคำตอบและสูตรอร่อยๆนะค่ะ
ครั้งแรกทำเรายัดไส้ Peanut butter เข้าไป อร่อยเข้ากันมากเลยค่ะ
แต่หลังๆอบบราวนี่สูตรนี้ทำเท่าไหร่ก็ไม่สุกค่ะ ข้างในแฉะเละๆ แต่หน้าแห้ง แข็ง แล้วก็แตกค่ะ ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรค่ะ ทั้งๆที่ส่วนผสมเหมือนกันทุกอย่างไม่ได้ปรับสูตรเลยค่ะ TT
(หรือเพราะผงโกโก้ค่ะ เพราะเราเปลี่ยนยี่ห้อ เป็น VAN)
เป็นไปได้ค่ะ ว่าเกิดจากตัวโกโก้ เพราะแต่ล่ะยี่ห้อจะมีปริมาณไขมันที่ต่างกันด้วยค่ะ
ReplyDelete